Wednesday, November 28, 2012

การอัปเดท Windows 8 ผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ WSUS

การอัปเดท Windows 8 โดยทั่วไปทำได้ 3 วิธี คือทำการอัปเดทผ่านเว็บไซต์ Windows Update หรือดาวน์โหลดอัปเดทจากศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์แล้วทำการติดตั้งด้วยตนเอง 2 วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หรือทำการอัปเดทผ่านเซิร์ฟเวอร์ Windows Server Update Services (WSUS) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กร สำหรับบทความนี้ผมจะสาธิตวิธีคอนฟิก Windows 8 เพื่อให้อัปเดทผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ WSUS ด้วยโปรแกรม Group Policy Editor

หมายเหตุ: อ่านวิธีการติดตั้งการติดตั้ง WSUS 3.0 SP2 บน Windows Server 2008 R2 ได้ ที่นี่

สำหรับวิธีการคอนฟิกให้ Windows 8 อัปเดทผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ WSUS มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไซน์อิน Windows 8 ด้วยบัญชีกลุ่มผู้ดูแลระบบ (Administrators) จากนั้นทำการเปิดโปรแกรม Group Policy Editor โดยเลื่อนเคอร์เซอร์เม้าส์ไปบริเวณมุมบนขวาของหน้าจอ (หรือกดปุ่ม Windows + C) แล้วคลิก Search (กดปุ่ม Windows + Q) จากนั้นให้คลิก Settings จากนั้นพิมพ์ group policy ดังภาพที่ 1 [1] แล้วคลิก Edit group policy ดังภาพที่ 1 [2] จะได้หน้าต่าง Local Group Policy Editor ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 1

ทิป:  กดปุ่ม Windows + R จากนั้นพิมพ์ gpedt.mec ในช่อง Open เสร็จแล้วกด Enter เพื่อเปิดหน้าต่าง Local Group Policy Editor ได้เช่นกัน

2. ในคอนโซลแพนด้านซ้ายมือของหน้า Local Group Policy Editor ให้ท่องไปที่ Computer Configuration>Administrative Templates>Windows Components>Windows Update ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 2

3.การอัปเดท Windows 8 จากเซิร์ฟเวอร์ WSUS นั้นจะต้องตั้งค่า Specify intranet Microsoft update service location = Enabled ดังภาพที่ 3 [1] จากนั้นใส่ค่า Set the intranet update service for detecting updates และ Set the intranet statistics server ตามความเหมาะสมดังภาพที่ 3 [2] ตัวอย่างเช่น
  • Set the intranet update service for detecting updates: http://192.168.1.100
  • Set the intranet statistics server: http://192.168.1.100:8530

ในกรณีที่ เซิร์ฟเวอร์ WSUS ไมได้ทำงานบนพอร์ต 80 จะต้องใส่หมายเลขพอร์ตด้วย ตัวอย่างเช่น http://192.168.10.100:8530  เป็นต้น

ภาพที่ 3

4. การอัปเดท Windows 8 รวมถึงเวอร์ชันอื่นๆ จากเซิร์ฟเวอร์ WSUS นั้นมีหัวข้อที่ผมแนะนำให้ทำการตั้งค่าคือให้ตั้งค่า Configure Automatic Updates = Enabled ดังภาพที่ 4 [1] จากนั้นในหัวข้อ Configure Automatic Updating ให้เลือกตามความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น:

กรณีที่ 1: ต้องการให้ Windows ทำการดาวน์โหลดอัปเดทโดยอัตโนมัติ แต่ต้องการติดตั้งอัปเดทด้วยตนเองให้ตั้งค่า Configure Automatic Updating เป็น 3 - Auto download and notify for install ดังภาพที่ 4 [2]

กรณีที่ 2: ต้องการให้ Windows ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดทโดยอัตโนมัติให้ตั้งค่า Configure Automatic Updating เป็น 4 - Auto download and schedule the install และทำการตั้งค่าเพิ่มเติมดังนี้
  • Scheduled install day: กำหนดเวลาติดตั้งอัปเดท เช่น 0 - Every Day ให้ทำการติดตั้งอัปเดททุกวัน
  • Scheduled install time: ให้เลือกเป็นเวลาที่ต้องการให้ติดตั้งอัปเดทโดยอัตโนมัติ เช่น 07.00 เป็นต้น

ภาพที่ 4

5. สำหรับนโยบายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้สามารถเลือกทำการตั้งค่าตามความเหมาะสม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การอัพเดท Windows 7 จากเซิร์ฟเวอร์ WSUS

หลังจากทำการตั้งค่านโยบายการอัปเดทเสร็จแล้ว ทำการตรวจสอบอัปเดทกับ WSUS เซิร์ฟเวอร์โดยใช้ Windows Update (วิธีใช้งาน Windows Update) โดยการรันคำสั่ง wuauclt.exe /detectnow ที่คอมมานด์พรอมท์แล้วทำการติดตั้งอัปเดท (ถ้ามี) ให้เรียบร้อย

ภาพที่ 5

หมายเหตุ: การตั้งค่า Windows update ด้วยโปรแกรม Group Policy Editor นั้น Windows จะทำการบันทึกค่าที่กำหนด โดยอัตโนมัติเมื่อออกจากโปรแกรม

บทความโดย: TWA Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
TechNet

Copyright © 2012 TWA Blog. All Rights Reserved.

0 Comment: