Pages - Menu

Pages - Menu

Pages

Tuesday, November 6, 2012

Windows 8: แนวทางการเลือกไดรฟ์ยูเอสบีสำหรับ Windows To Go

ผมคิดว่าแอดมินหลายท่านคงตื่นเต้น (และดีใจ) ไม่น้อยเมื่อทราบว่า Windows 8 มีคุณลักษณะ Windows To Go ที่ทำให้บูทและรัน Windows 8 จากไดรฟ์ยูเอสบีได้ เนื่องจาก Windows To Go น่าจะทำให้องค์กรให้บริการตามแนวคิด Bring Your Own Device (BYOD) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ในการใช้งานจริงอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะไมโครซอฟท์รับรองการทำงาน Windows To Go เฉพาะการใช้ฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการรับรองเท่านั้นและโฮสต์คอมพิวเตอร์ต้องผ่านความต้องการระบบขั้นต่ำอีกด้วย

ดังนั้น การปรับใช้คุณลักษณะ Windows To Go ภายในองค์กรให้ประสบความสำเร็จ แอดมินจะต้องเลือกใช้ไดรฟ์ยูเอสบีที่ไมโครซอฟท์รับรองว่าสามารถใช้ทำ Windows To Go ได้ ซึ่งปัจจุบันมีไดรฟ์ยูเอสบีที่ผ่านการรับรองเพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ ระบบฮาร์ดแวร์ของโฮสต์คอมพิวเตอร์นั้นต้องเป็นไปตามความต้องการระบบขั้นต่ำที่กำหนดด้วย สำหรับแนวทางการเลือกฮาร์ดแวร์สำหรับ Windows To Go ที่ไมโครซอฟท์แนะนำมีรายละเอียดดังนี้

หมายเหตุ: จากการทดสอบด้วยตัวเองโดยใช้แฟลชไดรฟ์ SanDisk Cruzer Glide 32 GB (ไม่ผ่านการรับรอง) ผลปรากฏว่า Windows To Go สามารถทำงานได้แต่การทำงานจะไม่เสถียร อ่านรายละเอียด

ไดรฟ์ยูเอสบีที่รองรับ Windows To Go
ไดรฟ์ยูเอสบีที่ใช้ทำ Windows To Go สำหรับใช้ในการบูทและรัน Windows 8 นั้นจะต้องผ่านการรับรองจากไมโครซอฟท์ตามเงื่อนไขดังนี้
  • แฟลชไดรฟ์สำหรับใช้ทำ Windows To Go ต้องสามารถอ่าน/เขียนแบบสุ่มด้วยความเร็วสูงและรองรับ การทำงานของการเข้าถึง I/O แบบสุ่มได้มากกว่า 1000 งานต่อวินาที เพื่อให้ Windows 8 ทำงานได้อย่างราบรื่น
  • แฟลชไดรฟ์สำหรับใช้ทำ Windows To Go จะต้องสนับสนุนการบูทและรันบนรบบฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการรับรองการทำงานกับ Windows 7 หรือ Windows 8
  • แฟลชไดรฟ์สำหรับใช้ทำ Windows To Go จะต้องได้รับการรับรองจากโรงงานผู้ผลิตว่าสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องในการใช้งานปกติ

โดยในขณะที่เขียนเรื่องนี้ มีอุปกรณ์เพียง 3 รุ่นจาก 3 ผู้ผลิตที่ผ่านการรับรองจากไมโครซอฟท์ว่าสามารถใช้ทำ Windows To Go ได้ โดยแบ่งเป็นแฟลชไดรฟ์ 2 รุ่น และ ฮาร์ดดิสก์ภายนอกอีก 1 รุ่น ดังนี้

Kingston DataTraveler Workspace for Windows To Go (http://www.kingston.com/wtg/)
DataTraveler Workspace[1] เป็นแฟลชไดรฟ์ที่ผ่านการรับรองว่าสามารถใช้ทำ Windows To Go ได้ โดยบริษัทคิงส์ตัน ประเทศไทย ได้เปิดตัวแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่: http://www.kingston.com/th/usb/bootable

DataTraveler Workspace มีข้อมูลจำเพาะทางด้านเทคนิค ดังนี้
  • ความจุ [2]: 32GB, 64GB, 128GB* (*ผลิตตามสั่ง)
  • ความเร็ว [3]:
    • ความเร็วสูงสุดในการอ่าน/เขียนต่อเนื่อง: 250/250 MB/s
    • ความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบสุ่ม 4K: 3,750/9,800 IOPS
    • คะแนนการทดสอบด้วย PCMARK Vantage HDD Suite: 22,250
  • สนับสนุน: TRIM and S.M.A.R.T commands
  • ขนาดตัวแฟลชไดรฟ์: 75.29mm x 22.98mm x 16.44mm
  • อุณหภูมิใช้งานปกติ: 32°F to 140°F (0°C to 60°C)
  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: -4°F to 185°F (-20°C to 85°C)
  • การรับประกัน: 2ปี
  • ราคา: เริ่มต้น (โดยประมาณ) $140

DataTraveler Workspace (เครดิต: Kingston)

[1] ต้องติดตั้ง Windows 8 Enterprise เนื่องจากอุปกรณ์ไม่ได้ติดตั้งระบบนี้มาจากโรงงาน
[2] ความจุที่ระบุบางส่วนบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ถูกนำไปใช้ในการฟอร์แมตและฟังก์ชั่นอื่น ๆ จึงไม่สามารถใช้ในการจัดเก็บข้อมูลได้ ดังนั้นความจุที่แท้จริงสำหรับจัดเก็บข้อมูลอาจน้อยกว่าที่แจ้งในตัวผลิตภัณฑ์
[3] ความเร็วอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และการใช้งาน

Super Talent Express RC8 for Windows To Go (http://www.supertalent.com/wtg/)
Super Talent Express RC8 for Windows To Go เป็นแฟลชไดรฟ์ที่ผ่านการรับรองว่าสามารถใช้ทำ Windows To Go ได้

Super Talent Express RC8 for Windows To Go มีข้อมูลจำเพาะทางด้านเทคนิค ดังนี้
  • ความจุ: 32GB, 64GB, 128GB**
  • ขนาดตัวแฟลชไดรฟ์: 92.7 mm x 25.0 mm x 8.0 mm
  • ตัวควบคุม: SandForce SSD Controller
  • ความเร็วสูงสุดของการอ่าน: 270MB/s
  • ความเร็วสูงสุดของการเขียน: 240MB/s
  • ความเข้ากันได้ย้อนหลัง: USB 2.0
  • การเก็บรักษาข้อมูล: 10 ปี
  • การรับประกัน: 5 ปี
  • ราคา: เริ่มต้น (โดยประมาณ) $99

Super Talent Express RC8 for Windows To Go (เครดิต: Supertalent)

** ความจุที่แท้จริงเท่ากับ 25 GB, 50 GB และ 100 GB

Western Digital My Passport Enterprise (http://www.wd.com/wtg)
Western Digital My Passport Enterprise ฮาร์ดดิสก์ภายนอกเพียงรุ่นเดียวที่ผ่านการรับรองว่าสามารถใช้ทำ Windows To Go ได้ โดยมีข้อมูลจำเพาะทางด้านเทคนิค ดังนี้
  • ความจุ: 500GB
  • ความเร็ว: ความเร็วสูงสุด 5 GB/s
  • ขนาดตัวไดรฟ์: 15mm x 111mm x 82mm
  • น้ำหนัก: 0.138 กรัม
  • อุณหภูมิใช้งานปกติ: 41°F to 95 °F
  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: -4°F to 149 °F
  • การรับประกัน: 2 ปี
  • ราคา: เริ่มต้น (โดยประมาณ) $120

Western Digital My Passport Enterprise (เครดิต: Western Digital)

โฮสต์คอมพิวเตอร์สำหรับใช้บูท Windows To Go
การใช้ Windows To Go ในการบูทและรัน Windows 8 นั้นนอกจากจะต้องใช้แฟลชไดรฟ์ที่ผ่านการรับรองจากไมโครซอฟท์แล้ว ตัวโฮสต์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ต้องมีเงื่อนไขและความต้องการระบบดังนี้
  • ฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการรับรองการทำงานกับ Windows 7 หรือ Windows 8 จะทำงานกับ Windows To Go ได้ดี
  • Windows To Go ไม่สนับสนุนการรันจาก Windows RT
  • Windows To Go ไม่สนับสนุนการรันบนฮาร์ดแวร์ Mac

โฮสต์คอมพิวเตอร์ที่จะใช้รัน Windows To Go มีความต้องการระบบดังนี้
  • Boot process: สามารถบูทด้วยยูเอสบีได้
  • Firmware: รองรับการบูทด้วยยูเอสบี (พีซีที่ผ่านการรับรองสำหรับใช้งานกับ Windows 7 หรือ Windows 8 ที่สามารถคอนฟิกให้บูทจากยูเอสบีโดยตรงได้)
  • Process Architecture: จะต้องรองรับอิมเมจบนไดรฟ์ Windows To Go
  • External USB Hubs: ไม่สนับสนุน; ต้องต่อไดรฟ์ Windows To Go เข้ากับโฮสต์โดยตรง
  • Processor: 1GHz หรือเร็วกว่า
  • RAM: 2GB หรือมากกว่า
  • Graphics: รองรับ DirectX 9 และ Windows Display Driver Model (WDDM) 1.2
  • USB Port: พอร์ต USB 2.0 หรือสูงกว่า

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาการเข้ากันได้ระหว่าง BIOS, สถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ และเฟิร์มแวร์ของโฮสต์คอมพิวเตอร์ดังนี้
  • Legacy BIOS: โฮสต์คอมพิวเตอร์ใช้โปรเซสเซอร์ 32-bit ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ 32-bit เท่านั้น
  • Legacy BIOS: โฮสต์คอมพิวเตอร์ใช้โปรเซสเซอร์ 64-bit ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ 32-bit and 64-bit
  • UEFI BIOS: โฮสต์คอมพิวเตอร์ใช้โปรเซสเซอร์ 32-bit ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ 32-bit เท่านั้น
  • UEFI BIOS: โฮสต์คอมพิวเตอร์ใช้โปรเซสเซอร์ 64-bit ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ 64-bit เท่านั้น

ทั้งนี้ Windows To Go เป็นคุณลักษณะที่มีให้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อซอฟต์แวร์แบบแบบ Volume License (VL) เท่านั้น และไมโครซอฟท์ย้ำว่าคุณลักษณะนี้ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อแทนที่การติดตั้งใช้งาน Windows แบบปกติแต่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรขององค์กร

บทความโดย: TWA Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Microsoft Technet

Copyright © 2012 TWA Blog. All Rights Reserved.

No comments:

Post a Comment

เชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ข้อความ HTML