Sysinternals Suite Build 20081030
ชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น เป็นการรวบรวมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ที่พัฒนาโดย Sysinternals เข้าเป็นชุดโปรแกรมเพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้งานในการดาวน์โหลด โดยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง Sysinternals ก็ได้ออกอัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081030 ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มีโปรแกรมเครื่องมือเวอร์ชันใหม่จำนวน 1 ตัว คือ Process Monitor 2.02
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite มาทดลองใช้งานได้จากเว็บไซต์ (ไฟล์มีขนาดประมาณ 9 MB) ดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
เครื่องมือที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่ใน Sysinternals Suite Build 20081030
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081030 นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือเวอร์ชันใหม่ จำนวน 1 ตัว คือ
• Process Monitor 2.02 New!
By Mark Russinovich and Bryce Cogswell
โปรแกรม Process Monitor นั้น เป็นเครื่องมือสำหรับใช้มอนิเตอร์การทำงานของระบบแบบเรียลไทม์ สามารถใช้เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบวินโดวส์ และยังใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านมัลแวร์ได้อีกด้วย โดย Process Monitor นั้น สามารถทำงานได้บน Windows 2000 SP4 ที่ติดตั้ง Update Rollup 1, Windows XP SP2, Windows Server 2003 SP1 และ Windows Vista โดยสามารถทำงานได้ทั้งแพลตฟอร์ม 32 บิต และ 64 บิต สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดโปรแกรม Process Monitor v2.02 มาทดลองใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมชุด Sysinternals Suite หรือดาวน์โหลดแบบเดี่ยวๆ ได้จาก Sysinternals Process Monitor v2.02 สำหรับวิธีการใช้งานนั้น สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน Sysinternals Process Monitor v1.2
รายชื่อเครื่องมือในชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ดังนี้
1. AccessChk v4.02 (9/4/2007)
2. AccessEnum v1.32 (11/1/2006)
3. AdExplorer v1.01 (11/5/2007)
4. AdRestore v1.1 (11/1/2006)
5. Autologon v2.10 (11/1/2006)
6. Autoruns v9.35 (10/16/2008)
7. BgInfo v4.12 (11/5/2007)
8. CacheSet v1.0 (11/1/2006)
9. ClockRes v1.0 (11/1/2006)
10. Contig v1.54 (3/21/2007)
11. Coreinfo v1.0 (11/9/2008)
12. Ctrl2Cap v2.0 (11/1/2006)
13. DebugView v4.74 (11/27/2007)
14. Desktops 1.0 (08/21/2008)
15. DiskExt 1.1 (5/14/2007)
16. Diskmon v2.01 (11/1/2006)
17. DiskView v2.21 (11/1/2006)
18. DU v1.31 (11/1/2006)
19. EFSDump v1.02 (11/1/2006)
20. Filemon v7.04 (11/1/2006)
21. Handle v3.30 (10/15/2007)
22. Hex2dec v1.0 (11/1/2006)
23. Junction v1.05 (7/24/2007)
24. LdmDump v1.02 (11/1/2006)
25. ListDlls v2.25 (11/1/2006)
26. LiveKd v3.0 (11/1/2006)
27. LoadOrder v1.0 (11/1/2006)
28. LogonSessions v1.1 (11/1/2006)
29. NewSid v4.10 (11/1/2006)
30. NtfsInfo v1.0 (11/1/2006)
31. PageDefrag v2.32 (11/1/2006)
32. PendMoves v1.1 (11/1/2006)
33. Portmon v3.02 (11/1/2006)
34. ProcessExplorer v11.10 (26/2/2008)
35. ProcessMonitor v2.02 (10/30/2008) New!
36. ProcFeatures v1.10 (11/1/2006)
37. PsExec v1.92 (11/27/2007)
38. PsFile v1.02 (12/4/2006)
39. PsGetSid v1.43 (12/4/2006)
40. PsInfo v1.75 (7/9/2007)
41. PsKill v1.12 (12/4/2006)
42. PsList v1.28 (12/4/2006)
43. PsLoggedOn v1.33 (12/4/2006)
44. PsLogList v2.64 (12/4/2006)
45. PsPasswd v1.22 (12/4/2006)
46. PsService v2.21 (12/4/2006)
47. PsShutdown v2.52 (12/4/2006)
48. PsSuspend v1.06 (12/4/2006)
49. RegDelNull v1.10 (11/1/2006)
50. RegJump v1.01 (11/1/2006)
51. RegMon v7.04 (11/1/2006)
52. RootkitRevealer v1.71 (11/1/2006)
53. SDelete v1.51 (11/1/2006)
54. ShareEnum v1.6 (11/1/2006)
55. SigCheck v1.52 (26/2/2008)
56. Streams v1.56 (4/27/2007)
57. Strings v2.40 (4/24/2007)
58. Sync v2.0 (11/1/2006)
59. TcpView v2.51 (8/16/2007)
60. VolumeId v2.0 (11/1/2006)
61. WhoIs v1.01 (11/1/2006)
62. WinObj v2.15 (11/1/2006)
63. ZoomIt v2.11 (09/30/2007)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• ดาวน์โหลด Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• เว็บไซต์ Windows Sysinternals Windows Sysinternals
• เว็บไซต์ http://live.sysinternals.com/
Sysinternals Suite Build 20081030 Process Monitor 2.02
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Pages - Menu
▼
Pages - Menu
▼
Pages
▼
Friday, October 31, 2008
Installing Windows Server 2008 Hyper-V Role
การติดตั้ง Hyper-V บน Windows Server 2008
บทความโดย: Windows Administrator Blog
การติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V นั้น มีขั้นตอนเหมือนกับการติดตั้ง Role อื่นๆ อย่างไรก็ตาม Hyper-V นั้นเป็นเทคโนโลยีแบบ 64-bit ซึ่งจะมีให้เลือกติดตั้งได้เฉพาะบนระบบ Windows Server 2008 และระบบฮาร์ดแวร์แบบ 64-bit เช่นเทคโนโลยี Intel VT หรือ AMD-V เท่านั้น
ข้อควรทราบ:
ด้วยสาเหตุต่างๆ หลายประการ ทำให้ไมโครซอฟท์พัฒนา Hyper-V เสร็จช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้เวอร์ชันของ Hyper-V ที่ออกมาพร้อม Windows Server 2008 นั้นยังเป็นเวอร์ชัน Pre-Release ดังนั้น ก่อนทำการติดตั้ง Hyper-V ต้องทำการติดตั้งอัพเดทที่ชื่อ Hyper-V Update for Windows Server 2008 x64 Edition (KB950050) ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Download Hyper-V for Windows Server 2008 (KB950050)
หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการติดตั้งโดยการดับเบิลคลิกไฟล์ Windows6.0-KB950050-x64.msu เมื่อระบบทำการติดตั้งอัพเดทแล้วเสร็จให้ทำการรีสตาร์ทระบบหนึ่งครั้ง ซึ่งหลังจากระบบรีสตาร์ทเสร็จจะทำการคอนฟิกระบบและทำการรีสตาร์ทระบบเองอีกหนึ่งครั้ง เมื่อการติดตั้งอัดเดทเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทำการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V ตามขั้นตอนด้านล่าง
ขั้นตอนการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V
การติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V ให้ทำการล็อกออนเข้าเซิร์ฟเวอร์ด้วยแอคเคาท์กลุ่ม Administrator จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Server Manager โดยการคลิก Start คลิก Server Manager ดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 Server Manager
2. ในหน้าต่าง Server Manager ให้เลื่อนลงไปยังส่วน Roles Summary จากนั้นคลิก Add Roles
รูปที่ 2 Roles Summary
3. ในหน้า Before You Begin ให้คลิก Next
4. ในหน้า Select Server Roles ให้คลิกเลือกเช็คบ็อกซ์หน้า Hyper-V ดังรูปที่ 3 เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 3 Select Server Roles
5. ในหน้า Hyper-V ให้คลิก Next
หมายเหตุ: ให้ตรวจสอบคอนฟิกใน BIOS ของเครื่องว่ารองรับการใช้งาน Hyper-V หรือไม่
6. ในหน้า Create Virtual Networks ให้เลือก Ethernet Card ที่ต้องการใช้เป็น Virtual Networks เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 4 Create Virtual Networks
7. ในหน้า Confirm Installation Selections ให้ตรวจสอบการเลือกค่าต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ เสร็จแล้วคลิก Install
รูปที่ 5 Confirm Installation Selection
8. รอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ จากนั้นในหน้า Installation Results ให้คลิก Close
9. ในหน้า Do you want to restart now? ให้คลิก Yes เพื่อทำการรีสตาร์ทระบบ จากนั้นรอจนระบบพร้อมใช้งาน
รูปที่ 6 Do you want to restart now?
10. เมื่อระบบพร้อมใช้งาน ให้ทำการล็อกออนด้วยแอคเคาท์ที่ใช้ทำการติดตั้ง Hyper-V จากนั้นวินโดวส์จะทำการคอนฟิกระบบต่อ เมื่อเสร็จแล้วจะแสดงหน้า Installation Results ดังรูปที่ 7 จากนั้นให้คลิก Close เพื่อจบการติดตั้ง Hyper-V
รูปที่ 7 Installation Results
หมายเหตุ:
ในการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V นั้น ระบบจะทำการติดตั้ง Hyper-V Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ในการจัดการ Hyper-V ให้โดยอัตโนมัติ อ่านรายละเอียดวิธีการใช้งานได้ที่ Hyper-V Server Configuration (ภาษาไทย)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• ดาวน์โหลด Microsoft Hyper-V Server 2008 (ThWAB)
• โฮมเพจ Hyper-V Server 2008
Windows Server 2008 Hyper-V Installation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
บทความโดย: Windows Administrator Blog
การติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V นั้น มีขั้นตอนเหมือนกับการติดตั้ง Role อื่นๆ อย่างไรก็ตาม Hyper-V นั้นเป็นเทคโนโลยีแบบ 64-bit ซึ่งจะมีให้เลือกติดตั้งได้เฉพาะบนระบบ Windows Server 2008 และระบบฮาร์ดแวร์แบบ 64-bit เช่นเทคโนโลยี Intel VT หรือ AMD-V เท่านั้น
ข้อควรทราบ:
ด้วยสาเหตุต่างๆ หลายประการ ทำให้ไมโครซอฟท์พัฒนา Hyper-V เสร็จช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้เวอร์ชันของ Hyper-V ที่ออกมาพร้อม Windows Server 2008 นั้นยังเป็นเวอร์ชัน Pre-Release ดังนั้น ก่อนทำการติดตั้ง Hyper-V ต้องทำการติดตั้งอัพเดทที่ชื่อ Hyper-V Update for Windows Server 2008 x64 Edition (KB950050) ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Download Hyper-V for Windows Server 2008 (KB950050)
หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการติดตั้งโดยการดับเบิลคลิกไฟล์ Windows6.0-KB950050-x64.msu เมื่อระบบทำการติดตั้งอัพเดทแล้วเสร็จให้ทำการรีสตาร์ทระบบหนึ่งครั้ง ซึ่งหลังจากระบบรีสตาร์ทเสร็จจะทำการคอนฟิกระบบและทำการรีสตาร์ทระบบเองอีกหนึ่งครั้ง เมื่อการติดตั้งอัดเดทเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทำการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V ตามขั้นตอนด้านล่าง
ขั้นตอนการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V
การติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V ให้ทำการล็อกออนเข้าเซิร์ฟเวอร์ด้วยแอคเคาท์กลุ่ม Administrator จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Server Manager โดยการคลิก Start คลิก Server Manager ดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 Server Manager
2. ในหน้าต่าง Server Manager ให้เลื่อนลงไปยังส่วน Roles Summary จากนั้นคลิก Add Roles
รูปที่ 2 Roles Summary
3. ในหน้า Before You Begin ให้คลิก Next
4. ในหน้า Select Server Roles ให้คลิกเลือกเช็คบ็อกซ์หน้า Hyper-V ดังรูปที่ 3 เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 3 Select Server Roles
5. ในหน้า Hyper-V ให้คลิก Next
หมายเหตุ: ให้ตรวจสอบคอนฟิกใน BIOS ของเครื่องว่ารองรับการใช้งาน Hyper-V หรือไม่
6. ในหน้า Create Virtual Networks ให้เลือก Ethernet Card ที่ต้องการใช้เป็น Virtual Networks เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 4 Create Virtual Networks
7. ในหน้า Confirm Installation Selections ให้ตรวจสอบการเลือกค่าต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ เสร็จแล้วคลิก Install
รูปที่ 5 Confirm Installation Selection
8. รอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ จากนั้นในหน้า Installation Results ให้คลิก Close
9. ในหน้า Do you want to restart now? ให้คลิก Yes เพื่อทำการรีสตาร์ทระบบ จากนั้นรอจนระบบพร้อมใช้งาน
รูปที่ 6 Do you want to restart now?
10. เมื่อระบบพร้อมใช้งาน ให้ทำการล็อกออนด้วยแอคเคาท์ที่ใช้ทำการติดตั้ง Hyper-V จากนั้นวินโดวส์จะทำการคอนฟิกระบบต่อ เมื่อเสร็จแล้วจะแสดงหน้า Installation Results ดังรูปที่ 7 จากนั้นให้คลิก Close เพื่อจบการติดตั้ง Hyper-V
รูปที่ 7 Installation Results
หมายเหตุ:
ในการติดตั้ง Windows Server 2008 Hyper-V นั้น ระบบจะทำการติดตั้ง Hyper-V Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ในการจัดการ Hyper-V ให้โดยอัตโนมัติ อ่านรายละเอียดวิธีการใช้งานได้ที่ Hyper-V Server Configuration (ภาษาไทย)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• ดาวน์โหลด Microsoft Hyper-V Server 2008 (ThWAB)
• โฮมเพจ Hyper-V Server 2008
Windows Server 2008 Hyper-V Installation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Wednesday, October 29, 2008
CCleaner 2.13.720
CCleaner 2.13.720
CCleaner คือโปรแกรมสำหรับใช้ทำความสะอาดไฟล์ขยะและไฟล์ชั่วคราวต่างๆ ของวินโดวส์ ซึ่งพัฒนาโดยทีมพัฒนาของ Periform Limited ในประเทศอังกฤษ เป็นซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ใช้งานกันฟรีๆ ซึ่งมีการดาวน์โหลดไปใช้งานกันเป็นจำนวนถึงกว่า 200 ล้านครั้ง (นับถึงเดือนตุลาคม 2551) และเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาทาง Piriform Limited ได้ออก CCleaner เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ v2.13.720 โดยได้ทำการปรับปรุงด้านต่างๆ ดังนี้
มีอะไรใหม่ใน CCleaner 2.13.720
- Added support for Firefox 3.1.
- Added right-click cleaning and analysis for individual items in the tree.
- Added icons to tree parent items.
- Added cleaning for Windows Error Reporting files.
- Added Include/Exclude list editing.
- Improved TypeLib registry cleaning.
- Fixed Index.dat bug that could cause a crash.
- Fixed bug with INI warning messages.
- Internal architecture improvements.
- Fixed minor GUI errors.
การติดตั้งโปรแกรม
สำหรับท่านที่สนใจใช้งาน สามารถทำการดาวน์โหลด CCleaner 2.13.720 ได้จากเว็บไซต์ CCleaner หรือจากเว็บไซต์ Filehippo ซึ่งไฟล์จะมีขนาดประมาณ 2.866 MB
สำหรับรายละเอียดวิธีการใช้งานโปรแกรม CCleaner สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน CCleaner Step-by-Step
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• CCleaner ที่เว็บไซต์ http://www.ccleaner.com
CCleaner 2.13.720
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
CCleaner คือโปรแกรมสำหรับใช้ทำความสะอาดไฟล์ขยะและไฟล์ชั่วคราวต่างๆ ของวินโดวส์ ซึ่งพัฒนาโดยทีมพัฒนาของ Periform Limited ในประเทศอังกฤษ เป็นซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ใช้งานกันฟรีๆ ซึ่งมีการดาวน์โหลดไปใช้งานกันเป็นจำนวนถึงกว่า 200 ล้านครั้ง (นับถึงเดือนตุลาคม 2551) และเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาทาง Piriform Limited ได้ออก CCleaner เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ v2.13.720 โดยได้ทำการปรับปรุงด้านต่างๆ ดังนี้
มีอะไรใหม่ใน CCleaner 2.13.720
- Added support for Firefox 3.1.
- Added right-click cleaning and analysis for individual items in the tree.
- Added icons to tree parent items.
- Added cleaning for Windows Error Reporting files.
- Added Include/Exclude list editing.
- Improved TypeLib registry cleaning.
- Fixed Index.dat bug that could cause a crash.
- Fixed bug with INI warning messages.
- Internal architecture improvements.
- Fixed minor GUI errors.
การติดตั้งโปรแกรม
สำหรับท่านที่สนใจใช้งาน สามารถทำการดาวน์โหลด CCleaner 2.13.720 ได้จากเว็บไซต์ CCleaner หรือจากเว็บไซต์ Filehippo ซึ่งไฟล์จะมีขนาดประมาณ 2.866 MB
สำหรับรายละเอียดวิธีการใช้งานโปรแกรม CCleaner สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน CCleaner Step-by-Step
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• CCleaner ที่เว็บไซต์ http://www.ccleaner.com
CCleaner 2.13.720
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Tuesday, October 28, 2008
การสร้างการเชื่อมต่อ VPN บน Windows Vista
การสร้างการเชื่อมต่อ VPN บน Windows Vista
วิธีการสร้างการเชื่อมต่อ VPN บน Windows Vista มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Network and Sharing Center โดยการคลิก Start คลิก Control Panel
2. ในหน้าต่าง Control Panel คลิก Network and Internet
3. ในหน้าต่าง Network and Internet คลิก Network and Sharing Center
4. ในหน้าต่าง Network and Sharing Center ในส่วนเนวิเกตให้คลิก Setup a connection or network
5. ในหน้าต่าง Setup a connection or network คลิก Connect to a workplace จากรายการภายใต้ Choose a connection options เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 1 Choose a connection options
6. ในหน้าต่าง Connect to a workplace คลิกเลือกวิธีการเชื่อมต่อจากรายการภายใต้ How do you want to connect?
รูปที่ 2 How do you want to connect
7. ในหน้าต่าง Do you want to set up an Internet connection before continuing ให้คลิกเลือกอ็อปชันที่ต้องการ
รูปที 3 Set up an Internet connection
8. ในหน้าต่าง Type internet address to connect ให้พิมพ์ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือหมายเลขไอพีของ VPN เซิร์ฟเวอร์ และพิมพ์ชื่อของการเชื่อมต่อในช่อง Destination name: เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 4 Type internet address to connect
9. ในหน้าต่าง Type your user name and password ให้พิมพ์ชื่อยูสเซอร์และรหัสผ่านในกล่อง Username: และ Password: ตามลำดับ จากนั้นเลือกอ็อปชันตามต้องการเสร็จแล้วคลิก Create
รูปที่ 5 Type your user name and password
10. ในหน้าต่าง This connection is ready to use ให้คลิก Close เพื่อจบสร้างการเชื่อมต่อ VPN
รูปที 6 This connection is ready to use
Keywords: VPN Connection
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
วิธีการสร้างการเชื่อมต่อ VPN บน Windows Vista มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Network and Sharing Center โดยการคลิก Start คลิก Control Panel
2. ในหน้าต่าง Control Panel คลิก Network and Internet
3. ในหน้าต่าง Network and Internet คลิก Network and Sharing Center
4. ในหน้าต่าง Network and Sharing Center ในส่วนเนวิเกตให้คลิก Setup a connection or network
5. ในหน้าต่าง Setup a connection or network คลิก Connect to a workplace จากรายการภายใต้ Choose a connection options เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 1 Choose a connection options
6. ในหน้าต่าง Connect to a workplace คลิกเลือกวิธีการเชื่อมต่อจากรายการภายใต้ How do you want to connect?
รูปที่ 2 How do you want to connect
7. ในหน้าต่าง Do you want to set up an Internet connection before continuing ให้คลิกเลือกอ็อปชันที่ต้องการ
รูปที 3 Set up an Internet connection
8. ในหน้าต่าง Type internet address to connect ให้พิมพ์ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือหมายเลขไอพีของ VPN เซิร์ฟเวอร์ และพิมพ์ชื่อของการเชื่อมต่อในช่อง Destination name: เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 4 Type internet address to connect
9. ในหน้าต่าง Type your user name and password ให้พิมพ์ชื่อยูสเซอร์และรหัสผ่านในกล่อง Username: และ Password: ตามลำดับ จากนั้นเลือกอ็อปชันตามต้องการเสร็จแล้วคลิก Create
รูปที่ 5 Type your user name and password
10. ในหน้าต่าง This connection is ready to use ให้คลิก Close เพื่อจบสร้างการเชื่อมต่อ VPN
รูปที 6 This connection is ready to use
Keywords: VPN Connection
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 now available
ประเมินความเสี่ยงของระบบคอมพิวเตอร์ ด้วย Microsoft Security Assessment Tool 4.0
Microsoft Security Assessment Tool (MSAT) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการประเมินความเสี่ยงของระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะเป็นแนะนำแนวทางปฏิบัติทางด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้าน Information technology (IT)
รายละเอียดการดวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool 4.0
ชื่อไฟล์: MSATEnglish.zip
เวอร์ชัน: 4.0
ขนาดของไฟล์: 6.8 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 17 นาที (Dial-up 56K)
วันที่ออก: 10/15/2008
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 10 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: ดาวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool 4.0
หมายเหตุ: Registration Required for This Download
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อเนื่องจากเวอร์ชันก่อนหน้าที่ออกในปี 2004 และ Microsoft Security Assessment Tool 2.0 ที่ออกในปี 2006 โดยการเพิ่มคำถามและคำตอบต่างๆ ให้ครอบคลุมภัยคุกคามความปลอดภัยที่จะกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน Information technology (IT) มากที่สุด
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 มีการทำงานแบบองค์รวมเพื่อทำการวัดเกี่ยวกับความปลอดภัย ที่ครอบคลุมห้อข้อเกี่ยวกับบุคคล โปรเซส และเทคโนโลยี โดยการใช้แนวทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหา รวมถึงจะมีการเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะให้ความช่วยเหลือและเครื่องมือเกี่ยวกับความปลอดภัย
โดย Microsoft Security Assessment Tool จะนิยามการประเมิน 2 อย่างคือ
สำหรับคำถามต่างๆ ส่วนแบบสอบถามรวมถึงคำตอบของ Microsoft Security Assessment Tool 4.0 นั้น จะเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติทั่วไปทางด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด คำถามและคำแนะนำต่างๆ นั้น จะอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 17799 และ NIST-800.x รวมถึงแนวปฏิบัติจาก Trustworthy Computing ของไมโครซอฟท์
หลังจากทำการประเมินความเสี่ยงเสร็จแล้ว โปรแกรมจะสร้างรายงานที่แสดงรายละเอียดของผลการประเมิน ซึ่งผู้ดูและระบบสามารถใช้ในการเปรียบเทียบกับองค์กรอื่นๆ ซึ่งไมโครซอฟท์ได้ให้องค์กรสามารถส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงแบบนิรนามไปยังเว็บไซต์ MSAT
ความต้องการระบบ
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 มีความต้องการระบบ ดังนี้
นอกจากนี้ควรทำการติดตั้ง Service Packs ล่าสุดของระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตบราวเซอร์ ก่อนทำการติดตั้งโปรแกรม
ในการทำงานของโปรแกรม Microsoft Security Assessment Tool นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการอัพโหลดหรือตรวจสอบการอัพเดทโปรแกรมจะต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Keywords: Microsoft Security Assessment Tool MSAT 4.0
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Assessment Tool (MSAT) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการประเมินความเสี่ยงของระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะเป็นแนะนำแนวทางปฏิบัติทางด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้าน Information technology (IT)
รายละเอียดการดวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool 4.0
ชื่อไฟล์: MSATEnglish.zip
เวอร์ชัน: 4.0
ขนาดของไฟล์: 6.8 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 17 นาที (Dial-up 56K)
วันที่ออก: 10/15/2008
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 10 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: ดาวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool 4.0
หมายเหตุ: Registration Required for This Download
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อเนื่องจากเวอร์ชันก่อนหน้าที่ออกในปี 2004 และ Microsoft Security Assessment Tool 2.0 ที่ออกในปี 2006 โดยการเพิ่มคำถามและคำตอบต่างๆ ให้ครอบคลุมภัยคุกคามความปลอดภัยที่จะกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน Information technology (IT) มากที่สุด
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 มีการทำงานแบบองค์รวมเพื่อทำการวัดเกี่ยวกับความปลอดภัย ที่ครอบคลุมห้อข้อเกี่ยวกับบุคคล โปรเซส และเทคโนโลยี โดยการใช้แนวทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหา รวมถึงจะมีการเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะให้ความช่วยเหลือและเครื่องมือเกี่ยวกับความปลอดภัย
โดย Microsoft Security Assessment Tool จะนิยามการประเมิน 2 อย่างคือ
- Business Risk Profile Assessment
- Defense in Depth Assessment (UPDATED)
สำหรับคำถามต่างๆ ส่วนแบบสอบถามรวมถึงคำตอบของ Microsoft Security Assessment Tool 4.0 นั้น จะเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติทั่วไปทางด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด คำถามและคำแนะนำต่างๆ นั้น จะอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 17799 และ NIST-800.x รวมถึงแนวปฏิบัติจาก Trustworthy Computing ของไมโครซอฟท์
หลังจากทำการประเมินความเสี่ยงเสร็จแล้ว โปรแกรมจะสร้างรายงานที่แสดงรายละเอียดของผลการประเมิน ซึ่งผู้ดูและระบบสามารถใช้ในการเปรียบเทียบกับองค์กรอื่นๆ ซึ่งไมโครซอฟท์ได้ให้องค์กรสามารถส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงแบบนิรนามไปยังเว็บไซต์ MSAT
ความต้องการระบบ
Microsoft Security Assessment Tool 4.0 มีความต้องการระบบ ดังนี้
- รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows Server 2003 Service Pack 2, Windows Server 2008, Windows Vista และ Windows XP Service Pack 2
- .NET Framework Version 3.5
- Internet Explorer 6.0 หรือสูงกว่า
- SQL Server CE 3.5
นอกจากนี้ควรทำการติดตั้ง Service Packs ล่าสุดของระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตบราวเซอร์ ก่อนทำการติดตั้งโปรแกรม
ในการทำงานของโปรแกรม Microsoft Security Assessment Tool นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการอัพโหลดหรือตรวจสอบการอัพเดทโปรแกรมจะต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Keywords: Microsoft Security Assessment Tool MSAT 4.0
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
How to recover from Winsock2 corruption in Windows XP
วิธีการแก้ไขปัญหา Winsock บน Windows XP
Winsock นั้นเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการใช้งานโปรโตคอล TCP/IP บนระบบวินโดวส์ ในกรณีที่ Winsock เกิดการคอรัปท์หรือเสียหายจะส่งผลให้ยูสเซอร์ไม่สามารถใช้งานระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ โดยวินโดวส์จะแสดงข้อความแจ้งความผิดพลาดเมื่อทำการใช้งานต่างๆ ตามกรณี ดังนี้
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรี ได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ก่อนที่จะแก้ไข
1. เมื่อทำการรันคำสั่ง Ipconfig /release หรือ Ipconfig /renew วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
An error occurred while renewing interface 'Internet': An operation was attempted on something that is not a socket.
2. เมื่อทำการรัน ipconfig /renew วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
ข้อผิดพลาดที่ 1
An error occurred while renewing interface local area connection: an operation was attempted on something that is not a socket. Unable to contact driver Error code 2.
ข้อผิดพลาดที่ 2
The operation failed since no adapter is in the state permissible for this operation.
ข้อผิดพลาดที่ 3
The attempted operation is not supported for the type of object referenced.
3. เมื่อเปิดโปรแกรม Internet Explorer วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
The page cannot be displayed
4. เมื่อใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
Initialization function INITHELPERDLL in IPMONTR.DLL failed to start with error code 10107
5. เมื่อทำการสร้าง dial-up connection วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
Error 720: No PPP Control Protocols Configured
6.ใน Device Manager เมื่อคลิก Show Hidden Devices ไดรเวอร์ TCP/IP Protocol Driver มีสถานะเป็น Disabled ในส่วน Non-Plug and Play drivers และได้รับรหัสข้อผิดพลาด 24
การแก้ไขปัญหา Winsock
ก่อนอื่นต้องทำการตรวจสอบการทำงานของ Winsock ก่อนว่ามีปัญหาหรือไม่ โดยวิธีการตรวจสอบว่าคีย์ Winsock2 เสียหายหรือไม่ ทำได้โดยใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้
วิธีที่ 1: ใช้โปรแกรม Netdiag
การใช้ Netdiag ต้องยกเลิกการติดตั้ง Support Tools ของ Windows XP เสียก่อน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
หมายเหตุ:
• หากไม่ได้ติดตั้ง Support Tools ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 2 ในส่วนนี้
• หากไม่ได้ติดตั้ง Support Tools และไม่มีแผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP ให้ใช้วิธีที่ 2
ขั้นตอนที่ 1
1. ใส่แผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP แล้วไปยังโฟลเดอร์ Support\Tools
2. ดับเบิลคลิกไฟล์ Setup.exe
3. จากนั้นทำตามขั้นตอนต่างๆ บนหน้าจอจนกระทั่งถึงหน้า Select An Installation Type
4. ที่หน้าจอ Select An Installation Type ให้คลิก Complete แล้วคลิก Next
ขั้นตอนที่ 2
เมื่อทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้:
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ Command แล้วคลิก OK
2. พิมพ์ netdiag /test:winsock แล้วกด ENTER
โปรแกรม Netdiag จะแสดงผลการทดสอบสำหรับองค์ประกอบเน็ตเวิร์กหลายๆ อย่างรวมทั้ง Winsock หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบให้ใช้พารามิเตอร์ /v ต่อท้ายคำสั่ง netdiag: netdiag /test:winsock /v
วิธีที่ 2: ใช้โปรแกรม Msinfo32
วิธีการตรวจสอบว่าคีย์ Winsock2 เสียหายหรือไม่ โดยใช้โปรแกรม Msinfo32 นั้น จะใช้ได้เฉพาะเมื่อไม่มีแผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP และไม่ได้ติดตั้ง Support Tools บนระบบ ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ Msinfo32 แล้วคลิก OK
2. ในหน้า System Information ให้คลิกขยาย Components ขยาย Network แล้วคลิก Protocol
3. ภายใต้ Protocol จะมีหัวข้อของส่วนต่างๆ 10 หัวข้อ ซึ่งมีชื่อต่างๆ ต่อไปนี้หากคีย์ Winsock2 ไม่ได้รับความเสียหาย:
• MSAFD Tcpip [TCP/IP]
• MSAFD Tcpip [UDP/IP]
• RSVP UDP Service Provider
• RSVP TCP Service Provider
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
หากชื่อต่างๆ ที่แสดงแตกต่างไปรายการด้านบน แสดงว่าคีย์ Winsock2 เสียหาย หรือถ้าหากมีโปรแกรมเพิ่มเติมอื่นๆ เช่นซอฟต์แวพรอกซี่ติดตั้งไว้ และหากได้ติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมจากผู้ผลิตอื่นๆ ชื่อของโปรแกรมเพิ่มเติมเหล่านั้ยจะแทนที่อักษร "MSAFD" ในรายการ ในกรณีที่มีมากกว่า 10 หัวข้อในลิสต์ แสดงว่ามีโปรแกรมอื่นๆ ติดตั้งไว้ แต่ถ้าหากมีน้อยกว่า 10 หัวข้อ หมายถึงการที่มีข้อมูลขาดหายไป
หมายเหตุ: รายการต่างๆ เหล่านี้แสดงการติดตั้งเฉพาะเมื่อมีการติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP เท่านั้น ดังนั้นสามารถมี Winsock ที่ใช้งานเพิ่มเติมได้หากมีการติดตั้งโปรโตคอลอื่นๆ ไว้ ตัวอย่างเช่น หากติดตั้ง NWLink IPX/SPX ไว้ จะเห็นส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ อีก 7 ส่วน ทำให้รวมเป็นทั้งหมด 17 ส่วน โดยส่วนหัวของส่วนหนึ่งในส่วนใหม่ คือ MSAFD nwlnkipx [IPX] และแต่ละส่วนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการติดตั้ง NWLink IPX/SPX จะเริ่มต้นด้วยชื่อ "MSAFD" โดยมีเพียง 2 หัวข้อเท่านั้นที่ไม่ได้เริ่มต้นชื่อด้วยอักขระต่างๆ เหล่านั้น
หากการทดสอบ Netdiag ล้มเหลว หรือหากผลการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายกับ Winsock โดยการดูที่ Msinfo32 จะต้องแก้ไขคีย์ Winsock2 โดยการใช้ขั้นตอนต่างๆ ในส่วนถัดไป
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสีย
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียนั้น แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ การแก้ไขจากการเสียหายของไฟล์ Winsock2 บน Windows XP Service Pack 2 และ การแก้ไขจากการเสียหายของไฟล์ Winsock2 บน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง SP2
• การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP Service Pack 2
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP Service Pack 2 (SP2) ไว้ ให้พิมพ์ netsh winsock reset ที่คอมมานด์พรอมท์แล้วกดปุ่ม ENTER
หมายเหตุ: หลังจากทำการรันคำสั่งแล้วให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows XP SP2 สามารถใช้ netsh ทำการสร้างคีย์ Winsock ใหม่ได้ โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้: http://www.microsoft.com/technet/prodtechnol/winxppro/maintain/sp2netwk.mspx
คำเตือน: การรันคำสั่ง netsh winsock reset นั้น อาจมีผลกระทบกับโปรแกรมต่างๆ เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์หรือไคลเอนต์พร็อกซี่ เป็นต้น
หากมีโปรแกรมที่ทำงานได้ไม่ถูกต้องหลังจากทำการแก้ปัญหาด้วยวิธีการด้านบน อาจจะต้องทำติดตั้งโปรแกรมนั้นๆ ใหม่เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
หมายเหตุ: หากขั้นตอนเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ในส่วนถัดไป
• การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง Service Pack 2
การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง Service Pack 2 ให้ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหายทิ้ง แล้วติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP ใหม่ ตามขั้นตอนดังนี้
• ขั้นที่ 1: ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหาย
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรี ได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ก่อนที่จะแก้ไข
1. คลิก Start และคลิก Run
2. ในช่อง Open ให้พิมพ์ regedit และคลิก OK
3. ในหน้าต่าง Registry Editor หาคีย์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ จากนั้นคลิกขวาที่แต่ละคีย์ แล้วคลิก Delete
HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Winsock
HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Winsock2
4. เมื่อระบบพรอมต์ให้ยืนยันการลบ ให้คลิก Yes
หมายเหตุ: หลังจากทำการลบคีย์ Winsock แล้ว ให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ระบบปฏิบัติการ Windows XP สร้างรายการเชลล์ใหม่สำหรับคีย์ทั้งสอง หากไม่ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์หลังจากลบคีย์ Winsock ขั้นตอนถัดไปจะทำงานไม่ถูกต้อง
• ขั้นที่ 2: ทำการติดตั้ง TCP/IP
1. คลิก Start คลิก Control Panel แล้วคลิก Network Connection
2. คลิกขวาที่ network connection แล้วคลิก Properties
3. คลิก Install
4. คลิก Protocol แล้วคลิก Add
5. คลิก Have Disk
6. พิมพ์ C:\Windows\inf แล้วคลิก OK
7. ในลิสต์ของโปรโตคอลต่างๆ ที่ใช้ได้ ให้คลิก Internet Protocol (TCP/IP)แล้วคลิก OK
8. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับ
• Microsoft Windows XP Home Edition
• Microsoft Windows XP Professional Edition
• Microsoft Windows Server 2003 Standard Edition
• Microsoft Windows Server 2003 Enterprise Edition
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• How to determine and to recover from Winsock2 corruption in Windows Server 2003, in Windows XP/Vista
Winsock2 corruption Winsock KB811259
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.
Winsock นั้นเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการใช้งานโปรโตคอล TCP/IP บนระบบวินโดวส์ ในกรณีที่ Winsock เกิดการคอรัปท์หรือเสียหายจะส่งผลให้ยูสเซอร์ไม่สามารถใช้งานระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ โดยวินโดวส์จะแสดงข้อความแจ้งความผิดพลาดเมื่อทำการใช้งานต่างๆ ตามกรณี ดังนี้
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรี ได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ก่อนที่จะแก้ไข
1. เมื่อทำการรันคำสั่ง Ipconfig /release หรือ Ipconfig /renew วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
An error occurred while renewing interface 'Internet': An operation was attempted on something that is not a socket.
2. เมื่อทำการรัน ipconfig /renew วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
ข้อผิดพลาดที่ 1
An error occurred while renewing interface local area connection: an operation was attempted on something that is not a socket. Unable to contact driver Error code 2.
ข้อผิดพลาดที่ 2
The operation failed since no adapter is in the state permissible for this operation.
ข้อผิดพลาดที่ 3
The attempted operation is not supported for the type of object referenced.
3. เมื่อเปิดโปรแกรม Internet Explorer วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
The page cannot be displayed
4. เมื่อใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
Initialization function INITHELPERDLL in IPMONTR.DLL failed to start with error code 10107
5. เมื่อทำการสร้าง dial-up connection วินโดวส์จะแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้:
Error 720: No PPP Control Protocols Configured
6.ใน Device Manager เมื่อคลิก Show Hidden Devices ไดรเวอร์ TCP/IP Protocol Driver มีสถานะเป็น Disabled ในส่วน Non-Plug and Play drivers และได้รับรหัสข้อผิดพลาด 24
การแก้ไขปัญหา Winsock
ก่อนอื่นต้องทำการตรวจสอบการทำงานของ Winsock ก่อนว่ามีปัญหาหรือไม่ โดยวิธีการตรวจสอบว่าคีย์ Winsock2 เสียหายหรือไม่ ทำได้โดยใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้
วิธีที่ 1: ใช้โปรแกรม Netdiag
การใช้ Netdiag ต้องยกเลิกการติดตั้ง Support Tools ของ Windows XP เสียก่อน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
หมายเหตุ:
• หากไม่ได้ติดตั้ง Support Tools ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 2 ในส่วนนี้
• หากไม่ได้ติดตั้ง Support Tools และไม่มีแผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP ให้ใช้วิธีที่ 2
ขั้นตอนที่ 1
1. ใส่แผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP แล้วไปยังโฟลเดอร์ Support\Tools
2. ดับเบิลคลิกไฟล์ Setup.exe
3. จากนั้นทำตามขั้นตอนต่างๆ บนหน้าจอจนกระทั่งถึงหน้า Select An Installation Type
4. ที่หน้าจอ Select An Installation Type ให้คลิก Complete แล้วคลิก Next
ขั้นตอนที่ 2
เมื่อทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้:
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ Command แล้วคลิก OK
2. พิมพ์ netdiag /test:winsock แล้วกด ENTER
โปรแกรม Netdiag จะแสดงผลการทดสอบสำหรับองค์ประกอบเน็ตเวิร์กหลายๆ อย่างรวมทั้ง Winsock หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบให้ใช้พารามิเตอร์ /v ต่อท้ายคำสั่ง netdiag: netdiag /test:winsock /v
วิธีที่ 2: ใช้โปรแกรม Msinfo32
วิธีการตรวจสอบว่าคีย์ Winsock2 เสียหายหรือไม่ โดยใช้โปรแกรม Msinfo32 นั้น จะใช้ได้เฉพาะเมื่อไม่มีแผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP และไม่ได้ติดตั้ง Support Tools บนระบบ ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ Msinfo32 แล้วคลิก OK
2. ในหน้า System Information ให้คลิกขยาย Components ขยาย Network แล้วคลิก Protocol
3. ภายใต้ Protocol จะมีหัวข้อของส่วนต่างๆ 10 หัวข้อ ซึ่งมีชื่อต่างๆ ต่อไปนี้หากคีย์ Winsock2 ไม่ได้รับความเสียหาย:
• MSAFD Tcpip [TCP/IP]
• MSAFD Tcpip [UDP/IP]
• RSVP UDP Service Provider
• RSVP TCP Service Provider
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
• MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
หากชื่อต่างๆ ที่แสดงแตกต่างไปรายการด้านบน แสดงว่าคีย์ Winsock2 เสียหาย หรือถ้าหากมีโปรแกรมเพิ่มเติมอื่นๆ เช่นซอฟต์แวพรอกซี่ติดตั้งไว้ และหากได้ติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมจากผู้ผลิตอื่นๆ ชื่อของโปรแกรมเพิ่มเติมเหล่านั้ยจะแทนที่อักษร "MSAFD" ในรายการ ในกรณีที่มีมากกว่า 10 หัวข้อในลิสต์ แสดงว่ามีโปรแกรมอื่นๆ ติดตั้งไว้ แต่ถ้าหากมีน้อยกว่า 10 หัวข้อ หมายถึงการที่มีข้อมูลขาดหายไป
หมายเหตุ: รายการต่างๆ เหล่านี้แสดงการติดตั้งเฉพาะเมื่อมีการติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP เท่านั้น ดังนั้นสามารถมี Winsock ที่ใช้งานเพิ่มเติมได้หากมีการติดตั้งโปรโตคอลอื่นๆ ไว้ ตัวอย่างเช่น หากติดตั้ง NWLink IPX/SPX ไว้ จะเห็นส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ อีก 7 ส่วน ทำให้รวมเป็นทั้งหมด 17 ส่วน โดยส่วนหัวของส่วนหนึ่งในส่วนใหม่ คือ MSAFD nwlnkipx [IPX] และแต่ละส่วนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการติดตั้ง NWLink IPX/SPX จะเริ่มต้นด้วยชื่อ "MSAFD" โดยมีเพียง 2 หัวข้อเท่านั้นที่ไม่ได้เริ่มต้นชื่อด้วยอักขระต่างๆ เหล่านั้น
หากการทดสอบ Netdiag ล้มเหลว หรือหากผลการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายกับ Winsock โดยการดูที่ Msinfo32 จะต้องแก้ไขคีย์ Winsock2 โดยการใช้ขั้นตอนต่างๆ ในส่วนถัดไป
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสีย
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียนั้น แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ การแก้ไขจากการเสียหายของไฟล์ Winsock2 บน Windows XP Service Pack 2 และ การแก้ไขจากการเสียหายของไฟล์ Winsock2 บน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง SP2
• การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP Service Pack 2
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP Service Pack 2 (SP2) ไว้ ให้พิมพ์ netsh winsock reset ที่คอมมานด์พรอมท์แล้วกดปุ่ม ENTER
หมายเหตุ: หลังจากทำการรันคำสั่งแล้วให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows XP SP2 สามารถใช้ netsh ทำการสร้างคีย์ Winsock ใหม่ได้ โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้: http://www.microsoft.com/technet/prodtechnol/winxppro/maintain/sp2netwk.mspx
คำเตือน: การรันคำสั่ง netsh winsock reset นั้น อาจมีผลกระทบกับโปรแกรมต่างๆ เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์หรือไคลเอนต์พร็อกซี่ เป็นต้น
หากมีโปรแกรมที่ทำงานได้ไม่ถูกต้องหลังจากทำการแก้ปัญหาด้วยวิธีการด้านบน อาจจะต้องทำติดตั้งโปรแกรมนั้นๆ ใหม่เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
หมายเหตุ: หากขั้นตอนเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ในส่วนถัดไป
• การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง Service Pack 2
การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟล์ Winsock2 เสียบน Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้ง Service Pack 2 ให้ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหายทิ้ง แล้วติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP ใหม่ ตามขั้นตอนดังนี้
• ขั้นที่ 1: ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหาย
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรี ได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ก่อนที่จะแก้ไข
1. คลิก Start และคลิก Run
2. ในช่อง Open ให้พิมพ์ regedit และคลิก OK
3. ในหน้าต่าง Registry Editor หาคีย์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ จากนั้นคลิกขวาที่แต่ละคีย์ แล้วคลิก Delete
HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Winsock
HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Winsock2
4. เมื่อระบบพรอมต์ให้ยืนยันการลบ ให้คลิก Yes
หมายเหตุ: หลังจากทำการลบคีย์ Winsock แล้ว ให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ระบบปฏิบัติการ Windows XP สร้างรายการเชลล์ใหม่สำหรับคีย์ทั้งสอง หากไม่ทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์หลังจากลบคีย์ Winsock ขั้นตอนถัดไปจะทำงานไม่ถูกต้อง
• ขั้นที่ 2: ทำการติดตั้ง TCP/IP
1. คลิก Start คลิก Control Panel แล้วคลิก Network Connection
2. คลิกขวาที่ network connection แล้วคลิก Properties
3. คลิก Install
4. คลิก Protocol แล้วคลิก Add
5. คลิก Have Disk
6. พิมพ์ C:\Windows\inf แล้วคลิก OK
7. ในลิสต์ของโปรโตคอลต่างๆ ที่ใช้ได้ ให้คลิก Internet Protocol (TCP/IP)แล้วคลิก OK
8. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับ
• Microsoft Windows XP Home Edition
• Microsoft Windows XP Professional Edition
• Microsoft Windows Server 2003 Standard Edition
• Microsoft Windows Server 2003 Enterprise Edition
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• How to determine and to recover from Winsock2 corruption in Windows Server 2003, in Windows XP/Vista
Winsock2 corruption Winsock KB811259
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
Microsoft File Server Migration Toolkit เป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ดูแลระบบในการไมเกรตไฟล์เซิร์ฟเวอร์หรือการคอนโซลิเดตไฟล์เซิร์ฟเวอร์เก่าไปยังไฟล์เซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยที่พาธของการแชร์ หรือ Universal Naming Convention (UNC) ยังเหมือนเดิม เพื่อที่ยูสเซอร์สามารถแอคเซสแชร์โฟลเดอร์โดยใช้ Universal Naming Convention (UNC) ของการแชร์ตัวเดิมหลังจากทำการไมเกรตหรือการคอนโซลิเดตเสร็จแล้ว
Microsoft File Server Migration Toolkit จะใช้เซอร์วิส Distributed File System (DFS) ในการทำงาน โดยสามารถทำการดาวน์โหลด Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
ชื่อไฟล์:
- FSMigrate_x64.msi สำหรับระบบ 64 บิต
- FSMigrate_x64.msi สำหรับระบบ 64 บิต
เวอร์ชัน: 1.1
วันที่ออก: 10/27/2008
ขนาดของไฟล์: 1.3MB (x86)/1.3MB (x64)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 9 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: English, Freach, German, Japanese และ Spanish
การดาวน์โหลด:
• เว็บไซตสำหรับดาวน์โหลด Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
• คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด Microsoft FSMT 1.1 x64
• คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด Microsoft FSMT 1.1 x86
ความต้องการระบบ
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 รองรับระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003 R2 (32-Bit x86) Windows Server 2003 Service Pack 2, Windows Server 2008
ความต้องการด้าน DFS Consolidation Root Wizard และ Dfsconsolidate.exe
• บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น DFS Consolidation Root จะต้องคอนฟิก Windows Firewall ให้อนุญาต WMI calls ซึ่ง DFS Consolidation Root Wizard จะต้องใช้ WMI ในการในการตรวจสอบว่ามีการทำงานเป็นแบบคลัสเตอร์หรือไม่ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ connecting to WMI remotely starting with Windows Vista สามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkID=120250
• เซิร์ฟเวอร์ที่เป็น Distributed File System (DFS) root ซึ่งเป็นโฮสต์ของ DFS consolidation roots จะต้องมีระบบดังนี้
# DFS root server จะต้องไม่เป็น domain controller.
# DFS root server จะต้องรันระบบปฏิบัติการดังต่อไปนี้
# - Windows Server 2003, Enterprise Edition with Service Pack 2
# - Windows Server 2003, Datacenter Edition with Service Pack 2
# - Windows Storage Server 2003, Enterprise Edition
# - Windows Server 2008, Enterprise Edition
# - Windows Server 2008, Datacenter Edition
# - Windows Storage Server 2008, Enterprise Edition
• ในกรณี DFS root server เป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ ก่อนที่จะทำการรัน DFS Consolidation Root Wizard จะต้องสร้างหรือกำหนดกลุ่มทรัพยากรที่จะใช้ในการสร้าง consolidation root โดยที่กลุ่มทรัพยากรจะต้องประกอบด้วยหมายเลขไอพีและดิสก์ทางกายภาพ
เครื่องไคลเอ็นต์ที่จะแอคเซส DFS Namespaces ซึ่งเซตอัพโดย DFS Consolidation Root Wizard and Dfsconsolidate.exe จะต้องรันระบบปฏิบัติการดังต่อไปนี้
- Windows Server 2003 family
- Windows XP Professional
- Windows 2000 Server family
- Windows 2000 Professional
- Windows NT Server 4.0 with Service Pack 6a (SP6a)
- Windows NT Workstation 4.0 with SP6a
- Windows NT Vista
- Windows Server 2008 family
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 Download
Keywords: Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 FSMT1.1
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft File Server Migration Toolkit เป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ดูแลระบบในการไมเกรตไฟล์เซิร์ฟเวอร์หรือการคอนโซลิเดตไฟล์เซิร์ฟเวอร์เก่าไปยังไฟล์เซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยที่พาธของการแชร์ หรือ Universal Naming Convention (UNC) ยังเหมือนเดิม เพื่อที่ยูสเซอร์สามารถแอคเซสแชร์โฟลเดอร์โดยใช้ Universal Naming Convention (UNC) ของการแชร์ตัวเดิมหลังจากทำการไมเกรตหรือการคอนโซลิเดตเสร็จแล้ว
Microsoft File Server Migration Toolkit จะใช้เซอร์วิส Distributed File System (DFS) ในการทำงาน โดยสามารถทำการดาวน์โหลด Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
ชื่อไฟล์:
- FSMigrate_x64.msi สำหรับระบบ 64 บิต
- FSMigrate_x64.msi สำหรับระบบ 64 บิต
เวอร์ชัน: 1.1
วันที่ออก: 10/27/2008
ขนาดของไฟล์: 1.3MB (x86)/1.3MB (x64)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 9 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: English, Freach, German, Japanese และ Spanish
การดาวน์โหลด:
• เว็บไซตสำหรับดาวน์โหลด Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1
• คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด Microsoft FSMT 1.1 x64
• คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด Microsoft FSMT 1.1 x86
ความต้องการระบบ
Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 รองรับระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003 R2 (32-Bit x86) Windows Server 2003 Service Pack 2, Windows Server 2008
ความต้องการด้าน DFS Consolidation Root Wizard และ Dfsconsolidate.exe
• บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น DFS Consolidation Root จะต้องคอนฟิก Windows Firewall ให้อนุญาต WMI calls ซึ่ง DFS Consolidation Root Wizard จะต้องใช้ WMI ในการในการตรวจสอบว่ามีการทำงานเป็นแบบคลัสเตอร์หรือไม่ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ connecting to WMI remotely starting with Windows Vista สามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkID=120250
• เซิร์ฟเวอร์ที่เป็น Distributed File System (DFS) root ซึ่งเป็นโฮสต์ของ DFS consolidation roots จะต้องมีระบบดังนี้
# DFS root server จะต้องไม่เป็น domain controller.
# DFS root server จะต้องรันระบบปฏิบัติการดังต่อไปนี้
# - Windows Server 2003, Enterprise Edition with Service Pack 2
# - Windows Server 2003, Datacenter Edition with Service Pack 2
# - Windows Storage Server 2003, Enterprise Edition
# - Windows Server 2008, Enterprise Edition
# - Windows Server 2008, Datacenter Edition
# - Windows Storage Server 2008, Enterprise Edition
• ในกรณี DFS root server เป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ ก่อนที่จะทำการรัน DFS Consolidation Root Wizard จะต้องสร้างหรือกำหนดกลุ่มทรัพยากรที่จะใช้ในการสร้าง consolidation root โดยที่กลุ่มทรัพยากรจะต้องประกอบด้วยหมายเลขไอพีและดิสก์ทางกายภาพ
เครื่องไคลเอ็นต์ที่จะแอคเซส DFS Namespaces ซึ่งเซตอัพโดย DFS Consolidation Root Wizard and Dfsconsolidate.exe จะต้องรันระบบปฏิบัติการดังต่อไปนี้
- Windows Server 2003 family
- Windows XP Professional
- Windows 2000 Server family
- Windows 2000 Professional
- Windows NT Server 4.0 with Service Pack 6a (SP6a)
- Windows NT Workstation 4.0 with SP6a
- Windows NT Vista
- Windows Server 2008 family
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 Download
Keywords: Microsoft File Server Migration Toolkit 1.1 FSMT1.1
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไมโครซอฟท์เตือนให้ระวังการโจมตีวินโดวส์ผ่านทางช่องโหว่ Server Service
ไมโครซอฟท์เตือนให้ระวังการโจมตีวินโดวส์ผ่านทางช่องโหว่ Server Service
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออก Microsoft Security Advisory หมายเลข 958963 (Microsoft Security Advisory 958963 Exploit Code Published Affecting the Server Service) เพื่อเตือนผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 2000 Server, Windows XP และ Windows Server 2003 ให้ระวังการโจมตีวินโดวส์จากแฮกเกอร์
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวทำการอัพเดท อัพเดทหมายเลข MS08-067 ผ่านทางเว็บไซต์ http://windowsupdate.microsoft.com) เพื่อป้องกันการถูกโจมตีผ่านทางช่องโหว่ Server Service
ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ Server Service
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Advisory 958963 Exploit Code Published Affecting the Server Service
KB958963 Server Service
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออก Microsoft Security Advisory หมายเลข 958963 (Microsoft Security Advisory 958963 Exploit Code Published Affecting the Server Service) เพื่อเตือนผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 2000 Server, Windows XP และ Windows Server 2003 ให้ระวังการโจมตีวินโดวส์จากแฮกเกอร์
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวทำการอัพเดท อัพเดทหมายเลข MS08-067 ผ่านทางเว็บไซต์ http://windowsupdate.microsoft.com) เพื่อป้องกันการถูกโจมตีผ่านทางช่องโหว่ Server Service
ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ Server Service
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Advisory 958963 Exploit Code Published Affecting the Server Service
KB958963 Server Service
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Monday, October 27, 2008
การใช้งาน Windows Memory Diagnostics Tool
การใช้งาน Windows Memory Diagnostics Tool
โดยปกติเมื่อ Windows Vista จะทำการตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับระบบหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่พบปัญหาก็จะแจ้งในยูสเซอร์ทราบและให้เลือกว่าจะทำการรัน Windows Memory Diagnostics Tool หรือไม่ ซึ่งมี 2 อ็อปชันให้เลือก คือ ทำการรีสตาร์ทเครื่องและทำการตรวรสอบปัญหาทันที หรือว่าจะทำการตรวรสอบปัญหาในการสตาร์ทเครื่องครั้งต่อไป และหลังจากโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ทำงานเสร็จ ก็จะแสดงข้อความแจ้งว่าพบปัญหาอะไรหรือไม่ ในกรณีที่พบปัญหาก็ให้ทำการติดต่อกับบริษัทผู้จำหน่ายเพื่อเคลมหรือดำเนินการอื่นๆ ตามเงื่อนไขการรับประกันต่อไป
การรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบแมนนวล
นอกจากนี้ ยูสเซอร์ยังสามารถทำการรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบแมนนวล ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start พิมพ์ memory แล้วคลิก Memory Diagnostics Tool จากรายการใน Programs
2. ในหน้า User Account Control ให้คลิก Continue หรือใส่พาสเวิร์ดของ Administrator
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Windows Memory Diagnostics Tool ดังรูปที่ 1 ให้คลิกเลือกข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- Restart now and check for problems (recommended) = ทำการรีสตาร์ทเครื่องและทำการตรวรสอบปัญหาทันที
- Check for problems the next time I Start my computer= ทำการตรวรสอบปัญหาในการสตาร์ทเครื่องครั้งต่อไป
4. หลังจากโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ทำงานเสร็จ ก็จะแสดงข้อความแจ้งว่าพบปัญหาอะไรหรือไม่ ในกรณีที่พบปัญหาให้ทำการติดต่อกับบริษัทผู้จำหน่ายเพื่อเคลมหรือดำเนินการอื่นๆ ตามเงื่อนไขการรับประกันต่อไป
การรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ขั้นสูง
นอกจากการรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบอั๖โนมัติแล้วยังสามารถทำการรันในแบบขั้นสูงได้ โดยดำเนินการดังนี้
1. ในขณะกำลังเริ่มรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ให้กด F1
2. จากนั้นเลือกการตั้งค่าได้ ดังนี้
- Test mix = เลือกประเภทของการทดสอบที่ต้องการรัน
- Cache = เลือการตั้งค่าแคชสำหรับการทดสอบแต่ละแบบ
- Pass count = จำนวนครั้งที่ต้องการทำการทดสอบ
Keywords: Windows Memory Diagnostics Tool
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
โดยปกติเมื่อ Windows Vista จะทำการตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับระบบหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่พบปัญหาก็จะแจ้งในยูสเซอร์ทราบและให้เลือกว่าจะทำการรัน Windows Memory Diagnostics Tool หรือไม่ ซึ่งมี 2 อ็อปชันให้เลือก คือ ทำการรีสตาร์ทเครื่องและทำการตรวรสอบปัญหาทันที หรือว่าจะทำการตรวรสอบปัญหาในการสตาร์ทเครื่องครั้งต่อไป และหลังจากโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ทำงานเสร็จ ก็จะแสดงข้อความแจ้งว่าพบปัญหาอะไรหรือไม่ ในกรณีที่พบปัญหาก็ให้ทำการติดต่อกับบริษัทผู้จำหน่ายเพื่อเคลมหรือดำเนินการอื่นๆ ตามเงื่อนไขการรับประกันต่อไป
การรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบแมนนวล
นอกจากนี้ ยูสเซอร์ยังสามารถทำการรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบแมนนวล ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start พิมพ์ memory แล้วคลิก Memory Diagnostics Tool จากรายการใน Programs
2. ในหน้า User Account Control ให้คลิก Continue หรือใส่พาสเวิร์ดของ Administrator
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Windows Memory Diagnostics Tool ดังรูปที่ 1 ให้คลิกเลือกข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- Restart now and check for problems (recommended) = ทำการรีสตาร์ทเครื่องและทำการตรวรสอบปัญหาทันที
- Check for problems the next time I Start my computer= ทำการตรวรสอบปัญหาในการสตาร์ทเครื่องครั้งต่อไป
4. หลังจากโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ทำงานเสร็จ ก็จะแสดงข้อความแจ้งว่าพบปัญหาอะไรหรือไม่ ในกรณีที่พบปัญหาให้ทำการติดต่อกับบริษัทผู้จำหน่ายเพื่อเคลมหรือดำเนินการอื่นๆ ตามเงื่อนไขการรับประกันต่อไป
การรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ขั้นสูง
นอกจากการรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool แบบอั๖โนมัติแล้วยังสามารถทำการรันในแบบขั้นสูงได้ โดยดำเนินการดังนี้
1. ในขณะกำลังเริ่มรันโปรแกรม Windows Memory Diagnostics Tool ให้กด F1
2. จากนั้นเลือกการตั้งค่าได้ ดังนี้
- Test mix = เลือกประเภทของการทดสอบที่ต้องการรัน
- Cache = เลือการตั้งค่าแคชสำหรับการทดสอบแต่ละแบบ
- Pass count = จำนวนครั้งที่ต้องการทำการทดสอบ
Keywords: Windows Memory Diagnostics Tool
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Friday, October 24, 2008
การสร้าง Snapshot เก็บสถานะของเวอร์ชวลแมชชีนบน VMware Server 2.0
ข้อดีข้อหนึ่งในการใช้งานเวอร์ชวลแมชชีน (Virtual Machine) บน VMware คือ สามารถทำการเก็บสถานะของเวอร์ชวลแมชชีน หรือการทำสแนปช็อตไว้สำหรับการเรียกคืนในภายหลัง ซึ่งช่วยให้การใช้เวอร์ชวลแมชชีนในงานการทดสอบระบบ หรือทดสอบโปรแกรมต่างๆ สามารถทำได้สะดวกกว่าการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์จริง
Thursday, October 23, 2008
Microsoft Security Update for October 2008 (Out-of-Band)
ไมโครซอฟต์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
ไมโครซอฟท์ได้ออก "อัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคมเป็นกรณีพิเศษ (Out-of-Band Microsoft Security Update for October 2008)" ซึ่งเป็นอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) จำนวน 1 ตัว คืออัพเดทหมายเลข MS08-067 โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
Microsoft Security Bulletin 12: Windows Bulletin
MS08-067: Vulnerability in Server Service Could Allow Remote Code Execution (958644)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-067.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 14 โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008
• Microsoft Technet Security
• Microsoft Security Center
Out-of-Band Security Update MS08-067 KB958644
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไมโครซอฟท์ได้ออก "อัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคมเป็นกรณีพิเศษ (Out-of-Band Microsoft Security Update for October 2008)" ซึ่งเป็นอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) จำนวน 1 ตัว คืออัพเดทหมายเลข MS08-067 โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
Microsoft Security Bulletin 12: Windows Bulletin
MS08-067: Vulnerability in Server Service Could Allow Remote Code Execution (958644)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-067.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 14 โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008
• Microsoft Technet Security
• Microsoft Security Center
Out-of-Band Security Update MS08-067 KB958644
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การอัพเดทความปลอดภัยเดือนตุลาคมเป็นกรณีพิเศษ
ไมโครซอฟต์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกประกาศเรื่อง "การอัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคมเป็นกรณีพิเศษ (Out-of-Band Microsoft Security Update for October 2008)" ซึ่งทางไมโครซอฟท์วางแผนจะออกอัพเดทความปลอดภัยจำนวน 1 ตัว โดยอัพเดทเกี่ยวกับ Windows และมีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
Microsoft Security Bulletin 12: Windows Bulletin
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทกรณีพิเศษของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 24 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: Out-of-Band Security Update MS08-067
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกประกาศเรื่อง "การอัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคมเป็นกรณีพิเศษ (Out-of-Band Microsoft Security Update for October 2008)" ซึ่งทางไมโครซอฟท์วางแผนจะออกอัพเดทความปลอดภัยจำนวน 1 ตัว โดยอัพเดทเกี่ยวกับ Windows และมีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
Microsoft Security Bulletin 12: Windows Bulletin
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และWindows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ได้รับผลกระทบ)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทกรณีพิเศษของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 24 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: Out-of-Band Security Update MS08-067
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Sunday, October 19, 2008
Download TeamViewer 3.6.4941
ดาวน์โหลดโปรแกรม TeamViewer v3.6.4941
ผมเคยโพสต์บทความเกี่ยวกับโปรแกรม TeamViewer ไปแล้วครั้งนึง ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเวอร์ชัน 3.5.4437 แต่ล่าสุดได้ออกเวอร์ชัน 3.6.4941 โดยในเวอร์ชันใหม่นี้ได้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำงานของโปรแกรมที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เวอร์ชันที่ 3.6.xxxx เป็นต้นมาได้รับการปรับปรุงด้านระบบความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนไปใช้มาตรฐานการเข้ารหัสแบบ AES (256 Bit) ซึ่งเป็นการเข้ารหัสในระดับเดี่ยวกันกับ https/SSL แทนการเข้ารหัสแบบ RC4 ในเวอร์ชันก่อนหน้า
รายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรม TeamViewer
เวอร์ชัน: 3.6.4941
ขนาดไฟล์: 1.60 MB
ภาษา: German, English, French, Italian, Spanish, Portugues, Dutch และ Dansk
ประเภทไลเซนส์: personal /non-commercial use และ commercial
ผู้พัฒนา: TeamViewer (เว็บไซต์ http://www.teamviewer.com/)
ดาวน์โหลดลิงค์: http://www.teamviewer.com/download/index.aspx
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ TeamViewer
TeamViewer มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
• Remote Support สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกลจากที่ใดก็ได้ผ่านทางแลนหรืออินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องทั้งด้านเครื่องต้นทางและเครื่อง ปลายทาง และในขณะที่ทำการเชื่อมต่ออยู่ยูสเซอร์ที่ทำงานหน้าเครื่องยังสามารถใช้งาน ได้ตามปกติ
• Remote presentation สามารถนำเสนองานต่างๆ จากเครื่องต้นทางไปยังเครื่องปลายทางได้
• Works behind firewalls สามารถใช้งานข้ามเครือข่ายหรือผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่ต้องทำการคอนฟิก ไฟร์วอลล์ใหม่ เนื่องจากโปรแกรม TeamViewer จะทำการค้นหาเครื่องปลายทางและปรับพอร์ตการทำงานโดยอัตโนมัติ
• File transfer สามารถทำการรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่องปลายทางกับเครื่องต้นทาง ถึงแม้ว่าจะมีไฟร์วอลล์กั้นอยู่ก็ตาม โดยที่ไม่ต้องทำการคอนฟิกไฟร์วอลล์ใหม่
• Highest security standard โปรแกรม TeamViewer ทุกเวอร์ชันจะใช้มาตรฐานการเข้ารหัสแบบ AES (256 Bit) ซึ่งเป็นการเข้ารหัสในระดับเดี่ยวกันกับ https/SSL ซึ่งเป็นที่นิยมใช้งานกันแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต
• Flexible use for a variety of applications สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การซัพพอร์ตยูสเซอร์แบบออนไลน์ การนำเสนอผลงาน การรับ-ส่งไฟล์ เป็นต้น
• No installation required โปรแกรม TeamViewer สามารถใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องทั้งด้านเครื่องต้นทาง และเครื่องปลายทาง ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้สะดวก
• High performance with international router network โปรแกรม TeamViewer จะทำการการปรับแต่งแบนวิดท์ให้เหมาะสมกับเชื่อมต่อผ่านแลนและอินเทอร์เน็ต โดยอัตมัติ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบรีโมทด้วย TeamViewer
TeamViewer Remote Control Remote Desktop Software
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ผมเคยโพสต์บทความเกี่ยวกับโปรแกรม TeamViewer ไปแล้วครั้งนึง ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเวอร์ชัน 3.5.4437 แต่ล่าสุดได้ออกเวอร์ชัน 3.6.4941 โดยในเวอร์ชันใหม่นี้ได้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำงานของโปรแกรมที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เวอร์ชันที่ 3.6.xxxx เป็นต้นมาได้รับการปรับปรุงด้านระบบความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนไปใช้มาตรฐานการเข้ารหัสแบบ AES (256 Bit) ซึ่งเป็นการเข้ารหัสในระดับเดี่ยวกันกับ https/SSL แทนการเข้ารหัสแบบ RC4 ในเวอร์ชันก่อนหน้า
รายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรม TeamViewer
เวอร์ชัน: 3.6.4941
ขนาดไฟล์: 1.60 MB
ภาษา: German, English, French, Italian, Spanish, Portugues, Dutch และ Dansk
ประเภทไลเซนส์: personal /non-commercial use และ commercial
ผู้พัฒนา: TeamViewer (เว็บไซต์ http://www.teamviewer.com/)
ดาวน์โหลดลิงค์: http://www.teamviewer.com/download/index.aspx
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ TeamViewer
TeamViewer มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
• Remote Support สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกลจากที่ใดก็ได้ผ่านทางแลนหรืออินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องทั้งด้านเครื่องต้นทางและเครื่อง ปลายทาง และในขณะที่ทำการเชื่อมต่ออยู่ยูสเซอร์ที่ทำงานหน้าเครื่องยังสามารถใช้งาน ได้ตามปกติ
• Remote presentation สามารถนำเสนองานต่างๆ จากเครื่องต้นทางไปยังเครื่องปลายทางได้
• Works behind firewalls สามารถใช้งานข้ามเครือข่ายหรือผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่ต้องทำการคอนฟิก ไฟร์วอลล์ใหม่ เนื่องจากโปรแกรม TeamViewer จะทำการค้นหาเครื่องปลายทางและปรับพอร์ตการทำงานโดยอัตโนมัติ
• File transfer สามารถทำการรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่องปลายทางกับเครื่องต้นทาง ถึงแม้ว่าจะมีไฟร์วอลล์กั้นอยู่ก็ตาม โดยที่ไม่ต้องทำการคอนฟิกไฟร์วอลล์ใหม่
• Highest security standard โปรแกรม TeamViewer ทุกเวอร์ชันจะใช้มาตรฐานการเข้ารหัสแบบ AES (256 Bit) ซึ่งเป็นการเข้ารหัสในระดับเดี่ยวกันกับ https/SSL ซึ่งเป็นที่นิยมใช้งานกันแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต
• Flexible use for a variety of applications สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การซัพพอร์ตยูสเซอร์แบบออนไลน์ การนำเสนอผลงาน การรับ-ส่งไฟล์ เป็นต้น
• No installation required โปรแกรม TeamViewer สามารถใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องทั้งด้านเครื่องต้นทาง และเครื่องปลายทาง ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้สะดวก
• High performance with international router network โปรแกรม TeamViewer จะทำการการปรับแต่งแบนวิดท์ให้เหมาะสมกับเชื่อมต่อผ่านแลนและอินเทอร์เน็ต โดยอัตมัติ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบรีโมทด้วย TeamViewer
TeamViewer Remote Control Remote Desktop Software
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Saturday, October 18, 2008
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบรีโมทด้วย UltraVNC
โปรแกรม UltraVNC นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์จากระยะไกล นอกจากการใช้งาน Remote Desktop ที่มาพร้อมกับระบบวินโดวส์ โดย UltraVNC เป็นฟรีแวร์ภายใต้ไลเซนส์แบบ GNU
การย้ายตำแหน่ง Taskbar บน Windows XP
โดยดีฟอลท์นั้น Taskbar ของ Windows XP จะแสดงอยูด้านล่างของหน้าเดสก์ท็อป ซึ่งยูสเซอร์สามารถทำการปรับตำแหน่งไปอยู่ด้านซ้าย ด้านขวา หรือ ด้านบน ก็ได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอภาพแบบ Wide Screen การปรับตำแหน่ง Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา จะทำให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้นและสามารถทำงานได้สะดวกขึ้น โดยการปรับตำแหน่ง Taskbar มีขั้นตอนดังนี้
การย้ายตำแหน่ง Taskbar บน Windows XP
1. คลิกขวาที่ Taskbar ถ้าหากมีเครื่องหมายถูกหน้า Lock the Taskbar ให้ลบออกโดยการคลิกที่ Lock the Taskbar หนึ่งครั้ง
2. ลาก Taskbar โดยคลิกเม้าส์ปุ่มซ้ายค้างเหนือ Taskbar แล้วลากไปด้านซ้าย ด้านขวา หรือ ด้านบน ของหน้าเดสก์ท็อป เมื่อได้ตำแหน่งใหม่ที่ต้องการแล้วให้ปล่อยปุ่มเม้าส์
3. จากนั้นให้เลื่อยพอยน์เตอร์ไปเหนือขอบของ Taskbar จนกระทั่งพอยน์เตอร์เปลี่ยนเป็น <-> ให้คลิกเม้าส์ปุ่มซ้ายแล้วทำการลากขอบของ Taskbar เพื่อปรับขนาดของ Taskbar ตามความต้องการ เสร็จแล้วปล่อยปุ่มเม้าส์ (ขนาดของ Taskbar คือความกว้างในกรณีที่อยู่ด้านซ้ายหรือขวาของหน้าเดสก์ท็อป และคือความสูงในกรณีที่อยู่ด้านบนของหน้าเดสก์ท็อป)
4. จากนั้นคลิกขวาที่ Taskbar แล้วคลิก Lock the Taskbar จนมีเครื่องหมายถูกด้านหน้า ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งของ Taskbar โดยไม่ตั้งใจ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Move your taskbar to a new spot
Custome Taskbar Move Taskbar
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การย้ายตำแหน่ง Taskbar บน Windows XP
1. คลิกขวาที่ Taskbar ถ้าหากมีเครื่องหมายถูกหน้า Lock the Taskbar ให้ลบออกโดยการคลิกที่ Lock the Taskbar หนึ่งครั้ง
2. ลาก Taskbar โดยคลิกเม้าส์ปุ่มซ้ายค้างเหนือ Taskbar แล้วลากไปด้านซ้าย ด้านขวา หรือ ด้านบน ของหน้าเดสก์ท็อป เมื่อได้ตำแหน่งใหม่ที่ต้องการแล้วให้ปล่อยปุ่มเม้าส์
3. จากนั้นให้เลื่อยพอยน์เตอร์ไปเหนือขอบของ Taskbar จนกระทั่งพอยน์เตอร์เปลี่ยนเป็น <-> ให้คลิกเม้าส์ปุ่มซ้ายแล้วทำการลากขอบของ Taskbar เพื่อปรับขนาดของ Taskbar ตามความต้องการ เสร็จแล้วปล่อยปุ่มเม้าส์ (ขนาดของ Taskbar คือความกว้างในกรณีที่อยู่ด้านซ้ายหรือขวาของหน้าเดสก์ท็อป และคือความสูงในกรณีที่อยู่ด้านบนของหน้าเดสก์ท็อป)
4. จากนั้นคลิกขวาที่ Taskbar แล้วคลิก Lock the Taskbar จนมีเครื่องหมายถูกด้านหน้า ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งของ Taskbar โดยไม่ตั้งใจ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Move your taskbar to a new spot
Custome Taskbar Move Taskbar
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Friday, October 17, 2008
Sysinternals Suite Build 20081016
Sysinternals Suite Build 20081016
ชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น เป็นการรวบรวมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ที่พัฒนาโดย Sysinternals เข้าเป็นชุดโปรแกรมเพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้งานในการดาวน์โหลด โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง Sysinternals ก็ได้ออกอัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081016 ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มีโปรแกรมเครื่องมือใหม่จำนวน 2 ตัว คือ Process Monitor v2.01 และ AutoRuns for Windows v9.35
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite มาทดลองใช้งานได้จากเว็บไซต์ (ไฟล์มีขนาดประมาณ 8 MB) ดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
เครื่องมือที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่ใน Sysinternals Suite Build 20081016
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081016 นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือใหม่ จำนวน 2 ตัว คือ
• Process Monitor v2.01 New!
By Mark Russinovich and Bryce Cogswell
โปรแกรม Process Monitor นั้น เป็นเครื่องมือสำหรับใช้มอนิเตอร์การทำงานของระบบแบบเรียลไทม์ สามารถใช้เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบวินโดวส์ และยังใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านมัลแวร์ได้อีกด้วย โดย Process Monitor นั้น สามารถทำงานได้บน Windows 2000 SP4 ที่ติดตั้ง Update Rollup 1, Windows XP SP2, Windows Server 2003 SP1 และ Windows Vista โดยสามารถทำงานได้ทั้งแพลตฟอร์ม 32 บิต และ 64 บิต สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดโปรแกรม Process Monitor v2.01 มาทดลองใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมชุด Sysinternals Suite หรือดาวน์โหลดแบบเดี่ยวๆ ได้จาก Sysinternals Process Monitor v2.01 สำหรับวิธีการใช้งานนั้น สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน Sysinternals Process Monitor v1.2
AutoRuns for Windows 9.35 New!
By Mark Russinovich and Bryce Cogswell
โปรแกรม AutoRuns for Windows เป็นโปรแกรมในลักษณะเดียวกับ MSConfig ของ Windows ME/XP คือ ใช้ในการตรวจสอบ มอนิเตอร์ และแก้ไขการสตาร์ทแอพพลิเคชัน ที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดวินโดวส์ แต่จะมีความสามารถสูงกว่า MSConfig มาก โดย AutoRuns for Windows นั้น จะแสดงรายละเอียดโปรแกรมต่างๆ ที่ทำงานระหว่างการบูตเครื่อง จากการคอนฟิกใน startup folder, Run, RunOnce, และ Registry keys อื่นๆ โดย AutoRuns for Windows นั้น สามารถทำงานได้บน Windows ทุกเวอร์ชัน ทั้งแพลตฟอร์ม 32 บิต และ 64 บิต
นอกจากนี้ยังสามารถคอนฟิกให้ AutoRuns for Windows ทำการแสดงโพรเซสที่รันจากที่อื่นๆ นอกจากที่กล่าวมาด้านบน เช่น Explorer shell extensions, toolbars, browser helper objects, Winlogon notifications, auto-start services, และอื่นๆ หรือเลือกที่จะไม่แสดงโปรแกรมในส่วนที่เป็นของไมโครซอฟท์ โดยการเลือก Options แล้วเลือก Hide Microsoft Entries ทำให้สามารถโฟกัสไปยังโปรแกรมที่เป็น third-party ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ และ auto-starting ที่ถูกคอนฟิกจากแอคเคาท์อื่นๆ โดย AutoRuns for Windows นั้นจะมีทั้งเวอร์ชันแบบกราฟิก (Windows GUI) และเวอร์ชันแบบคอมมานด์ไลน์ (Command-line) โดยในเวอร์ชันคอมมานด์ไลน์ นั้นสามารถทำการส่งออกเอ้าท์พุทเป็นไฟล์แบบ CSV เพื่อนำไปใช้ในงานอื่นๆ ต่อได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดโปรแกรม AutoRuns for Windows v9.35 มาทดลองใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมชุด Sysinternals Suite หรือดาวน์โหลดแบบเดี่ยวๆ ได้จาก AutoRuns for Windows v9.35 สำหรับวิธีการใช้งานสามารถอ่านรายละเอียดได้จาก การใช้งาน AutoRuns for Windows v8.90
รายชื่อเครื่องมือในชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ดังนี้
1. AccessChk v4.02 (9/4/2007)
2. AccessEnum v1.32 (11/1/2006)
3. AdExplorer v1.01 (11/5/2007)
4. AdRestore v1.1 (11/1/2006)
5. Autologon v2.10 (11/1/2006)
6. Autoruns v9.35 (10/16/2008) New!
7. BgInfo v4.12 (11/5/2007)
8. CacheSet v1.0 (11/1/2006)
9. ClockRes v1.0 (11/1/2006)
10. Contig v1.54 (3/21/2007)
11. Coreinfo v1.0 (11/9/2008)
12. Ctrl2Cap v2.0 (11/1/2006)
13. DebugView v4.74 (11/27/2007)
14. Desktops 1.0 (08/21/2008)
15. DiskExt 1.1 (5/14/2007)
16. Diskmon v2.01 (11/1/2006)
17. DiskView v2.21 (11/1/2006)
18. DU v1.31 (11/1/2006)
19. EFSDump v1.02 (11/1/2006)
20. Filemon v7.04 (11/1/2006)
21. Handle v3.30 (10/15/2007)
22. Hex2dec v1.0 (11/1/2006)
23. Junction v1.05 (7/24/2007)
24. LdmDump v1.02 (11/1/2006)
25. ListDlls v2.25 (11/1/2006)
26. LiveKd v3.0 (11/1/2006)
27. LoadOrder v1.0 (11/1/2006)
28. LogonSessions v1.1 (11/1/2006)
29. NewSid v4.10 (11/1/2006)
30. NtfsInfo v1.0 (11/1/2006)
31. PageDefrag v2.32 (11/1/2006)
32. PendMoves v1.1 (11/1/2006)
33. Portmon v3.02 (11/1/2006)
34. ProcessExplorer v11.10 (26/2/2008)
35. ProcessMonitor v2.01 (10/16/2008) New!
36. ProcFeatures v1.10 (11/1/2006)
37. PsExec v1.92 (11/27/2007)
38. PsFile v1.02 (12/4/2006)
39. PsGetSid v1.43 (12/4/2006)
40. PsInfo v1.75 (7/9/2007)
41. PsKill v1.12 (12/4/2006)
42. PsList v1.28 (12/4/2006)
43. PsLoggedOn v1.33 (12/4/2006)
44. PsLogList v2.64 (12/4/2006)
45. PsPasswd v1.22 (12/4/2006)
46. PsService v2.21 (12/4/2006)
47. PsShutdown v2.52 (12/4/2006)
48. PsSuspend v1.06 (12/4/2006)
49. RegDelNull v1.10 (11/1/2006)
50. RegJump v1.01 (11/1/2006)
51. RegMon v7.04 (11/1/2006)
52. RootkitRevealer v1.71 (11/1/2006)
53. SDelete v1.51 (11/1/2006)
54. ShareEnum v1.6 (11/1/2006)
55. SigCheck v1.52 (26/2/2008)
56. Streams v1.56 (4/27/2007)
57. Strings v2.40 (4/24/2007)
58. Sync v2.0 (11/1/2006)
59. TcpView v2.51 (8/16/2007)
60. VolumeId v2.0 (11/1/2006)
61. WhoIs v1.01 (11/1/2006)
62. WinObj v2.15 (11/1/2006)
63. ZoomIt v2.11 (09/30/2007)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• ดาวน์โหลด Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• เว็บไซต์ Windows Sysinternals Windows Sysinternals
• เว็บไซต์ http://live.sysinternals.com/
Sysinternals Suite Build 20081016
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น เป็นการรวบรวมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ที่พัฒนาโดย Sysinternals เข้าเป็นชุดโปรแกรมเพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้งานในการดาวน์โหลด โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง Sysinternals ก็ได้ออกอัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081016 ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มีโปรแกรมเครื่องมือใหม่จำนวน 2 ตัว คือ Process Monitor v2.01 และ AutoRuns for Windows v9.35
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite มาทดลองใช้งานได้จากเว็บไซต์ (ไฟล์มีขนาดประมาณ 8 MB) ดาวน์โหลดชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
เครื่องมือที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่ใน Sysinternals Suite Build 20081016
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20081016 นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือใหม่ จำนวน 2 ตัว คือ
• Process Monitor v2.01 New!
By Mark Russinovich and Bryce Cogswell
โปรแกรม Process Monitor นั้น เป็นเครื่องมือสำหรับใช้มอนิเตอร์การทำงานของระบบแบบเรียลไทม์ สามารถใช้เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบวินโดวส์ และยังใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านมัลแวร์ได้อีกด้วย โดย Process Monitor นั้น สามารถทำงานได้บน Windows 2000 SP4 ที่ติดตั้ง Update Rollup 1, Windows XP SP2, Windows Server 2003 SP1 และ Windows Vista โดยสามารถทำงานได้ทั้งแพลตฟอร์ม 32 บิต และ 64 บิต สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดโปรแกรม Process Monitor v2.01 มาทดลองใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมชุด Sysinternals Suite หรือดาวน์โหลดแบบเดี่ยวๆ ได้จาก Sysinternals Process Monitor v2.01 สำหรับวิธีการใช้งานนั้น สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน Sysinternals Process Monitor v1.2
AutoRuns for Windows 9.35 New!
By Mark Russinovich and Bryce Cogswell
โปรแกรม AutoRuns for Windows เป็นโปรแกรมในลักษณะเดียวกับ MSConfig ของ Windows ME/XP คือ ใช้ในการตรวจสอบ มอนิเตอร์ และแก้ไขการสตาร์ทแอพพลิเคชัน ที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดวินโดวส์ แต่จะมีความสามารถสูงกว่า MSConfig มาก โดย AutoRuns for Windows นั้น จะแสดงรายละเอียดโปรแกรมต่างๆ ที่ทำงานระหว่างการบูตเครื่อง จากการคอนฟิกใน startup folder, Run, RunOnce, และ Registry keys อื่นๆ โดย AutoRuns for Windows นั้น สามารถทำงานได้บน Windows ทุกเวอร์ชัน ทั้งแพลตฟอร์ม 32 บิต และ 64 บิต
นอกจากนี้ยังสามารถคอนฟิกให้ AutoRuns for Windows ทำการแสดงโพรเซสที่รันจากที่อื่นๆ นอกจากที่กล่าวมาด้านบน เช่น Explorer shell extensions, toolbars, browser helper objects, Winlogon notifications, auto-start services, และอื่นๆ หรือเลือกที่จะไม่แสดงโปรแกรมในส่วนที่เป็นของไมโครซอฟท์ โดยการเลือก Options แล้วเลือก Hide Microsoft Entries ทำให้สามารถโฟกัสไปยังโปรแกรมที่เป็น third-party ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ และ auto-starting ที่ถูกคอนฟิกจากแอคเคาท์อื่นๆ โดย AutoRuns for Windows นั้นจะมีทั้งเวอร์ชันแบบกราฟิก (Windows GUI) และเวอร์ชันแบบคอมมานด์ไลน์ (Command-line) โดยในเวอร์ชันคอมมานด์ไลน์ นั้นสามารถทำการส่งออกเอ้าท์พุทเป็นไฟล์แบบ CSV เพื่อนำไปใช้ในงานอื่นๆ ต่อได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดโปรแกรม AutoRuns for Windows v9.35 มาทดลองใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมชุด Sysinternals Suite หรือดาวน์โหลดแบบเดี่ยวๆ ได้จาก AutoRuns for Windows v9.35 สำหรับวิธีการใช้งานสามารถอ่านรายละเอียดได้จาก การใช้งาน AutoRuns for Windows v8.90
รายชื่อเครื่องมือในชุดโปรแกรม Sysinternals Suite
ในชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น มีโปรแกรมเครื่องมือต่างๆ จำนวน 63 ตัว ดังนี้
1. AccessChk v4.02 (9/4/2007)
2. AccessEnum v1.32 (11/1/2006)
3. AdExplorer v1.01 (11/5/2007)
4. AdRestore v1.1 (11/1/2006)
5. Autologon v2.10 (11/1/2006)
6. Autoruns v9.35 (10/16/2008) New!
7. BgInfo v4.12 (11/5/2007)
8. CacheSet v1.0 (11/1/2006)
9. ClockRes v1.0 (11/1/2006)
10. Contig v1.54 (3/21/2007)
11. Coreinfo v1.0 (11/9/2008)
12. Ctrl2Cap v2.0 (11/1/2006)
13. DebugView v4.74 (11/27/2007)
14. Desktops 1.0 (08/21/2008)
15. DiskExt 1.1 (5/14/2007)
16. Diskmon v2.01 (11/1/2006)
17. DiskView v2.21 (11/1/2006)
18. DU v1.31 (11/1/2006)
19. EFSDump v1.02 (11/1/2006)
20. Filemon v7.04 (11/1/2006)
21. Handle v3.30 (10/15/2007)
22. Hex2dec v1.0 (11/1/2006)
23. Junction v1.05 (7/24/2007)
24. LdmDump v1.02 (11/1/2006)
25. ListDlls v2.25 (11/1/2006)
26. LiveKd v3.0 (11/1/2006)
27. LoadOrder v1.0 (11/1/2006)
28. LogonSessions v1.1 (11/1/2006)
29. NewSid v4.10 (11/1/2006)
30. NtfsInfo v1.0 (11/1/2006)
31. PageDefrag v2.32 (11/1/2006)
32. PendMoves v1.1 (11/1/2006)
33. Portmon v3.02 (11/1/2006)
34. ProcessExplorer v11.10 (26/2/2008)
35. ProcessMonitor v2.01 (10/16/2008) New!
36. ProcFeatures v1.10 (11/1/2006)
37. PsExec v1.92 (11/27/2007)
38. PsFile v1.02 (12/4/2006)
39. PsGetSid v1.43 (12/4/2006)
40. PsInfo v1.75 (7/9/2007)
41. PsKill v1.12 (12/4/2006)
42. PsList v1.28 (12/4/2006)
43. PsLoggedOn v1.33 (12/4/2006)
44. PsLogList v2.64 (12/4/2006)
45. PsPasswd v1.22 (12/4/2006)
46. PsService v2.21 (12/4/2006)
47. PsShutdown v2.52 (12/4/2006)
48. PsSuspend v1.06 (12/4/2006)
49. RegDelNull v1.10 (11/1/2006)
50. RegJump v1.01 (11/1/2006)
51. RegMon v7.04 (11/1/2006)
52. RootkitRevealer v1.71 (11/1/2006)
53. SDelete v1.51 (11/1/2006)
54. ShareEnum v1.6 (11/1/2006)
55. SigCheck v1.52 (26/2/2008)
56. Streams v1.56 (4/27/2007)
57. Strings v2.40 (4/24/2007)
58. Sync v2.0 (11/1/2006)
59. TcpView v2.51 (8/16/2007)
60. VolumeId v2.0 (11/1/2006)
61. WhoIs v1.01 (11/1/2006)
62. WinObj v2.15 (11/1/2006)
63. ZoomIt v2.11 (09/30/2007)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• ดาวน์โหลด Sysinternals Suite Sysinternals Suite
• เว็บไซต์ Windows Sysinternals Windows Sysinternals
• เว็บไซต์ http://live.sysinternals.com/
Sysinternals Suite Build 20081016
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Minor Revisions
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Minor Revisions
เมื่อวัน ที่ 16 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 1 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-062 เป็น Revision 2.1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
- เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) เพื่ออธิบายให้ชัดเจนว่าเซอร์วิส Windows Internet Printing รันภายใต้คอนเท็กซ์ของเซอร์วิส Spooler
- ให้ชัดเจนว่าเซอร์วิส Windows Internet Printing รันภายใต้คอนเท็กซ์ของเซอร์วิส Spooler
- ลบการอ้างอิงเกี่ยวกับ user rights ใน Executive Summary และ FAQ สำหรับ Integer Overflow in IPP Service Vulnerability - CVE-2008-1446
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 16 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: สูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-062 KB953155
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวัน ที่ 16 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 1 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-062 เป็น Revision 2.1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
- เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) เพื่ออธิบายให้ชัดเจนว่าเซอร์วิส Windows Internet Printing รันภายใต้คอนเท็กซ์ของเซอร์วิส Spooler
- ให้ชัดเจนว่าเซอร์วิส Windows Internet Printing รันภายใต้คอนเท็กซ์ของเซอร์วิส Spooler
- ลบการอ้างอิงเกี่ยวกับ user rights ใน Executive Summary และ FAQ สำหรับ Integer Overflow in IPP Service Vulnerability - CVE-2008-1446
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 16 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: สูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-062 KB953155
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Thursday, October 16, 2008
October 2008 Security ISO Image
ไฟล์อิมเมจของไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
ไมโครซอฟท์ได้ออกไฟล์อิมเมจของการอัพเดทของเดือนตุลาคม ซึ่งจะรวมถึงซีเคียวริตี้อัพเดทล่าสุดที่ออกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ใช้ทำการดาวน์โหลดนำไปทำการอัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบความเร็วต่ำ หรือไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยไฟล์อิมเมจนั้นจะอยู่ในรูปแบบ DVD5 ISO และสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ตามรายละเอียดด้านล่าง หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วจะต้องทำการเบิร์นลงแผ่น CD/DVD ก่อนที่จะนำไปใช้อัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
รายละเอียดไฟล์อิมเมจของไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
ชื่อไฟล์: Windows-KB913086-200810.iso
เวอร์ชัน: 913086
หมายเลขของการอัพเดท: MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB957280 KB954211 KB953155 KB957095 KB956841 KB951071 KB956803
ขนาดของไฟล์: 744.9 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 30 ชั่วโมง 16 นาที (Dial-up 56K)
ฟอร์แมต: ISO-9660 DVD5
วันที่ออก: 10/15/2008
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงก์: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyID=0a678ca9-5953-44cd-a781-9990d49e5c21&DisplayLang=en หรือ คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์อิมเมจของไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• October 2008 Security Release ISO Image
• Security updates are available on ISO-9660 DVD5 image files from the Microsoft Download Center
Keywords: MS08-056 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066 KB957280 KB954211 KB953155 KB957095 KB956841 KB951071 KB956803 Windows-KB913086-200810.iso
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไมโครซอฟท์ได้ออกไฟล์อิมเมจของการอัพเดทของเดือนตุลาคม ซึ่งจะรวมถึงซีเคียวริตี้อัพเดทล่าสุดที่ออกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ใช้ทำการดาวน์โหลดนำไปทำการอัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบความเร็วต่ำ หรือไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยไฟล์อิมเมจนั้นจะอยู่ในรูปแบบ DVD5 ISO และสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ตามรายละเอียดด้านล่าง หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วจะต้องทำการเบิร์นลงแผ่น CD/DVD ก่อนที่จะนำไปใช้อัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
รายละเอียดไฟล์อิมเมจของไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
ชื่อไฟล์: Windows-KB913086-200810.iso
เวอร์ชัน: 913086
หมายเลขของการอัพเดท: MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB957280 KB954211 KB953155 KB957095 KB956841 KB951071 KB956803
ขนาดของไฟล์: 744.9 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 30 ชั่วโมง 16 นาที (Dial-up 56K)
ฟอร์แมต: ISO-9660 DVD5
วันที่ออก: 10/15/2008
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงก์: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyID=0a678ca9-5953-44cd-a781-9990d49e5c21&DisplayLang=en หรือ คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์อิมเมจของไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• October 2008 Security Release ISO Image
• Security updates are available on ISO-9660 DVD5 image files from the Microsoft Download Center
Keywords: MS08-056 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066 KB957280 KB954211 KB953155 KB957095 KB956841 KB951071 KB956803 Windows-KB913086-200810.iso
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Malicious Software Removal Tool 2.3
Microsoft Malicious Software Removal Tool 2.3
โปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ตรวจสอบและลบไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ บนระบบ Windows XP, Windows 2000 และ Windows Server 2003 เช่น Blaster, Sasser และ Mydoom โดยหลังจากโปรแกรมทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ จะสร้างรายงานผลการทำงานในไฟล์ชื่อ mrt.log ซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ %WINDIR%\debug สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโปรแกรมและตำแหน่งการดาวน์โหลดจะอยู่ในหัวข้อ "รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool" ด้านล่าง หลังจากทำการดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็สามารถทำการรันได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำการติดตั้งแต่อย่างใด โดยมีโหมดการสแกนให้เลือก 3 แบบ ด้วยกันคือ Quick Scan ซึ่งจะทำการสแกนเฉพาะส่วนของระบบที่พบไวรัสบ่อย Full Scan ทำการสแกนทั้งระบบซึ่งจะใช้เวลาค่อนข้างนาน และ Customized Scan ซึ่งผู้ใช้จะสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่จะทำการสแกนได้
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool
ชื่อไฟล์: windows-kb890830-v2.3.exe
เวอร์ชัน: 2.3
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB890830
วันที่ออก: 10/14/2008
ขนาดของไฟล์: 7.1 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 18 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์:
เวอร์ชัน x86: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyId=AD724AE0-E72D-4F54-9AB3-75B8EB148356&displaylang=en (คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลด Malicious software removal tool v2.3 เวอร์ชัน x32)
เวอร์ชัน x64: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?familyid=585D2BDE-367F-495E-94E7-6349F4EFFC74&displaylang=en (คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลด Malicious software removal tool v2.3 เวอร์ชัน x64)
ความต้องการระบบ:
Microsoft Malicious Software Removal Tool 2.4 สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ Windows 2000 Windows Server 2003 Windows Vista และ Windows XP
หมายเหตุ:
โปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool นั้น ไม่ได้ถูกพัฒนาให้แทนที่โปรแกรมป้องกันไวรัส ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยท่านควรทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบฟรีเวอร์ชันได้ที่ Free AntiVirus Download
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Malicious Software Removal Tool
• รายชื่อไวรัสและมัลแวร์
Keywords: Malicious software removal tool KB890830
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
โปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ตรวจสอบและลบไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ บนระบบ Windows XP, Windows 2000 และ Windows Server 2003 เช่น Blaster, Sasser และ Mydoom โดยหลังจากโปรแกรมทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ จะสร้างรายงานผลการทำงานในไฟล์ชื่อ mrt.log ซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ %WINDIR%\debug สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโปรแกรมและตำแหน่งการดาวน์โหลดจะอยู่ในหัวข้อ "รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool" ด้านล่าง หลังจากทำการดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็สามารถทำการรันได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำการติดตั้งแต่อย่างใด โดยมีโหมดการสแกนให้เลือก 3 แบบ ด้วยกันคือ Quick Scan ซึ่งจะทำการสแกนเฉพาะส่วนของระบบที่พบไวรัสบ่อย Full Scan ทำการสแกนทั้งระบบซึ่งจะใช้เวลาค่อนข้างนาน และ Customized Scan ซึ่งผู้ใช้จะสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่จะทำการสแกนได้
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool
ชื่อไฟล์: windows-kb890830-v2.3.exe
เวอร์ชัน: 2.3
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB890830
วันที่ออก: 10/14/2008
ขนาดของไฟล์: 7.1 MB
เวลาในการดาวน์โหลดโดยประมาณ: 18 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และภาษาอื่นๆ อีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์:
เวอร์ชัน x86: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyId=AD724AE0-E72D-4F54-9AB3-75B8EB148356&displaylang=en (คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลด Malicious software removal tool v2.3 เวอร์ชัน x32)
เวอร์ชัน x64: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?familyid=585D2BDE-367F-495E-94E7-6349F4EFFC74&displaylang=en (คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลด Malicious software removal tool v2.3 เวอร์ชัน x64)
ความต้องการระบบ:
Microsoft Malicious Software Removal Tool 2.4 สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ Windows 2000 Windows Server 2003 Windows Vista และ Windows XP
หมายเหตุ:
โปรแกรม Microsoft Windows Malicious Software Removal Tool นั้น ไม่ได้ถูกพัฒนาให้แทนที่โปรแกรมป้องกันไวรัส ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยท่านควรทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบฟรีเวอร์ชันได้ที่ Free AntiVirus Download
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Malicious Software Removal Tool
• รายชื่อไวรัสและมัลแวร์
Keywords: Malicious software removal tool KB890830
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Major Revisions
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Minor Revisions
เมื่อวัน ที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 1 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-062 เป็น Revision 2.0 โดยมีรายละเอียดดังนี้
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
- ลบระดับความอันตรายสำหรับระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based
- เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) เพื่ออธิบายเหตุผลเกี่ยวกับระดับความอันตรายสำหรับระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based
- แจ้งให้ทราบว่าสามารถมำการอัพเดทระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based ได้ผ่านทาง Microsoft Download Center
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: สูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-062 KB953155
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวัน ที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 1 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-062 เป็น Revision 2.0 โดยมีรายละเอียดดังนี้
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
- ลบระดับความอันตรายสำหรับระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based
- เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) เพื่ออธิบายเหตุผลเกี่ยวกับระดับความอันตรายสำหรับระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based
- แจ้งให้ทราบว่าสามารถมำการอัพเดทระบบ Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based ได้ผ่านทาง Microsoft Download Center
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: สูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-062 KB953155
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Minor Revisions
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Minor Revisions
เมื่อ วันที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 8 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-041 เป็น Revision 2.1, MS08-057, MS08-058, MS08-059, MS08-060, MS08-063, MS08-064 และ MS08-065 เป็น Revision 1.1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
• MS08-041 - Critical
• MS08-057 - Critical
• MS08-058 - Critical
• MS08-059 - Critical
• MS08-060 - Critical
• MS08-063 - Important
• MS08-064 - Important
• MS08-065 - Important
สำหรับการอัพเดทแต่ละตัวมีรายละเอียดดังนี้
MS08-041: Vulnerability in the ActiveX Control for the Snapshot Viewer for Microsoft Access Could Allow Remote Code Execution (955617)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-041.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มการอ้างอิงกับของ Viewer for Microsoft Access กับ Microsoft Knowledge Base Article (KB957198) และอธิบายให้ชัดเจนว่าถ้าทำการติดตั้ง Microsoft Office 2000 Service Pack 3, Office XP Service Pack 2, หรือ Office 2003 Service Pack 2 หรือ Office 2003 Service Pack 3 ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอัพเดทใหม่
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 2.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ
- Microsoft Office Access 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Access 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Access 2003 Service Pack 2 และ Microsoft Office Access 2003 Service Pack 3
- Snapshot Viewer สำหรับ Microsoft Access
MS08-057: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (956416)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-057.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เปลี่ยนการ detection และ deployment ของ Systems Management Server เป็น "yes" สำหรับ Microsoft Office Excel Viewer 2003 ในส่วน Detection and Deployment Tools
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office Excel 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2007
- Microsoft Office Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 สำหรับ Mac
- Microsoft Office 2008 สำหรับ Mac
- Open XML File Format Converter สำหรับ Mac
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
MS08-058: Cumulative Security Update for Internet Explorer (956390)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-058.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: แก้ไขค่า registry key สำหรับ Windows 2003 และ แก้ไขลิงค์ของไฟล์รายละเอียด
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 บน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-059: Vulnerability in Host Integration Server RPC Service Could Allow Remote Code Execution (956695)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-059.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มการอ้างอิงกับ Microsoft Knowledge Base Article (KB956695) ในส่วน Executive Summary และแก้ไขชื่อเรื่อง HIS Command Execution Vulnerability (CVE- 2008-3466) ในส่วน Acknowledgments
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Host Integration Server 2000 Service Pack 2 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2000 Administrator Client
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 32-bit Systems
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 64-bit Systems
MS08-060: Vulnerability in Active Directory Could Allow Remote Code Execution (957280)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-060.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: อัพเดทตาราง Non-Affected Software
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Active Directory บน Windows 2000 Server Service Pack 4
MS08-063: Vulnerability in SMB Could Allow Remote Code Execution (957095)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-063.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: อัพเดทรายละเอียดให้ชัดเจนว่าการติดตั้งอัพเดทบน Windows Vista และ Windows 2008 ไม่จำเป็นต้องทำการรีสตาร์ท และแก้ไขค่า registry key สำหรับ Windows XP
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-064: Vulnerability in Virtual Address Descriptor Manipulation Could Allow Elevation of Privilege (956841)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-064.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: แก้ไขลิงค์การอ้างอิง MSDN article ในส่วน FAQ สำหรับ Virtual Address Descriptor Elevation of Privilege Vulnerability - CVE-2008-4036
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-065: Vulnerability in Message Queuing Could Allow Remote Code Execution (951071)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-065.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มลิงค์อัพเดทหมายเลข MS07-065 (ซึ่งถูกแทนที่ด้วยอัพเดทนี้) ในตาราง Affected Software
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
• สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-041 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-063 MS08-064 MS08-065
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อ วันที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 8 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-041 เป็น Revision 2.1, MS08-057, MS08-058, MS08-059, MS08-060, MS08-063, MS08-064 และ MS08-065 เป็น Revision 1.1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
• MS08-041 - Critical
• MS08-057 - Critical
• MS08-058 - Critical
• MS08-059 - Critical
• MS08-060 - Critical
• MS08-063 - Important
• MS08-064 - Important
• MS08-065 - Important
สำหรับการอัพเดทแต่ละตัวมีรายละเอียดดังนี้
MS08-041: Vulnerability in the ActiveX Control for the Snapshot Viewer for Microsoft Access Could Allow Remote Code Execution (955617)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-041.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มการอ้างอิงกับของ Viewer for Microsoft Access กับ Microsoft Knowledge Base Article (KB957198) และอธิบายให้ชัดเจนว่าถ้าทำการติดตั้ง Microsoft Office 2000 Service Pack 3, Office XP Service Pack 2, หรือ Office 2003 Service Pack 2 หรือ Office 2003 Service Pack 3 ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอัพเดทใหม่
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 2.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ
- Microsoft Office Access 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Access 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Access 2003 Service Pack 2 และ Microsoft Office Access 2003 Service Pack 3
- Snapshot Viewer สำหรับ Microsoft Access
MS08-057: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (956416)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-057.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เปลี่ยนการ detection และ deployment ของ Systems Management Server เป็น "yes" สำหรับ Microsoft Office Excel Viewer 2003 ในส่วน Detection and Deployment Tools
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office Excel 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2007
- Microsoft Office Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 สำหรับ Mac
- Microsoft Office 2008 สำหรับ Mac
- Open XML File Format Converter สำหรับ Mac
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
MS08-058: Cumulative Security Update for Internet Explorer (956390)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-058.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: แก้ไขค่า registry key สำหรับ Windows 2003 และ แก้ไขลิงค์ของไฟล์รายละเอียด
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 บน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-059: Vulnerability in Host Integration Server RPC Service Could Allow Remote Code Execution (956695)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-059.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มการอ้างอิงกับ Microsoft Knowledge Base Article (KB956695) ในส่วน Executive Summary และแก้ไขชื่อเรื่อง HIS Command Execution Vulnerability (CVE- 2008-3466) ในส่วน Acknowledgments
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Host Integration Server 2000 Service Pack 2 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2000 Administrator Client
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 32-bit Systems
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 64-bit Systems
MS08-060: Vulnerability in Active Directory Could Allow Remote Code Execution (957280)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-060.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: อัพเดทตาราง Non-Affected Software
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับวิกฤติ (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Active Directory บน Windows 2000 Server Service Pack 4
MS08-063: Vulnerability in SMB Could Allow Remote Code Execution (957095)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-063.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: อัพเดทรายละเอียดให้ชัดเจนว่าการติดตั้งอัพเดทบน Windows Vista และ Windows 2008 ไม่จำเป็นต้องทำการรีสตาร์ท และแก้ไขค่า registry key สำหรับ Windows XP
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-064: Vulnerability in Virtual Address Descriptor Manipulation Could Allow Elevation of Privilege (956841)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-064.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: แก้ไขลิงค์การอ้างอิง MSDN article ในส่วน FAQ สำหรับ Virtual Address Descriptor Elevation of Privilege Vulnerability - CVE-2008-4036
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
MS08-065: Vulnerability in Message Queuing Could Allow Remote Code Execution (951071)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-065.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง: เพิ่มลิงค์อัพเดทหมายเลข MS07-065 (ซึ่งถูกแทนที่ด้วยอัพเดทนี้) ในตาราง Affected Software
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 ตุลาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 15 ตุลาคม 2551
ระดับความร้ายแรง: ระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
• สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS08-041 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-063 MS08-064 MS08-065
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Wednesday, October 15, 2008
Mozilla เปิดให้ดาวน์โหลด Firefox 3.1 Beta 1
Mozilla เปิดให้ดาวน์โหลด Firefox 3.1 Beta 1
มีความเคลื่อนไหวของ Mozilla Firefox เวอร์ชัน 3.1 โดยทาง Mozilla ได้ออกเวอร์ชัน Beta 1 ให้นักพัฒนาและผู้สนใจทำการดาวน์โหลดไปทดลองใช้งาน โดยดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ ดาวน์โหลด Firefox 3.1 Beta 1 for Windows
Firefox 3.1 Beta 1 นั้น จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่างๆ ที่ช่วยให้การท่องอินเทอร์ทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ดีขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่ที่จะมีใน Firefox เวอร์ชัน 3.1 Beta 1 มีดังนี้
- Web standards improvements in the Gecko layout engine.
- Added support for CSS 2.1 and CSS 3 properties.
- A new tab-switching shortcut that shows previews of the tab you’re switching to.
- Improved control over the Smart Location Bar using special characters to restrict your search.
- Support for new web technologies such as the video and audio elements, the W3C Geolocation API, JavaScript query selectors, web worker threads, SVG transforms and offline applications.
การดาวน์โหลด
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for Windows
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for Linux
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for MAC OS
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 Release Notes
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
มีความเคลื่อนไหวของ Mozilla Firefox เวอร์ชัน 3.1 โดยทาง Mozilla ได้ออกเวอร์ชัน Beta 1 ให้นักพัฒนาและผู้สนใจทำการดาวน์โหลดไปทดลองใช้งาน โดยดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ ดาวน์โหลด Firefox 3.1 Beta 1 for Windows
Firefox 3.1 Beta 1 นั้น จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่างๆ ที่ช่วยให้การท่องอินเทอร์ทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ดีขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่ที่จะมีใน Firefox เวอร์ชัน 3.1 Beta 1 มีดังนี้
- Web standards improvements in the Gecko layout engine.
- Added support for CSS 2.1 and CSS 3 properties.
- A new tab-switching shortcut that shows previews of the tab you’re switching to.
- Improved control over the Smart Location Bar using special characters to restrict your search.
- Support for new web technologies such as the video and audio elements, the W3C Geolocation API, JavaScript query selectors, web worker threads, SVG transforms and offline applications.
การดาวน์โหลด
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for Windows
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for Linux
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 for MAC OS
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Mozilla Firefox 3.1 Beta 1 Release Notes
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Security update summary for October 2008
ไมโครซอฟต์ซีเคียวริตี้อัพเดทของเดือนตุลาคม 2551
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออก "อัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคม (Microsoft Security Update for October 2008)" จำนวน 11 ตัว โดยอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) มีจำนวน 4 ตัวและ อัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง (Important) มีจำนวน 6 ตัว (เป็นอัพเดทความปลอดภัยของ Windows ทั้งหมด) และอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง (Moderate) จำนวน 1 ตัว โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ จำนวน 4 ตัว ได้แก่
• MS08-060 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Active Directory Bulletin
• MS08-058 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Internet Explorer Bulletin
• MS08-059 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Internet Explorer Bulletin
• MS08-057 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Office
Microsoft Security Bulletin 1: AD Bulletin
MS08-060: Vulnerability in Active Directory Could Allow Remote Code Execution (957280)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-060.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Active Directory บน Windows 2000 Server Service Pack 4
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 2: IE Bulletin
MS08-058: Cumulative Security Update for Internet Explorer (956390)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-058.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 บน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 3: HIS Bulletin
MS08-059: Vulnerability in Host Integration Server RPC Service Could Allow Remote Code Execution (956695)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-059.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Host Integration Server 2000 Service Pack 2 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2000 Administrator Client
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 32-bit Systems
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 64-bit Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 4: Excel Bulletin
MS08-057: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (956416)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-057.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office Excel 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2007
- Microsoft Office Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 สำหรับ Mac
- Microsoft Office 2008 สำหรับ Mac
- Open XML File Format Converter สำหรับ Mac
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง (Important)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง จำนวน 6 ตัว ได้แก่
• MS08-066 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-061 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-062 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-063 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-064 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-065 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
Microsoft Security Bulletin 5: Windows 1 Bulletin
MS08-066: Vulnerability in the Microsoft Ancillary Function Driver Could Allow Elevation of Privilege (956803)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-066.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 6: Windows 2 Bulletin
MS08-061: Vulnerabilities in Windows Kernel Could Allow Elevation of Privilege (954211)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-061.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 for 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 for x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 7: Windows 3 Bulletin
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 8: Windows 4 Bulletin
MS08-063: Vulnerability in SMB Could Allow Remote Code Execution (957095)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-063.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 9: Windows 5 Bulletin
MS08-064: Vulnerability in Virtual Address Descriptor Manipulation Could Allow Elevation of Privilege (956841)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-064.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 10: Windows 6 Bulletin
MS08-065: Vulnerability in Message Queuing Could Allow Remote Code Execution (951071)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-065.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง (Moderate)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง จำนวน 1 ตัว ได้แก่
• MS08-056 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Office
Microsoft Security Bulletin 11: Office Bulletin
MS08-056: Vulnerability in Microsoft Office Could Allow Information Disclosure (957699)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-056.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office XP Service Pack 3
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 14 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: Security Update MS08-056 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออก "อัพเดทความปลอดภัยของเดือนตุลาคม (Microsoft Security Update for October 2008)" จำนวน 11 ตัว โดยอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical) มีจำนวน 4 ตัวและ อัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง (Important) มีจำนวน 6 ตัว (เป็นอัพเดทความปลอดภัยของ Windows ทั้งหมด) และอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง (Moderate) จำนวน 1 ตัว โดยรายละเอียดการอัพเดท และรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ (Critical)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับวิกฤติ จำนวน 4 ตัว ได้แก่
• MS08-060 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Active Directory Bulletin
• MS08-058 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Internet Explorer Bulletin
• MS08-059 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Internet Explorer Bulletin
• MS08-057 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Office
Microsoft Security Bulletin 1: AD Bulletin
MS08-060: Vulnerability in Active Directory Could Allow Remote Code Execution (957280)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-060.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Active Directory บน Windows 2000 Server Service Pack 4
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 2: IE Bulletin
MS08-058: Cumulative Security Update for Internet Explorer (956390)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-058.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 บน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่ได้รับผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 3: HIS Bulletin
MS08-059: Vulnerability in Host Integration Server RPC Service Could Allow Remote Code Execution (956695)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-059.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Host Integration Server 2000 Service Pack 2 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2000 Administrator Client
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Server)
- Microsoft Host Integration Server 2004 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2004 Service Pack 1 (Client)
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 32-bit Systems
- Microsoft Host Integration Server 2006 for 64-bit Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 4: Excel Bulletin
MS08-057: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (956416)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-057.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office Excel 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Excel 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel 2007
- Microsoft Office Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 สำหรับ Mac
- Microsoft Office 2008 สำหรับ Mac
- Open XML File Format Converter สำหรับ Mac
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง (Important)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับสูง จำนวน 6 ตัว ได้แก่
• MS08-066 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-061 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-062 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-063 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-064 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
• MS08-065 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Windows
Microsoft Security Bulletin 5: Windows 1 Bulletin
MS08-066: Vulnerability in the Microsoft Ancillary Function Driver Could Allow Elevation of Privilege (956803)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-066.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 6: Windows 2 Bulletin
MS08-061: Vulnerabilities in Windows Kernel Could Allow Elevation of Privilege (954211)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-061.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 for 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 for x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 7: Windows 3 Bulletin
MS08-062: Vulnerability in Windows Internet Printing Service Could Allow Remote Code Execution (953155)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-062.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 ติดตั้ง SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 8: Windows 4 Bulletin
MS08-063: Vulnerability in SMB Could Allow Remote Code Execution (957095)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-063.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 ติดตั้ง SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Remote Code Execution
Microsoft Security Bulletin 9: Windows 5 Bulletin
MS08-064: Vulnerability in Virtual Address Descriptor Manipulation Could Allow Elevation of Privilege (956841)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-064.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- Windows Server 2003 with SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium based Systems
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems(Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Elevation of Privilege
Microsoft Security Bulletin 10: Windows 6 Bulletin
MS08-065: Vulnerability in Message Queuing Could Allow Remote Code Execution (951071)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-065.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง (Moderate)
การอัพเดทที่มีความร้ายแรงระดับกลาง จำนวน 1 ตัว ได้แก่
• MS08-056 - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Office
Microsoft Security Bulletin 11: Office Bulletin
MS08-056: Vulnerability in Microsoft Office Could Allow Information Disclosure (957699)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-056.mspx
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office XP Service Pack 3
ผลกระทบ: Remote Code Execution
การออกอัพเดทและการอัพเดทระบบ
ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะออกอัพเดทของเดือนตุลาคม 2551 ในวันที่ 14 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำการอัพเดทจากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์อัพเดท (http://windowsupdate.microsoft.com/) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือทำการอัพเดทผ่านทาง WSUS สำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีการใช้ระบบ Windows Server Update Services (WSUS) ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม/ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for October 2008 (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-OCT.mspx)
• Microsoft Technet Security (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: Security Update MS08-056 MS08-057 MS08-058 MS08-059 MS08-060 MS08-061 MS08-062 MS08-063 MS08-064 MS08-065 MS08-066
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.