Monday, February 27, 2012

Windows 8 Stock Keeping Unit (SKU)

พบข้อมูล Windows 8 SKU บนเว็บไซต์ HP ไม่มี Windows 8 Ultimate
ในการออกระบบปฏิบัติการ Windows แต่ละเวอร์ชันนั้นไมโครซอฟท์จะมีการแบ่งเวอร์ชัน Stock Keeping Unit (SKU) ออกเป็นหลายเวอร์ชันด้วยกันเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ใน Windows 7 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปัจจุบันนั้นแบ่งเวอร์ชัน Windows 7 SKU ออกเป็น 6 เวอร์ชันด้วยกัน ได้แก่ Starter, Home Basic, Home Premium, Professional, Enterprise และ Ultimate แต่ใน Windows 8 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันถัดไปนั้นมีรายงานโดยอ้างข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของ HP ว่าไมโครซอฟท์จะลดจำนวนเวอร์ชัน SKU ลงเหลือเพียง 3 เวอร์ชันเท่านั้น คือ Windows 8 (ไม่มีเวอร์ชัน), เวอร์ชัน Professional และเวอร์ชัน Enterprise โดยจะไม่มีเวอร์ชัน Starter, Home Basic, Home Premium และ Ultimate

สำหรับสาเหตุที่เวอร์ชัน Ultimate ถูกตัดออกนั้นคาดว่าถึงแม้จะเป็นเวอร์ชันที่มีคุณสมบัติและสามารถสูงสุดแต่อย่างไรก็ตามไม่ค่อยสำเร็จด้านยอดขายเมื่อเทียบกับเวอร์ชัน Home Premium และ Professional ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากเป็นเวอร์ชันที่ราคาที่สูงมากกว่าเวอร์ชันอื่นๆ ในขณะสาเหตุที่เวอร์ชัน Home Basic และ Home Premium นั้นอาจเกิดจากการมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ส่วนเวอร์ชัน Starter นั้นมีข้อจำกัดมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมาใช้งานจริง

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของ HP ทำให้คาดว่าไมโครซอฟท์จะแบ่งเวอร์ชัน Windows 8 SKU ออกเป็น 3 เวอร์ชัน จำนวน 6 รุ่นด้วยกัน โดยเป็นเวอร์ชันสำหรับลูกค้าทั่วไป 4 รุ่น และสำหรับลูกค้าในองค์กร 2 รุ่นดังนี้
  • Microsoft Windows 8 32 Edition
  • Microsoft Windows 8 64 Edition
  • Microsoft Windows 8 Professional 32 Edition
  • Microsoft Windows 8 Professional 64 Edition
  • Microsoft Windows 8 Enterprise 32 Edition
  • Microsoft Windows 8 Enterprise 64 Edition

จากข้อมูลเวอร์ชันของ Windows 8 ด้านบน สามารถเทียบเคียงการใช้งานของแต่ละเวอร์ชันโดยอ้างอิงกับเวอร์ชันของ Windows 7 ได้ดังนี้

Windows 8
Windows 8 ไม่มีชื่อเวอร์ชันต่อท้าย (บางเว็บเรียกว่า Windows 8 Regular) คาดว่าเป็นเวอร์ชันสำหรับการใช้งานของผู้ใช้ตามบ้าน ที่เน้นการใช้งานด้านการท่องอินเทอร์เน็ต รับ-ส่งอีเมล หรือใช้ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น

Windows 8 Professional
เวอร์ชัน Professional คาดว่าเป็นเวอร์ชันสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพหรือภายในองค์กรขนาดเล็ก โดยเวอร์ชันนี้นอกจากมีคุณลักษณะทั้งหมดที่มีในเวอร์ชันปกติแล้วน่าจะรวมคุณลักษณะด้านความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงที่เคยมีในเวอร์ชัน Ultimate ของ Windows 7 เข้ามาด้วย

Windows 8 Enterprise
เวอร์ชัน Enterprise เป็นเวอร์ชันสำหรับการใช้งานภายในองค์กรขนาดใหญ่ โดยเวอร์ชันนี้จะมีให้กับลูกค้าแบบ Volume License (VL) ผ่านทาง Microsoft Software Assurance (SA) เท่านั้น คาดว่าเวอร์ชัน Enterprise น่าจะมีคุณลักษณะต่างๆ ที่มีในเวอร์ชัน Professional บวกกับคุณลักษณะสำหรับการใช้งานในองค์กรณ์ขนาดใหญ่

กลุ่มลูกค้าผู้ใช้ Windows
ไมโครซอฟท์จะแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือลูกค้าทั่วไปซึ่งจะเรียกว่ากลุ่มลูกค้าปลีก (Retail) และกลุ่มลูกค้าแบบองค์กร (Enterprise) โดยลูกค้าแต่ละกลุ่มจะสามารถเลือกใช้ Windows 8 เวอร์ชันดังนี้

กลุ่มลูกค้าแบบทั่วไป
Windows 8 เวอร์ชันสำหรับลูกค้าแบบทั่วไปนั้นจะมีเพียง 2 เวอร์ชันคือ Windows 8 และ Windows 8 Professional ซึ่งน้อยกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง Windows 7 ที่มีให้เลือกถึง 4 รุ่น คือ Starter, Home Basic, Home Premium, Professional และ Ultimate

กลุ่มลูกค้าแบบองค์กร
Windows 8 เวอร์ชันสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรนั้นจะมีเพียง 1 เวอร์ชัน คือWindows 8 Enterprise เหมือนกับเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง Windows 7

อนึ่ง ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ Windows 8 SKUs นี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากไมโครซอฟท์

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Copyright © 2012 TWA Blog. All Rights Reserved.

0 Comment: