Wednesday, August 24, 2011

Managing Hyper-V from Windows 7

การจัดการเซิร์ฟเวอร์ Hyper-V จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
โดยปกติผมจะใช้เครื่องมือ Hyper-V Manager ในการจัดการ Hyper-V ซึ่งรันอยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 ผ่านทางรีโมทเดสก์ท็อป แต่หลังจากได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 ตัวใหม่มาผมจึงติดตั้งชุดเครื่องมือ Remote Server Administration Tools (RSAT) เพื่อที่จะใช้จัดการ Hyper-V จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 ซึ่งน่าจะสะดวกกว่าการจัดการผ่านทางรีโมทเดสก์ท็อป

โดยในตอนแรกผมคิดว่าเมื่อทำการติดตั้ง RSAT แล้วเปิดใช้งาน Hyper-V Tool (ซึ่งจะทำการติดตั้งเครื่องมือ Hyper-V Manager) ก็น่าจะใช้งานได้ในทันทีเหมือนกับการใช้งานเครื่องมือตัวอื่น อย่างเช่น Remote Desktop Services Tools เป็นต้น แต่ผลปรากฏว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะไม่สามารถทำการเชื่อมต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Hyper-V ได้

หลังจากนั้นผมจึงทำการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตด้วยกูเกิลทำให้ทราบว่า การที่จะจัดการ Hyper-V โดยใช้เครื่องมือ Hyper-V Manager ของ RSAT จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 นั้นจะต้องทำการคอนฟิกระบบทั้งบน Windows Server 2008 R2 ที่ติดตั้ง Hyper-V และบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 อีกหลายขั้นตอนจึงจะใช้งานได้

หมายเหตุ: ผู้เขียนขอขอบคุณเว็บไซต์ www.mrmie.com เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ สำหรับคำแนะนำในการเตรียมเครื่องเพื่อ Remote เข้าใช้งาน Hyper-V Virtual Machine ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7

บทความนี้ผมจึงนำวิธีการคอนฟิก Windows Server 2008 R2 ที่ติดตั้ง Hyper-V เพื่อให้รองรับการจัดการจากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 โดยผมจะแบ่งขั้นตอนการคอนฟิกออกเป็น 5 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1 จะเป็นการเตรียมพร้อมก่อนทำการคอนฟิกระบบ ส่วนขั้นตอนที่ 2 จะดำเนินการบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 ในขณะที่ขั้นตอนที่ 3-5 นั้นจะดำเนินการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7

ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมพร้อมก่อนทำการคอนฟิกระบบ
เนื่องจากการจัดการ Hyper-V จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 นั้นจำเป็นต้องมีการคอนฟิกไฟร์วอลล์ (Firewall) และการกำหนดค่าความปลอดภัย (Security Configuration) หลายอย่าง โดยการใช้เครื่องมือชื่อว่า Hyper-V Remote Management Configuration Utility (HVRemote.wsf) ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ MSDN: Hyper-V Remote Management Configuration Utility โดยให้เก็บไฟล์ที่ได้จากการดาวน์โหลดไว้ในโฟลเดอร์ที่สะดวกในการใช้งาน เช่น C:\Script เป็นต้น

ทั้งนี้ วิธีการคอนฟิกจะขึ้นอยู่กับซีเนริโอของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 และเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ซีเนริโอ ดังนี้
  1. Client and Server both Workgroup
  2. Client Workgroup, Server Domain
  3. Client Domain, Server Workgroup
  4. Client and Server both Domain
สำหรับในบทความนี้จะเป็นแบบซีเนริโอที่ 3 คือ Client Domain, Server Workgroup นั้นคือ เครื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 เป็นสมาชิกของโดเมน ส่วนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 เป็นสมาชิกของ Workgroup ซึ่งจากคำแนะนำในเว็บไซต์ MSDN จะต้องทำการคอนฟิกระบบดังนี้

บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 Hyper-V
  • Create a local account (eg "john") Use net user /? or Computer Management
  • Grant the user access cscript hvremote.wsf /add:accountname

บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
  • Allow Anonymous Logon remote DCOM access cscript hvremote.wsf /anondcom:grant
  • Set credentials for local account Use cmdkey /add:servername /user:servername\accountname /pass
  • *ขั้นตอนนี้เป็นอ็อปชัน - ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้
  • Set firewall exception cscript hvremote.wsf /mmc:enable

บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 Hyper-V และเครื่องไคลเอนต์คอมพิวเตอร์ Windows 7
  • Verify configuration for errors cscript hvremote.wsf /show /target:othercomputername
  • *ขั้นตอนนี้เป็นอ็อปชัน - ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้

หลังจากเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้วให้ดำเนินการคอนฟิกตามขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2: คอนฟิกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2
การคอนฟิกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 เพื่อให้รองรับการจัดการจากเครื่อง Windows 7 จะต้อง คอนฟิกแอคเคาท์สำหรับใช้จัดการ Hyper-V ดังนี้
  • ทำการสร้างแอคเคาท์สำหรับใช้จัดการ Hyper-V โดยใช้คำสั่ง net user หรือเครื่องมือ Computer Management โดยในที่นี่สร้างแอคเคาท์ชื่อ hypervad
  • คลิก Start พิมพ์ cmd ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิกขวาบน cmd ที่แสดงอยู่ภายใต้หัวข้อ Programs แล้วเลือก Run as administrator (ถ้าปรากฏหน้า User Account Control ให้คลิก Yes)  จากนั้นเปลี่ยนไปทำงานในไดเร็กตอรีที่เก็บไฟล์ Hyper-V Remote Management Configuration Utility (HVRemote.wsf) โดยในที่นี่คือ C:\tools จากนั้นให้รันคำสั่ง cscript hvremote.wsf /add:hypervad

รูปที่ 1:

หลังจากดำเนินเรียบร้อยแล้วให้ดำเนินการคอนฟิกตามขั้นตอนที่ 2

บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
การคอนฟิกเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 สำหรับใช้จัดการ Hyper-V จะมี 3 (3-5) ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้ง Hyper-V Tool บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
ขั้นตอนแรกให้ทำการติดตั้ง RSAT ตามขั้นตอนในบทความเรื่อง วิธีการติดตั้ง Remote Server Administration Tools (RSAT) บน Windows 7 SP1 จากนั้นให้เปิดใช้งาน Hyper-V Tool โดยการคลิก Start คลิก Control Panel แล้วคลิก Programs จากนั้นในหน้าต่าง Programs ให้คลิกลิงก์ Turn Windows features on or off จากนั้นในหน้า Windows Features ให้คลิกหัวข้อ Remote Server Administration Tools แล้วคลิกขยายหัวข้อ Role Administration Tools จากนั้นคลิกเลือก Hyper-V Tool (ดังรูปที่ 1) คลิก OK แล้วรอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ

รูปที่ 2:

ขั้นตอนที่ 4: คอนฟิก Anonymous Logon บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
  • คลิก Start พิมพ์ cmd ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิกขวาบน cmd ที่แสดงอยู่ภายใต้หัวข้อ Programs แล้วเลือก Run as administrator  (ถ้าปรากฏหน้า User Account Control ให้คลิก Yes) จากนั้นเปลี่ยนไปทำงานในไดเร็กตอรีที่เก็บไฟล์ Hyper-V Remote Management Configuration Utility (HVRemote.wsf) โดยในที่นี่คือ C:\scripts จากนั้นให้รันคำสั่ง cscript hvremote.wsf /anondcom:grant

รูปที่ 3:

จากนั้นให้ดำเนินกากขั้นตอนที่5 โดยไม่ต้องปิดหน้าต่างคอมมานด์พรอมท์

ขั้นตอนที่ 5: คอนฟิก Firewall Exception บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7
  • ให้รันคำสั่ง cscript hvremote.wsf /mmc:enable

รูปที่ 4:

การเรียกใช้ Hyper-V Tool
หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนด้านบนเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เรียกใช้งาน Hyper-V โดยการพิมพ์ Hyper-v ในช่อง Search programs and files แล้วคลิกเลือก Hyper-V Manager ที่แสดงอยู่ภายใต้หัวข้อ Programs จากนั้นในหน้าต่าง Hyper-V Manager ให้คลิกขวาบนไอคอน Hyper-V Manager แล้วเลือก Connect to Server

รูปที่ 5:

ในหน้า Select Computer ให้เลือก Another computer จากนั้นให้ป้อนชื่อเซิร์ฟเวอร์ Hyper-V ที่ต้องการ ในที่นี่คือ HYPERV2 เสร็จแล้วคลิก OK จะได้หน้าต่าง Hyper-V Manager ลักษณะดังรูปที่ 7

รูปที่ 6:

รูปที่ 7:

ในกรณีต้องการปรับแต่งคุณสมบัติของ Hyper-V ทำได้โดยการคลิกบนชื่อที่ต้องการแล้วเลือกคำสั่งที่ต้องการจากคอนเท็กซ์เมนูลักษณะดังรูปที่ 8

รูปที่ 8:

ปัญหาที่พบในการจัดการ Hyper-V จาก Windows 7
ปัญหาหนึ่งที่พบในการจัดการ Hyper-V ด้วย Hyper-V Manager จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 คือไม่สามารถเชื่อมต่อได้โดยมีข้อผิดพลาดว่า "You do not have the required permission to complete this task" ลักษณะดังรูปที่ 9 สำหรับวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ให้ทำการล็อกออนเข้าเครื่อง Windows 7 ด้วยชื่อผู้ใช้เหมือนกับบน Windows Server 2008 R2 ที่ติดตั้ง Hyper-V โดยในที่นี้จะใช้ชื่อผู้ใช้เป็น hypervad

รูปที่ 9:

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

Copyright © 2011 TWA Blog. All Rights Reserved.

Related Posts:

  • Microsoft Confirmed: Windows 7 SP1 Build 7601.17514.101119-1850 is not RTMไมโครซอฟท์ยืนยัน Windows 7 SP1 บิลด์ 7601.17514.101119-1850 ไม่ใช่เวอร์ชัน RTM ไมโครซอฟท์ได้ออกปฏิเสธข่าวลือการออก Windows 7 SP1 RTM พร้อมทั้งปฏิเสธว่า Windows 7 SP1 RTM ไม่ได้มีหมายเลขบิลด์ 7601.17514.101119-1850 อย่างที่เป็… Read More
  • Windows 7 and Windows Server 2008 R2 SP1 RTM, to Be Released on February 22, Available to TechNet/MSDN on February 16Service Pack 1 ของ Windows 7 และ Windows Server 2008 R2 พัฒนาเสร็จแล้ว พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลด 22 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากมีทั้งข่าวลือและข่าวหลุดของ Windows 7 Service Pack 1 (SP1) มานานหลายเดือน ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็ได้ประกาศอย่า… Read More
  • How to Use Checkboxes to Select Items in Windows 7วิธีเลือกไฟล์และโฟลเดอร์หลายไอเท็มโดยใช้ CheckBoxes ใน Windows 7 โดยทั่วไปเมื่อต้องการเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์พร้อมกันหลายๆ ไอเท็มใน Windows Explorer นั้นสามารถทำได้หลายวิธี อย่างเช่น ทำการกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วใช้เม้าส์คลิกบนไ… Read More
  • Install Windows 7 Service Pack 1 Release Candidate (RC)การติดตั้ง Windows 7 Service Pack 1 Release Candidate (RC) เอนทรี่นี้จะเป็นการสาธิตวิธีการติดตั้ง Service Pack 1 Release Candidate X86 (ไฟล์ชื่อ windows6.1-KB976932-X86.exe) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 Ultimate เวอร์ชัน 32… Read More
  • Windows Virtual PC 6.1.7600.16393 Available for Downloadไมโครซอฟท์เปิดให้ดาวน์โหลด Windows Virtual PC 6.1.7600.16393 อัพเดท 4 มีนาคม 2554: การออก Windows Virtual PC ตัวใหม่นี้เป็นการอัพเดทการทำงานให้รองรับ Windows 7 SP1 ดังนั้นผู้ที่ทำการติดตั้ง Windows Virtual PC อยู่แล้วไม่จำเป็… Read More

0 Comment: