สรุปอัปเดตความปลอดภัยเดือนธันวาคม 2558
ไมโครซอฟท์ออกอัปเดตความปลอดภัยเดือนธันวาคมจำนวน 12 ตัว สำหรับปรับปรุงช่องโหว่ความปลอดภัย (CVEs) 71 จุด (นับจากที่ไมโครซอฟท์ระบุไว้ในรายละเอียดของอัปเดตแต่ละตัว) ที่พบใน Windows, IE, Edge, .NET Framework, Office, Skype for Business, Lync และ Silverlight แบ่งเป็นอัปเดตสำหรับปรับปรุงช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุด 8 ตัว และอัปเดตสำหรับปรับปรุงช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูง 4 ตัว โดยไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ใช้ทำการติดตั้งอัปเดตทั้งหมดในทันทีที่ทำได้
สำหรับรายชื่ออัปเดตความปลอดภัยเดือนธันวาคม 2558 มีดังต่อไปนี้
- MS15-124: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน IE ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-125: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Edge ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-126: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Windows ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-127: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Windows ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-128: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน .NET Framework, Office, Skype for Business, Lync และ Silverlight ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-129: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Silverlight ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-130: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Windows ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-131: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงสุดใน Office ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-132: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงใน Windows ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-133: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงใน Windows ที่ใช้ในการทำ Elevation of Privilege ได้
- MS15-134: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงใน Windows ที่ใช้โจมตีระบบแบบ Remote Code Execution ได้
- MS15-135: แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงสูงใน Windows ที่ใช้ในการทำ Elevation of Privilege ได้
Security Bulletin December 2015 (เครดิต: Microsoft)
สำหรับรายชื่อซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่จะได้รับผลกระทบนั้น สามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ Microsoft
การอัปเดตระบบ
ผู้ใช้ Windows สามารถทำการอัปเดตโดยใช้เครื่องมือ Windows Update จากบนเครื่อง (วิธีการทำจะขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Windows ที่ใช้) หรือจากทำการอัปเดตผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ WSUS (สำหรับผู้ใช้แบบองค์กร) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2558 (ตามเวลาในประเทศไทย) เป็นต้นไป
ความเห็นของผู้เขียน
ถึงแม้ว่าไมโครซอฟท์จะแนะนำให้ผู้ใช้ Windows ทำการติดตั้งอัปเดตทุกตัวในทันทีที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำแอดมินที่รับผิดชอบการติดตั้งอัปเดตให้ทดลองติดตั้งบนเครื่องทดสอบให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีปัญหา Windows เสียจากบั๊กของอัปเดต แล้วจากนั้นจึงค่อยปรับใช้บนเครื่องที่ใช้งานจริงครับ
หมายเหตุ: ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นมาไมโครซอฟท์จะแจ้งรายละเอียดการออกอัปเดตล่วงหน้าหรือ Advance Notification Service (ANS) ให้เฉพาะลูกค้าพรีเมียร์และบริษัทที่เข้าร่วมโปรแกรมความปลอดภัยเท่านั้น อ่านรายละเอียด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Microsoft Security Center
Microsoft Security Response Center
Copyright © 2015 TWA Blog. All Rights Reserved.