กูเกิลได้เปิดเผยผ่านทางบล็อกอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2553 ว่าปัจจุบันจำนวนผู้ใช้เว็บเบราเซอร์ Google Chrome มีมากกว่า 120 ล้านคนแล้ว โดยที่จำนวนผู้ใช้นั้นเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่านับจากสิ้นสุดปี 2552 ซึ่งในตอนนั้นมีจำนวนผู้ใช้เพียงแค่ 40 ล้านคน
และจากการที่จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากกว่า 120 ล้านคน ทำให้ในเดือนพฤศจิกายน 2553 นั้นเว็บเบราเซอร์ Google Chrome มีส่วนแบ่งผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.26 โดยเพิ่มขึ้นจาก 5.22 ในเดือนมกราคม 2553 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 11 เดือน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: http://www.netmarketshare.com/browser-market-share.aspx?qprid=1
ทั้งนี้ กูเกิลได้พัฒนา Google Chrome โดยให้ความสำคัญกับเรื่องความเร็วในการท่องอินเทอร์เน็ต โดยมีการเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ท่องอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น อย่างเช่น เพิ่ม Google Instant เข้าใน Omnibox เพื่อให้ทำการแสดงผลการค้นหาในทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่ม Enter นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับปรุง V8 ซึ่งเป็นจาวาสคริปต์เอนจิน (JavaScript engine) ของ Google Chrome ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจนสามารถทำการรันโปรแกรมที่มีจาวาสคริปต์ซับซ้อน (Complex JavaScript programs) ได้เร็วขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทั้ง 2 คุณสมบัติที่กล่าวมานี้จะมีในอยู่ในเฉพาะ Google Chrome เวอร์ชันทดสอบเท่านั้น ซึ่งกูเกิลจะออกเป็นเวอร์ชันเสถียร (Stable) ในเร็วๆ นี้
สำหรับเวอร์ชันเสถียรตัวปัจจุบันคือเวอร์ชัน Google Chrome 8.0.552.215 Stable มี PDF viewer ในตัวและพร้อมรองรับ Web Store ซึ่งออกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553 (ตามเวลาในประเทศไทย) โดยในเวอร์ชัน 8.0.552.215 นี้จะมี PDF viewer ในตัวทำให้สามารถเปิดไฟล์เอกสารชนิด PDF ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม Adobe Reader หรือ Foxit Reader โดยที่ PDF viewer นั้นจะทำงานอยู่ในแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) เพื่อป้องกันการโจมตีระบบผ่านทางไฟล์ PDF ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น และยังรองรับ Chrome Web Store ได้อีกด้วย
บทความโดย: The Windows Administrator Blog
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• The Official Google Blog
Copyright © 2010 TWA Blog. All Rights Reserved.
0 Comment:
Post a Comment