Saturday, November 29, 2008

25 ปีของการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows

Twenty-Five Years of Windows
นับเป็นเวลา 25 ปีแล้วที่ นับตั้งแต่เด็กหนุ่มที่ชื่อ William Henry "Bill" Gates III หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อบิล เกตส์ (Bill Gates) ได้เปิดตัว Windows 1.0 ที่ Plaza Hotel ใน New York City ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2526 พร้อมกับประกาศว่าวินโดวส์ (Windows) จะเป็นระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตของโลกคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นเขาได้นำเสนอ Windows 1.0 ในงาน Comdex ในเมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา และประกาศย้ำว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์และระบบ Graphical User Interface (GUI) จะเป็นอนาคตของโลกคอมพิวเตอร์

บิล เกตส์ ตั้งราคา Windows 1.0 ไว้ที่ 100 USD ต่อ 1 ชุด และวางแผนที่จะออกจำหน่ายในเดือนเมษายน 2527 แต่กลับออกได้จริงในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2528 (ในขณะนั้น Apple กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตนเองอยู่เหมือนกัน โดยได้ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2527 ตามแผนที่ได้ประกาศไว้) และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะได้รับการยอมรับจากผู้ใช้เนื่องจากในตอนนั้นผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีทัศนคติว่าระบบ Graphical User Interface (GUI) นั้นเหมาะสำหรับการใช้งานของเด็กมากกว่าการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไป แต่หลังจากนั้นไม่นานระบบปฏิบัติการ Windows ก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จนมีส่วนแบ่งการใช้งานมากที่สุด (90.46 %) ในส่วนของระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer หรือ PC) ส่งผลให้ไมโครซอฟท์กลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows
หากมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ คิดว่าวินโดวส์เวอร์ชันที่หลายคงรู้จักเป็นเวอร์ชันแรกน่าจะเป็น Windows 3.0 แต่จริงๆ แล้ว ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันแรกของไมโครซอฟท์คือ 1.0 จากนั้นก็มีการพัฒนาเป็นเวอร์ชัน 2.0 แล้วจึงมาได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในวินโดวส์เวอร์ชัน 3.0 หลังจากนั้นไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อเวอร์ชันแทนการใช้เวอร์ชันแบบตัวเลข คือ Windows NT ซึ่งนับเป็นเวอร์ชัน 3.1 จากนั้นเป็น Windows 95 ซึ่งนับเป็นเวอร์ชัน 4.0 ต่อจากนั้นเป็น Windows 98 และ Windows Millennium Edition ซึ่งยังเป็นเวอร์ชัน 4 อยู่ โดย Windows 98 นับเป็นเวอร์ชัน 4.0.1998, Windows 98 SE นับเป็นเวอร์ชัน 4.10.2222 และ Windows Millennium Edition นับเป็นเวอร์ชัน 4.90.3000 (สรุปได้ว่าไมโครซอฟท์นับ Windows 9x เป็นเวอร์ชัน 4.0) ต่อจาก Windows 9x จะเป็น Windows 2000 ซึ่งนับเป็นเวอร์ชัน 5.0 เวอร์ชันถัดมาคือ Windows XP ซึ่งนับเป็นเวอร์ชัน 5.1 และล่าสุดคือ Windows Vista ซึ่งจะนับเป็นเวอร์ชัน 6.0 ดังนั้น เมื่อไมโครซอฟท์วางแผนในการพัฒระบบปฏิบัติการสำหรับเดสก์ท็อปตัวใหม่ต่อจาก Windows Vista จึงตั้งชื่อเป็น Windows 7

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในบล็อกของทีมพัฒนา ถึงแม้ว่าจะใช้ชื่อ Windows 7 แต่หมายเลขเวอร์ชันจริงๆ ของระบบปฏิบัติการวินโดวส์สำหรับเดสก์ท็อปตัวใหม่ของไมโครซอฟท์นี้จะเป็นเวอร์ชัน 6.1 ทั้งนี้ การที่ไมโครซอฟท์ไม่กำหนดเป็นเวอร์ชัน 7.0 เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความสับสนในด้าน Application Compatibility ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ไมโครซอฟท์กำหนดหมายเลขเวอร์ชันของ Windows XP เป็นเวอร์ชัน 5.1 แทนที่จะเป็นเวอร์ชัน 6.0

วิวัฒนาการหมายเลขเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ Windows
สรุปวิวัฒนาการหมายเลขเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ Windows ได้ดังนี้
  • Windows 1.0 (ออกวันที่ 20 พฤศจิกายน 2528)
  • Windows 2.0 (ออกวันที่ 9 ธันวาคม 2530)
  • Windows 3.0 - Windows NT (ออก 23 พฤษภาคม 2533)
  • Windows NT 3.1 (27 กรกฎาคม 2536)
  • Windows 4.0 = Windows 95 (ออก 24 สิงหาคม 2538)
  • Windows 4.0.1998 = Windows 98 (ออก 25 มิถุนายน 2541)
  • Windows 4.10.2222 = Windows 98 SE (ออก พฤษภาคม 2542)
  • Windows 4.90.3000 = Windows ME (ออก กันยาน 2543)
  • Windows 5.0 = Windows 2000 ออก กุมถาพันธ์ 2543)
  • Windows 5.1 = Windows XP (ออกวันที่ 25 ตุลาคม 2544)
  • Windows 6.0 = Windows Vista (30 พฤศจิกายน 2549 ออกเวอร์ชันสำหรับองค์กร, 30 มกราคม 2550 ออกเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป)
  • Windows 6.1.7600 = Windows 7 (22 กรกฎาคม 2552 ออกเวอร์ชัน RTM, 22 ตุลาคม 2552 ออกเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป)
  • Windows 6.2.2900 = Windows 8 (1 สิงหาคม 2555 ออกเวอร์ชัน RTM, 26 ตุลาคม 2555 ออกเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป)

หมายเหตุ: อัพเดท 25 พฤศจิกายน 2555

บทความโดย: The Windows Administrator Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Microsoft - A history of Windows
Wikipedia - Microsoft Windows

© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.

Related Posts:

  • วิธีแก้ปัญหา The trust relationship between this workstation and the primary domain failed บน Windows Server 2008 R2บทความนี้ผมมีประสบการณ์การแก้ปัญหาล็อกออน Windows Server ที่เป็นสมาชิกของแอคทีฟไดเร็กตอรีโดเมนแล้วได้รับข้อความว่า "The trust relationship between this workstation and the primary domain failed" โดยการใช้คำสั่ง NETDOM มาฝากคร… Read More
  • Windows 7 God Mode โหมดร้อนซ่อนพลังครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า Windows 7 God Mode ผมคิดว่าน่าเป็นโหมดวิเศษของ Windows 7 ที่ต้องมีความพิเศษเป็นอย่างมาก เนื่องจากชื่อโหมดที่ชวนให้คิดไปในแนวทางนั้น แต่หลังจากได้อ่านรายละเอียดจากหลายเว็บไซต์ ทำให้ทราบว่าจริงๆ แล้ว God … Read More
  • Tip: วิธีเปิดใช้งาน 'God Mode' บน Windows 8.1วันนี้มีวิธีเปิดใช้งาน 'God Mode' บน Windows 8.1 มาฝากครับ สำหรับใครที่สงสัยว่ามันเป็นโหมดอะไร และมีความพิเศษอย่างไร God Mode คือโหมดลับที่สามารถเข้าถึงคำสั่งแผงควบคุม (Control Panel) ทั้งหมดของ Windows 8.1 ได้จากหน้าต่างเดีย… Read More
  • พบช่องโหว่ Zero-Day ใน Windows XP และ Windows Server 2003 - ไมโครซอฟท์ออกแพตช์สำหรับปิดช่องโหว่วันที่ 14 มกราคม 255710 มกราคม 2557: ไมโครซอฟท์จะออกแพตช์เพื่อปิดช่องโหว่ Microsoft Windows Kernel บน Windows XP และ Windows Server 2003 ในการออกอัปเดทความปลอดภัยเดือนมกราคม 2557 ซึ่งจะออกในวันอังคารที่ 14 นี้ อ่านรายละเอียด [เนื้อหาต้นฉบับ] ไมโ… Read More
  • มีอะไรใหม่ในแอป Remote Desktop บน Windows 8.1แอป Remote Desktop เป็นแอป Windows Store ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเดสก์ท็อปหรือ RemoteApp จากระยะไกลได้จากหน้าจอเริ่มของ Windows 8 หรือ 8.1 มันทำงานโดยใช้ทรัพยากรระบบเพียงเล็กน้อยทำให้ประหยัดพลังงานและมีระบบอินเทอร์เฟชที่ออกแบบ… Read More