Tuesday, November 2, 2010

Windows 7 Computer Stops Responding when Rename a Folder

คอมพิวเตอร์ Windows 7, Windows Server 2008 R2, Windows Vista หรือ Windows Server 2008 หยุดตอบสนองการทำงานเมื่อทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์


สืบเนื่องจากมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7, Windows Server 2008 R2, Windows Vista หรือ Windows Server 2008 หยุดตอบสนองการทำงาน (Stops responding) เมื่อผู้ใช้ทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์นั้น ไมโครซอฟท์ได้ออกฮอตฟิกซ์สำหรับใช้แก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้แล้วพร้อมทั้งชี้แจงรายละเอียดว่าปัญหานี้จะเกิดขึ้นในกรณีมีเงื่อนไขดังนี้
- เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 7, Windows Server 2008 R2, Windows Vista และ Windows Server 2008
- เครื่องคอมพิวเตอร์มีโวลุ่มที่เป็นระบบ NTFS และมีไฟล์เป็นจำนวนมากในโฟลเดอร์ในโวลุ่มดังกล่าวนี้ ตัวอย่างเช่น มีไฟล์ในโฟลเดอร์มากกว่า 5,000 ไฟล์
- มีหลายไฟล์ในโฟลเดอร์ที่ถูกเปิดกอนหน้านี้
- ผู้ใช้พยายามทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์

ในสถานการณ์ด้านบน คอมพิวเตอร์จะตอบสนองการอัปเดทหน้าจอและการคลิกเม้าส์ช้ามาก และบางครั้งเครื่องคอมพิวเตอร์จะหยุดตอบสนองการทำงาน

หมายเหตุ ถ้ามีการติดตั้งคุณสมบัติ Failover Clustering ทรัพยากรต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียจะถูกโอนย้ายไปยังโหนดอื่น

สาเหตุ
ปัญหาดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก เมื่อผู้ใช้ทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ระบบจะทำการตรวจสอบไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ว่าถูกเปิดอยู่หรือไม่ ซึ่งในระหว่างที่กำลังทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ระบบจะทำการล็อค Volume Control Block (VCB) และจะทำการบล็อคการร้องขอ I/O อื่นๆ ทั้งหมด แต่ถ้าจำนวนของไฟล์ในโฟลเดอร์มีจำนวนมากจะทำให้โปรเชสการตรวจสอบไฟล์ที่ถูกเปิดนั้นจะใช้เวลานานมาก ส่งผลให้คอมพิวเตอร์หยุดตอบสนองการทำงาน

วิธีการแก้ไข
ไมโครซอฟท์ออกฮอตฟิกซ์สำหรับใช้แก้ปัญหาตามที่อธิบายด้านบนแล้ว โดยผู้ใช้ Windows 7, Windows Server 2008 R2, Windows Vista หรือ Windows Server 2008 ที่ประสบปัญหาดังกล่าวนี้สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Hotfix (KB980382) อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ได้แนะนำให้ผู้ใช้ทำการติดตั้งฮ็อตฟิกซ์ตัวนี้เฉพาะบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาตามที่อธิบายด้านบนเท่านั้น เนื่องจากฮ็อตฟิกซ์นี้ยังต้องทดสอบการทำงานเพิ่มเติมและจะรวมอยู่ในเซอร์วิสแพ็ค (Service Pack) ที่จะออกในอนาคต

ทั้งนี้ ก่อนทำการติดตั้งฮอตฟิกซ์จะมีความต้องการระบบดังนี้
- Windows Vista Service Pack 1 (SP1)
- Windows Vista Service Pack 2 (SP2)
- Windows Server 2008
- Windows Server 2008 Service Pack 2 (SP2)
- Windows 7
- Windows Server 2008 R2

หมายเหตุ: ไมโครซอฟท์ไม่แนะนำให้ทำการติดตั้งฮอตฟิกซ์ในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่าฮอตฟิกซ์จะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่?

วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับ
วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับ Windows เวอร์ชันและรุ่นต่างๆ ดังนี้
- Windows Server 2008 R2 Datacenter
- Windows Server 2008 R2 Enterprise
- Windows 7 Enterprise
- Windows 7 Home Basic
- Windows 7 Home Premium
- Windows 7 Professional
- Windows 7 Starter
- Windows 7 Ultimate
- Windows Server 2008 R2 Foundation
- Windows Server 2008 R2 Standard
- Windows Server 2008 Datacenter
- Windows Server 2008 Enterprise
- Windows Vista Business
- Windows Vista Enterprise
- Windows Vista Home Basic
- Windows Vista Home Premium
- Windows Vista Starter
- Windows Vista Ultimate

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
980382

Copyright © 2010 TWA Blog. All Rights Reserved.

0 Comment: