1. เพิ่ม Memory (RAM)
วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้ Windows Vista ทำงานเร็วขึ้น คือการเพิ่ม Memory (RAM) โดยแนะนำให้ใช้ RAM อย่างน้อย 1GB (1024MB) แต่จะประสบการณืของผม Windows Vista จะทำงานได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้ RAM ขนาด 2GB (2048MB)
2. ใช้ USB Flash Drive
ถ้ามี USB Flash Drive ซึ่งมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 256 MB สามารถใช้ในการช่วยระบบให้ทำงานได้เร็วขึ้น โดยการต่อไดร์ฟกับเครื่องคอมพิวเตอร์และเลือกเป็น “Speed up my system”
3. ทำการคอนฟิก Readyboost
ถ้าอ็อปชันนี้ไม่ปรากฎ หรือต้องการฝืนคำแนะนำในการตั้งค่าของ Windows Vista ให้เปิด My Computer คลิกขวาที่ flash drive แล้วเลือก Properties จากนั้นเลือกแท็บ ReadyBoost
4. ซื้อ USB Flash Drive ใหม่
ถ้าต้องการใช้อ็อปชัน ReadyBoost ให้ทำการซ้อ USB Flash Drive ใหม่ โดยให้เลือกรุ่นที่มีอัตราการ read/write times ที่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ให้ระลึกไว้เสมอว่าการใช้งาน ReadyBoost นั้นไม่ใช่การทดแทน RAM จริงๆ ของระบบ
5. ทำการ Overclock กราฟิกการ์ด
ให้ทำการปรับแต่งกราฟิกการ์ดโดยใช้เครื่องมืนอย่างเช่น PowerStrip หรือ ATITool ทำการปรับการแสดงผลของกราฟิกการ์ดให้เหมาะสม แต่ให้ทราบว่าการ Overclock นั้นจะทำให้อายุใช้งานกราฟิกการ์ดสั้นลงหรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจจะทำให้กราฟิกการ์ดเสียได้ ดังนั้นหากจะใช้วิธีการนี้ให้ศึกษาคู่มือให้เข้าใจและกระทำด้วยความรมัดระวัง
6. อัพเกรด Drivers
การอัพเดทไดร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะไดร์ฟเวอร์ของกราฟิกการ์ดและชิปเซ็ตของเมนบอร์ดนั้นจะทำให้สมรรถภาพการทำงานของระบบโดยรวมดีขึ้น สำหรับวิธีการอัพเกรดไดร์ฟเวอร์นั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของอุปกรณ์นั้นๆ ซึ่งส่วนมากจะมีการอัพเดทและให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และไดร์ฟเวอร์เวอรชันใหม่เป็นระยะๆ โดยให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์เจ้าของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
7. ใช้ External Drives ความเร็วสูง
ถึงแม้ว่าหลายๆ ครั้งเราจะได้ยินว่า External Drives จะทำงานได้ช้ากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ internal drive ซึ่งที่ผ่านมาก็ค่อนข้างเป็นจริงตามนั้น แต่มาตรฐานใหม่อย่าง eSATA นั้นให้สมรรถนะที่เทียบเท่ากับ internal drive ในการใช้งานแบบ exnternal drive แต่อย่างไรก็ตามมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์บางรุ่นเท่านั้นที่มีพอร์ตแบบ eSATA ดังนั้นหากต้องการแบบ eSATA บนเครื่องที่ไม่มีพอร์ตให้ก็ต้องทำการชื้อการ์ดมาใส่เพิ่ม (PCI หรือ PCI-Express)
8. ทำการวัดการทำงานของ PC
ทำการวัดการทำงานของ PC ใช้ Windows Experience Index จะช่วยบอกความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการรัน Windows Vista และยังให้คำแนะนำว่าควรทำการอัพเกรดองค์ประกอบใดบ้างเพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้น
• การดู Windows Experience Index ของเครื่องคอมพิวเตอร์
การดูว่าเครื่องคอมพิวเตอร์มี Windows Experience Index ระดับใดมีขั้นตอนดังนี้
คลิกปุ่ม Start คลิก Control Panel คลิก System and Maintenance จากนั้นคลิกที่ Performance Information and Tools (หากตั้งเป็น Classic View ให้คลิกปุ่ม Start คลิก Control Panel แล้วคลิกที่ Performance Information and Tools ได้เลย)
รูปที่ 1 Performance Information and Tools
หากต้องการพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์สามารถทำได้โดยการคลิก View and Print details
รูปที่ 2 Details
9. เพิ่มความเร็วของ Network
ระบบเครือข่ายไร้สายนั้นยังคงมีความเร็วน้อยกว่าเครือข่ายแบบใช้สายอยู่ค่อนข้างมาก ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย แต่ถ้าหากไม่มีทางเลือกก็ให้ใช้อุปกรณืที่เป็นมาตรฐาน 802.11n เพื่อให้ได้สมรรถนะและรายะทางการใช้งานที่ดีที่สุด แต่ให้ทราบไว้ว่ายิ่งใช้งานห่างจาก Access Point มากเท่าใดการชเอมต่อก็ยิ่งช้าลงเท่านั้น ดังนั้นถ้าต้องการถ่ายอนไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ระหว่างกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านระบบเครือข่ายไร้สายให้ใช้งานใกล้ Access Point มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ความเร็วในการถ่ายโอนได้เร็วที่สุด
10. กระจาย Paging file
ถ้ามีการใช้งานฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายในมากกว่าหนึ่งตัวหรือมีการใช้งานไดร์ฟแบบติดตั้งภายนอกแบบ eSATA สามารถกำหนดให้ Windows Vista ใช้ไดร์ฟเหล่านั้นเก็บ paging file เพิ่มเติมจากบูทไดร์ฟของระบบ วิธีการกำหนดไดร์ฟ paging file ใน Windows Vista มีขั้นตอนดังนี้
>>>10.1 แอคเซสการตั้งค่า Virtual Memory
เปิด System Properties และคลิก Advanced system settings จากนันคลิก Settings ทีอยู่ภายใต้ Performance คลิกแทบ Advanced และคลิกปุ่ม Change
>>>10.2 ตั้งค่า Paging File ใหม่
เคลียร์เช็คบ็อกซ์ “Automatically manage paging file size for all drives” จากนั้นเลื่อนลงไปยังรายการไดร์ฟและเลือกพาร์ติชันที่มีการใช้งานน้อยที่สุดบนไดร์ฟที่สอง เลือก System managed size และคลิก Set
>>>10.3 ทำการรีบูทและรีวิว
ให้คลิก OK สามครั้งและทำการรีบูทคอมพิวเตอร์ เมื่อระบบพร้อมใช้งานให้กลับมายังหน้าจอนี้อีกครั้งและทำการตรวจสอบว่าทั้งไดร์ฟ C: และบนไดร์ฟที่สองมีการตั้งค่า paging files เป็น ystem managed
11. โยกย้ายไฟล์อย่างรวดเร็วโดยใช้ Magic Folder Gadget
โยกย้ายไฟล์อย่างรวดเร็วโดยใช้โปรแกรมเสริมอย่าง Magic Folder Gadget (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ http://www.softpedia.com/get/Windows-Widgets/Widget-Miscellaneous/The-Magic-Folder.shtml) ซึ่งจะช่วยในการสร้างโฟลเดอร์จำลองสำหรับใช้ในการลากไฟล์ไปวาง
12. ปรับแต่ง Start Menu
ทำการปรับแต่ง Start Menu ให้เหมาะสมกับการฝใช้งานมากขึ้น โดยคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Properties จากนั้นคลิก Customize และทำการตั้งคาต่างๆ ตามความต้องการ เช่น เลือก “Display as a menu” ภายใต้ Control Panel
13. สร้างชอร์ตคัทสำหรับคำสั่งใน Control Panel
หากมีการใช้งานคำสั่งใน Control Panel คำสั่งใดบ่อยๆ ก็ให้ทำการสร้างชอร์ตคัทสำหรับคำสั่งนั้นไว้บนเดสก์ท็อป บนสตาร์ทเมนู หรือ ทูลบาร์ Quick Launch สำหรับวิธีการสร้างชอร์ตคัทสำหรับคำสั่งใน Control Panel มีขั้นตอนดังนี้
เปิด Control Panel และเปลี่ยนโหมดเป็น Classic View จากนั้นคลิกขวาที่ คำสั่ง Control Panel ที่ต้องการ แล้วเลือก Create Shortcut
14. ใช้งานคีย์ Windows
ยูสเซอร์หลายท่านที่มอกข้ามประโยชน์ของคีย์ [Windows] ตัวอย่างเช่น การนำ Sidebar ขึ้นมาอยู่ด้านหน้าทำได้โดยการกดคีย์ [Windows] + [Space] สำหรับผู้ที่ใช้โน้ตบุ๊คสามารถกดคีย์ [Windows] + [X] เพื่อเปิด Windows Mobility Center และกดคีย์ [Windows] + ตัวเลข 0-9 เพื่อเข้าถึงชอร์ตคัทตัวที่ 1-10 ในทูลบาร์ Quick Launch
15. ทำการโปรแกรม Keyboard
Keyboard รุ่นใหม่ๆ นั้น จะมาพร้อมกับคีย์พิเศษซึ่งสามารถคอนฟิกสำหรับใช้ในการเข้าถึงโปรแกรมหรือคำสั่งสำคัญต่างๆ ของระบบได้รวดเร็วและง่ายขึ้น สำหรับวิธีการทำนั้น ให้เข้าไปที่ Control Panel ของ Keyboard แล้วเลือกแท็บที่ให้ยูสเซอร์สามารถกำหนดการใช้งานคีย์บอร์ดได้ ถ้าไม่ปรากฏแท็บดังกล่าวให้ทำการตรวจสอบกับเว็บไซต์ของผู้ผลิด และทำการดาวน์โหลดและติดตั้งไดรฟ์เวอร์ใหม่หรือซอฟแวร์เพิ่มเติม
16. สร้างชอร์ตคัทใช้เอง
ยูสเซอร์สามารถทำการกำหนดชอร์ตคัทเพื่อช่วยให้สามารถทำการเปิดโปรแกรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น วิธีการสร้างชอร์ตคัททำได้โดยคลิกขวาบน Taskbar, Desktop หรือ Start menu แล้วเลือก Properties จากนั้นเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่กล่อง Shortcut key และกดตัวอักษร ระบบจะทำการกำหนด [Ctrl] + [Alt] คลิก OK เพื่อจบการทำงาน
17. ใช้ไดอะล็อก Run ของ Start Menu
กดคีย์ [Windows] + [R] เพื่อเปิดไดอะล็อก Run ซึ่งยูสเซอร์สามารถที่จะทำการรันโปรแกรมหรือรันคำสั่ง เปิดหน้าเว็บ เปิดโฟลเดอร์ หรืออื่นๆ ได้โดยการพิมพ์คำสั่งที่เหมาะสม เช่น gpedit.msc เพื่อเปิด Group Policy Editor เป็นต้น
18. ใช้งาน Address Bar
การใช้งาน Address Bar นั้นให้ผลที่เหมือนกันกับการใช้งานไดอะล็อก Run โดยยูสเซอร์สามารถตั้งค่าให้แสดง Address Bar บน Taskbar เพื่อให้การใช้งานเว็บไซต์ โฟลเดอร์ และโปรแกรม ทำได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น วิธีการแสดง Address Bar บน Taskbar ทำได้โดยคลิกขวาที่ Taskbar เลือก Toolbars เลือก Address
19. กระโดดไปยังไฟล์ที่ต้องการ
ถ้าทำการเปิดโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ที่ต้องการเข้าถึงอยู่ สามารถเข้าถึงไฟล์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วโดยการพิมพ์ชื่อไฟล์บางตัว ตัวอย่างเช่น ต้องการเข้าถึงไฟล์ชื่อ Windowsvista.doc โดยที่โฟลเดอร์มีไฟล์ชื่อ Windowsserver.doc, Windowsvista.doc, Windowsxp.doc อยู่ภายใน ก็ให้พิมพ์ Windowsv เป็นต้น
Vista Tip Tune Up Speed Up Tweak
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
0 Comment:
Post a Comment