ชื่อไวรัส: MAL_MLWR-5
ชื่ออื่นๆ : Trojan-PSW.Win32.OnLineGames.hsw (Kaspersky), New Malware.bj !! (McAfee), Infostealer.Lineage (Symantec), DR/PSW.OnLineGames.hsw.1 (Avira), Mal/Packer (Sophos)
วันที่เริ่มระบาด: มิถุนายน 2550
รายละเอียด
MAL_MLWR-5 นั้นมีพฤติกรรมคล้ายกับไวรัสตระกูล PE_LOOKED โดยจะแพร่ระบาดผ่านทางการแชร์ไฟล์บนเครือข่ายและผ่านทางไฟล์ที่ติดไวรัส และอาจจะติดมาพร้อมกับสปายแวร์ในตระกูล TSPY_FRETHOG ได้อีกด้วย
ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบ
ไวรัส MAL_MLWR-5 นั้นจะระบาดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 95, 98, ME, NT, 2000, XP, Server 2003
วิธีการแก้ไขเมื่อติดไวรัส MAL_MLWR-5
ในกรณีที่ได้รับข้อความว่ามีการตรวจพบไวรัส MAL_MLWR-5 ให้ทำการสแกนเครื่องด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัส และทำการลบไฟล์ไวรัสออกจากเครื่อง
วิธีการป้องกัน
วิธีการป้องกันไวรัสโดยทั่วไปนั้น ทำได้โดยการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ไม่ควรรันหรือทำการติดตั้งโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ สำหรับวิธีการอื่นๆ ซึ่งจะช่อวยเพิ่มระดับการป้องกันไวรัสนั้น มีดังนี้
1. การป้องกันไวรัสด้วยโปรแกรม Trust No Exe อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/11/kb-112007-17.html
2. ปิดการใช้งาน Autoplay อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/turnoff-autoplay-on-all-drives-in.html
3. วิธีการป้องกันไวรัสจาก Flash drive อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/protect-computer-from-flash-drives.html
4. ป้องกันไม่ให้วินโดวส์รันโปรแกรมที่กำหนด อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/10/kb-102007-22.html
รายละเอียดเพิ่มเติม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัส MAL_MLWR-5 ได้ที่เว็บไซต์ Trend Micro
http://www.trendmicro.com/vinfo/virusencyclo/default5.asp?VName=MAL_MLWR-5&VSect=P
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• ไวรัส MAL_MLWR-5 (Trend Micro)
• Trend Micro Virus Map
MAL_MLWR-5
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Pages - Menu
▼
Pages - Menu
▼
Pages
▼
Sunday, August 31, 2008
ปัญหาไอคอนบนถาดระบบของ Vista หาย
ปัญหาไอคอนบนถาดระบบของ Windows Vista หาย
ยูสเซอร์ที่ใช้ Windows Vista หลายท่านอาจจะเคยประสบกับปัญหา ที่อยู่ดีๆ ไอคอนบนถาดระบบ (System tray) หายไป ตัวอย่างเช่น ไอคอน Network และเมื่อทำการเปิดให้แสดงใหม่โดยการคลิกขวาที่ Taskbar คลิก Properties แล้วคลิกแท็บ Notification Area ในส่วน System Icons จะไม่สามารถแก้ไขค่าได้โดยเช็คบ็อกซ์จะถูกดิสเอเบิล (ไม่สามารถเลือกได้) ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหานี้ทำได้โดยการเคลียร์ประวัติไอคอนบนถาดระบบตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรีได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ในที่ปลอดภัยก่อนทำการแก้ไข
1. คลิก Start แล้วคลิก Run
2. ในช่อง Open ให้พิมพ์ regedit แล้วคลิก OK
3. ในหน้าต่าง Registry Editor หาคีย์ ดังต่อไปนี้ จากนั้นคลิกขวาที่แต่ละคีย์ แล้วคลิก Delete
HKEY_CURRENT_USER \ Software \ Classes \ Local Settings \ Software \ Microsoft \ Windows \ CurrentVersion \ TrayNotify
4. จากนั้นให้ทำการลบคีย์ REG_BINARY ชื่อ IconStreams และ PasteIconsStream
5. ปิดโปรแกรม Registry editor
6. คลิกขวาที่ taskbar แล้วคลิก Task Manager
7. คลิกแท็บ Processes tab แล้วคลิกเลือก explorer.exe จากนั้นคลิก End Process
8. คลิกแท็บ Applications คลิกปุ่ม New Task แล้วในไดอะล็อกบ็อกซ์ Create New Task ในกล่องด้าขวามือของ Open: ให้พิมพ์ explorer.exe เสร็จแล้วคลิก OK
9. หลังจาก Explorer สตาร์ทแล้วเสร็จ ก็จะแสดงไอคอนบนถาดระบบดังเดิม
Keywords: System tray Notification Area
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ยูสเซอร์ที่ใช้ Windows Vista หลายท่านอาจจะเคยประสบกับปัญหา ที่อยู่ดีๆ ไอคอนบนถาดระบบ (System tray) หายไป ตัวอย่างเช่น ไอคอน Network และเมื่อทำการเปิดให้แสดงใหม่โดยการคลิกขวาที่ Taskbar คลิก Properties แล้วคลิกแท็บ Notification Area ในส่วน System Icons จะไม่สามารถแก้ไขค่าได้โดยเช็คบ็อกซ์จะถูกดิสเอเบิล (ไม่สามารถเลือกได้) ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหานี้ทำได้โดยการเคลียร์ประวัติไอคอนบนถาดระบบตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ข้อควรระวัง: บทความนี้มีการดำเนินการแก้ไขรีจิสตรี ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำการเรียกคืนรีจิสตรีได้ในกรณีเกิดปัญหา โปรดสำรองรีจิสตรีไว้ในที่ปลอดภัยก่อนทำการแก้ไข
1. คลิก Start แล้วคลิก Run
2. ในช่อง Open ให้พิมพ์ regedit แล้วคลิก OK
3. ในหน้าต่าง Registry Editor หาคีย์ ดังต่อไปนี้ จากนั้นคลิกขวาที่แต่ละคีย์ แล้วคลิก Delete
HKEY_CURRENT_USER \ Software \ Classes \ Local Settings \ Software \ Microsoft \ Windows \ CurrentVersion \ TrayNotify
4. จากนั้นให้ทำการลบคีย์ REG_BINARY ชื่อ IconStreams และ PasteIconsStream
5. ปิดโปรแกรม Registry editor
6. คลิกขวาที่ taskbar แล้วคลิก Task Manager
7. คลิกแท็บ Processes tab แล้วคลิกเลือก explorer.exe จากนั้นคลิก End Process
8. คลิกแท็บ Applications คลิกปุ่ม New Task แล้วในไดอะล็อกบ็อกซ์ Create New Task ในกล่องด้าขวามือของ Open: ให้พิมพ์ explorer.exe เสร็จแล้วคลิก OK
9. หลังจาก Explorer สตาร์ทแล้วเสร็จ ก็จะแสดงไอคอนบนถาดระบบดังเดิม
Keywords: System tray Notification Area
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Download VMware Server 1.0.7 Build 108231
ดาวน์โหลด VMware Server 1.0.7 Build 108231
VMware Server นั้นเป็นโปรแกรมสำหรับใช้ในการสร้าง Virtual Machine ลักษณะเดียวกับ Microsoft Virtual Server ที่สำคัญคือเป็นฟรีแวร์ ดาวน์โหลดมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายเหมือนกัน
โดยเมื่อวัน 28 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง WMware ได้ออก VMware Server เวอร์ชัน v1.0.7 Build 108231 ซึ่งใครที่สนใจสามารถทำการดาวน์โหลดมาทดลองเล่นได้ตามรายละเอียดส่วนรายละเอียดการดาวน์โหลด VMware Server ครับ
ฟีเจอร์ของ VMware Server
• Runs on any standard x86 hardware
• Supports 64-bit guest operating systems, including Windows, Linux, and Solaris
• Can be managed by VMware VirtualCenter to efficiently provision, monitor and manage infrastructure from a central management console
• Supports two-processor Virtual SMP, enabling a single virtual machine to span multiple physical processors
• Runs on a wider variety of Linux and Windows host and guest operating systems than any server virtualization product on the market
• Captures entire state of a virtual machine and rolls back at any time with the click of a single button
• Installs like an application, with quick and easy, wizard-driven installation
Quick and easy, wizard-driven virtual machine creation
• Opens VMware or Microsoft virtual machine format and Symantec LiveState Recovery images with VM Importer
• Supports Intel Virtualization Technology
• Protects investment with an easy upgrade path to VMware Infrastructure
รายละเอียดการดาวน์โหลด VMware Server
VMware ให้ยูสเซอร์ทั่วไปทำการดาวน์โหลด VMWare Server ไปใช้งานได้ฟรี แต่อย่างไรก็ตามต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอดาวน์โหลดก่อน โดยสามารถลงทะเบียนดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ VMware Server v1.0.7 Build 108231
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• VMWare เว็บไซต์ VMware.com
• VMware Server Release Notes
• ติดตั้งและใช้งาน VMWare Server
VMware Server 1.0.7 Build 108231
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
VMware Server นั้นเป็นโปรแกรมสำหรับใช้ในการสร้าง Virtual Machine ลักษณะเดียวกับ Microsoft Virtual Server ที่สำคัญคือเป็นฟรีแวร์ ดาวน์โหลดมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายเหมือนกัน
โดยเมื่อวัน 28 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง WMware ได้ออก VMware Server เวอร์ชัน v1.0.7 Build 108231 ซึ่งใครที่สนใจสามารถทำการดาวน์โหลดมาทดลองเล่นได้ตามรายละเอียดส่วนรายละเอียดการดาวน์โหลด VMware Server ครับ
ฟีเจอร์ของ VMware Server
• Runs on any standard x86 hardware
• Supports 64-bit guest operating systems, including Windows, Linux, and Solaris
• Can be managed by VMware VirtualCenter to efficiently provision, monitor and manage infrastructure from a central management console
• Supports two-processor Virtual SMP, enabling a single virtual machine to span multiple physical processors
• Runs on a wider variety of Linux and Windows host and guest operating systems than any server virtualization product on the market
• Captures entire state of a virtual machine and rolls back at any time with the click of a single button
• Installs like an application, with quick and easy, wizard-driven installation
Quick and easy, wizard-driven virtual machine creation
• Opens VMware or Microsoft virtual machine format and Symantec LiveState Recovery images with VM Importer
• Supports Intel Virtualization Technology
• Protects investment with an easy upgrade path to VMware Infrastructure
รายละเอียดการดาวน์โหลด VMware Server
VMware ให้ยูสเซอร์ทั่วไปทำการดาวน์โหลด VMWare Server ไปใช้งานได้ฟรี แต่อย่างไรก็ตามต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอดาวน์โหลดก่อน โดยสามารถลงทะเบียนดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ VMware Server v1.0.7 Build 108231
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• VMWare เว็บไซต์ VMware.com
• VMware Server Release Notes
• ติดตั้งและใช้งาน VMWare Server
VMware Server 1.0.7 Build 108231
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
How to change Administrator's password on Windows Server 2008
การเปลี่ยนรหัสผ่านของ Administrator ใน Windows Server 2008
ทความโดย: Windows Administrator Blog
การเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) ของแอคเคาท์ Administrator นั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ สำหรับวิธีการเปลี่ยนรหัสผ่านของ Administrator ใน Windows Server 2008 มีขั้นตอนดังนี้
1. ล็อกออนเข้าเครื่องด้วยแอคเคาต์ Administrator หรือยูสเซอร์ที่มีสิทธิ์ระดับแอดมิน
2. คลิก Start คลิก Control Panel จากนันดับเบิลคลิก User Accounts
3. ในหน้าต่าง User Account ในส่วน Make changes to your user account ให้คลิก Change your password
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Change your password ให้พิมพ์พาสเวิร์ดปัจจุบันในช่อง Current Password
5. จากนั้นให้พิมพ์พาสเวิร์ดใหม่ในช่อง New password
6. พิมพ์พาสเวิร์ดใหม่ในช่อง Confirm new password
7. จากนั้นหากต้องการกำหนดคำหรือประโยคช่วยในการจำพาสเวิร์ดก็ให้พิมพ์ลงในช่อง Type a password hint
8. เสร็จแล้วคลิก Change password แล้วปิดหน้าต่าง User Accounts เพื่อจบการทำงาน
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows Server 2008 (TWA)
Keywords: Change Administrator's Password
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved
ทความโดย: Windows Administrator Blog
การเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) ของแอคเคาท์ Administrator นั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ สำหรับวิธีการเปลี่ยนรหัสผ่านของ Administrator ใน Windows Server 2008 มีขั้นตอนดังนี้
1. ล็อกออนเข้าเครื่องด้วยแอคเคาต์ Administrator หรือยูสเซอร์ที่มีสิทธิ์ระดับแอดมิน
2. คลิก Start คลิก Control Panel จากนันดับเบิลคลิก User Accounts
3. ในหน้าต่าง User Account ในส่วน Make changes to your user account ให้คลิก Change your password
4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Change your password ให้พิมพ์พาสเวิร์ดปัจจุบันในช่อง Current Password
5. จากนั้นให้พิมพ์พาสเวิร์ดใหม่ในช่อง New password
6. พิมพ์พาสเวิร์ดใหม่ในช่อง Confirm new password
7. จากนั้นหากต้องการกำหนดคำหรือประโยคช่วยในการจำพาสเวิร์ดก็ให้พิมพ์ลงในช่อง Type a password hint
8. เสร็จแล้วคลิก Change password แล้วปิดหน้าต่าง User Accounts เพื่อจบการทำงาน
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows Server 2008 (TWA)
Keywords: Change Administrator's Password
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved
Saturday, August 30, 2008
ปัญหาการติดตั้ง Windows XP SP3 และวิธีการแก้ไข
ปัญหาการติดตั้ง Windows XP Service Pack 3 (SP3) และวิธีการแก้ไข
สำหรับท่านที่ประสบปัญหาไม่สามารถทำการติดตั้ง Windows XP Service Pack 3 (SP3) ได้นั้น อาจมีสาเหตุได้มากมายหลายสาเหตุด้วยกัน โดย 5 แนวทางดังต่อไปนี้ เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการติดตั้ง Service Pack 3
ในกรณีที่ดำเนินการตามวิธีการต่างๆ เหล่านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ติดต่อกับไมโครซอฟท์เพื่อขอความช่วยเหลือ
วิธีที่ 1: ปิดโปรแกรมทั้งหมด แล้วทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ จากนั้นทำการติดตั้ง SP3 อีกครั้ง
โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. ปิดโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่
2. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
3. รอจนการรีสตาร์ทแล้วเสร็จ จากนั้นทำการล็อกออนด้วยแอคเคาต์แอดมินิเตรเตอร์
4. ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และใช้ Internet Explorer ไปที่เว็บไซต์ ้http://windowsupdate.microsoft.com
5. จากนั้นคลิก Express Install (Recommended) ถ้าหากคอมพิวเตอร์ตรงตามเงื่อนไขสำหรับการติดตั้ง Windows XP SP3 ระบบจะทำการเลือกติดตั้ง Windows XP SP3 โดยอัตโนมัติ
6. คลิก Install
7. อ่านและยอมรับเงื่อนไข End User License Agreement (EULA) จากนั้นทำตามคำสั่งจนการติดตั้งแล้วเสร็จ
วิธีที่ 2: ดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการดาวน์โหลด Windows XP SP3 ได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ดังนี้
• การดาวน์โหลด Windows XP Service Pack 3 ISO-9660 CD Image http://thaiwinadmin.blogspot.com/2008/05/kb2008206.html
• การดาวน์โหลด Windows XP Service Pack 3 Network Installation http://thaiwinadmin.blogspot.com/2008/05/kb2008205.html
• หรือที่เว็บไซต์ How to obtain the latest Windows XP service pack http://support.microsoft.com/kb/322389/
วิธีที่ 3: ปิดโปรแกรม antivirus, antispyware และ third-party firewall ชั่วคราว
เนื่องจากการติดตั้ง Windows XP SP3 จะไม่ประสบความสำเร็จถ้าหากมีโปรแกรมแบบ third-party ทำการเปิดหรือล็อคไฟล์ที่มีความจำเป็นต่อการติดตั้ง Windows XP SP3
ข้อควรระวัง
การปิดโปรแกรม antivirus, antispyware และ third-party firewall นั้น ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์หรือผู้ปนะสงค์ร้ายได้ ดังนั้นแนะนำให้ใช้วิธีการนี้ในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
1. ปิดโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่
2. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
3. รอจนการรีสตาร์ทแล้วเสร็จ จากนั้นทำการล็อกออนด้วยแอคเคาต์ Administrator
4. ทำการปิดโปรแกรม Anti-virus, Anti-spyware และ Third-party firewall
5. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 ตาม วิธีที่ 1 หรือทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์ ตามวิธีการใน วิธีที่ 2
6. หลังจากทำการติดตั้งแล้วเสร็จให้ทำการเปิดใช้งานโปรแกรม Anti-virus, Anti-spyware และ Third-party firewall
วิธีที่ 4: ทำการสตาร์ทเซอร์วิส Background Intelligent Transfer Service (BITS)
ทำการสตาร์ทเซอร์วิส Background Intelligent Transfer Service (BITS) ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run จากนั้นพิมพ์ services.msc ในช่อง Open จากนั้นคลิก OK
2. คลิกขวาที่ Background Intelligent Transfer Service จากนั้นคลิก Properties
3. บนแท็บ General ในช่อง Startup type ให้เลือกเป็น Automatic ในช่อง Startup type จากนั้นคลิก Apply
4. ในส่วน "Service status" ของไดอะล็อกบ็อกซ properties ให้ตรวจสอบว่าเซอร์วิส BITS มีสถานะเป็น started ถ้าหากสถานะเป็น Stop ให้คลิก Start
5. คลิก Apply จากนั้นคลิก OK
6. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 ตาม Method 1 หรือทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์ ตามวิธีการใน วิธีที่ 2
วิธีที่ 5: เคลียร์โฟลเดอร์ Software Distribution และทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3
1. ทำการล็อกออนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยแอคเคาต์ Administrator หรือแอคเคาต์ที่มีสิทธิ์ระดับแอดมินเพอร์มิสชัน
2. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ services.msc ในช่อง Open จากนั้นคลิก OK
3. คลิกขวาที่ Automatic Update จากนั้นคลิก Stop
4. คลิก Start คลิก Run จากนั้นให้พิมพ์คำสั่งตามด้านล่างในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK
%windir%\SoftwareDistribution
5. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Download จากนั้นคลิก Rename
6. พิมพ์ Download.old เสร็จแล้วกด Enter
7. ปิดหน้าต่าง Windows Explorer
8. ในหน้าต่างคอนโซล Services ให้คลิกขวาที่ Automatic Update service จากนั้นคลิก Start
9. ปิดหน้าต่างคอนโซล Services
10. ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และใช้ Internet Explorer ไปที่เว็บไซต์ ้http://windowsupdate.microsoft.com
11. จากนั้นคลิก Express Install (Recommended) ถ้าหากคอมพิวเตอร์ตรงตามเงื่อนไขสำหรับการติดตั้ง Windows XP SP3 ระบบจะทำการเลือกติดตั้ง Windows XP SP3 โดยอัตโนมัติ
12. คลิก Install
13. อ่านและยอมรับเงื่อนไข End User License Agreement (EULA) จากนั้นทำตามคำสั่งจนการติดตั้งแล้วเสร็จ
วิธีการเหล่านี้สามารถใช้ได้กับ
• Microsoft Windows XP Service Pack 3 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows XP Professional และ Microsoft Windows XP Home Edition
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• How to troubleshoot an unsuccessful installation of Windows XP SP3
Troubleshoot Windows XP Service Pack 3 SP3 Installation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
สำหรับท่านที่ประสบปัญหาไม่สามารถทำการติดตั้ง Windows XP Service Pack 3 (SP3) ได้นั้น อาจมีสาเหตุได้มากมายหลายสาเหตุด้วยกัน โดย 5 แนวทางดังต่อไปนี้ เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการติดตั้ง Service Pack 3
ในกรณีที่ดำเนินการตามวิธีการต่างๆ เหล่านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ติดต่อกับไมโครซอฟท์เพื่อขอความช่วยเหลือ
วิธีที่ 1: ปิดโปรแกรมทั้งหมด แล้วทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ จากนั้นทำการติดตั้ง SP3 อีกครั้ง
โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. ปิดโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่
2. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
3. รอจนการรีสตาร์ทแล้วเสร็จ จากนั้นทำการล็อกออนด้วยแอคเคาต์แอดมินิเตรเตอร์
4. ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และใช้ Internet Explorer ไปที่เว็บไซต์ ้http://windowsupdate.microsoft.com
5. จากนั้นคลิก Express Install (Recommended) ถ้าหากคอมพิวเตอร์ตรงตามเงื่อนไขสำหรับการติดตั้ง Windows XP SP3 ระบบจะทำการเลือกติดตั้ง Windows XP SP3 โดยอัตโนมัติ
6. คลิก Install
7. อ่านและยอมรับเงื่อนไข End User License Agreement (EULA) จากนั้นทำตามคำสั่งจนการติดตั้งแล้วเสร็จ
วิธีที่ 2: ดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการดาวน์โหลด Windows XP SP3 ได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ดังนี้
• การดาวน์โหลด Windows XP Service Pack 3 ISO-9660 CD Image http://thaiwinadmin.blogspot.com/2008/05/kb2008206.html
• การดาวน์โหลด Windows XP Service Pack 3 Network Installation http://thaiwinadmin.blogspot.com/2008/05/kb2008205.html
• หรือที่เว็บไซต์ How to obtain the latest Windows XP service pack http://support.microsoft.com/kb/322389/
วิธีที่ 3: ปิดโปรแกรม antivirus, antispyware และ third-party firewall ชั่วคราว
เนื่องจากการติดตั้ง Windows XP SP3 จะไม่ประสบความสำเร็จถ้าหากมีโปรแกรมแบบ third-party ทำการเปิดหรือล็อคไฟล์ที่มีความจำเป็นต่อการติดตั้ง Windows XP SP3
ข้อควรระวัง
การปิดโปรแกรม antivirus, antispyware และ third-party firewall นั้น ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์หรือผู้ปนะสงค์ร้ายได้ ดังนั้นแนะนำให้ใช้วิธีการนี้ในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
1. ปิดโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่
2. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
3. รอจนการรีสตาร์ทแล้วเสร็จ จากนั้นทำการล็อกออนด้วยแอคเคาต์ Administrator
4. ทำการปิดโปรแกรม Anti-virus, Anti-spyware และ Third-party firewall
5. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 ตาม วิธีที่ 1 หรือทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์ ตามวิธีการใน วิธีที่ 2
6. หลังจากทำการติดตั้งแล้วเสร็จให้ทำการเปิดใช้งานโปรแกรม Anti-virus, Anti-spyware และ Third-party firewall
วิธีที่ 4: ทำการสตาร์ทเซอร์วิส Background Intelligent Transfer Service (BITS)
ทำการสตาร์ทเซอร์วิส Background Intelligent Transfer Service (BITS) ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run จากนั้นพิมพ์ services.msc ในช่อง Open จากนั้นคลิก OK
2. คลิกขวาที่ Background Intelligent Transfer Service จากนั้นคลิก Properties
3. บนแท็บ General ในช่อง Startup type ให้เลือกเป็น Automatic ในช่อง Startup type จากนั้นคลิก Apply
4. ในส่วน "Service status" ของไดอะล็อกบ็อกซ properties ให้ตรวจสอบว่าเซอร์วิส BITS มีสถานะเป็น started ถ้าหากสถานะเป็น Stop ให้คลิก Start
5. คลิก Apply จากนั้นคลิก OK
6. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 ตาม Method 1 หรือทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3 จากเว็บไซต์ศูนย์ดาวน์โหลดของไมโครซอฟท์ ตามวิธีการใน วิธีที่ 2
วิธีที่ 5: เคลียร์โฟลเดอร์ Software Distribution และทำการดาวน์โหลด Windows XP SP3
1. ทำการล็อกออนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยแอคเคาต์ Administrator หรือแอคเคาต์ที่มีสิทธิ์ระดับแอดมินเพอร์มิสชัน
2. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ services.msc ในช่อง Open จากนั้นคลิก OK
3. คลิกขวาที่ Automatic Update จากนั้นคลิก Stop
4. คลิก Start คลิก Run จากนั้นให้พิมพ์คำสั่งตามด้านล่างในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK
%windir%\SoftwareDistribution
5. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Download จากนั้นคลิก Rename
6. พิมพ์ Download.old เสร็จแล้วกด Enter
7. ปิดหน้าต่าง Windows Explorer
8. ในหน้าต่างคอนโซล Services ให้คลิกขวาที่ Automatic Update service จากนั้นคลิก Start
9. ปิดหน้าต่างคอนโซล Services
10. ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และใช้ Internet Explorer ไปที่เว็บไซต์ ้http://windowsupdate.microsoft.com
11. จากนั้นคลิก Express Install (Recommended) ถ้าหากคอมพิวเตอร์ตรงตามเงื่อนไขสำหรับการติดตั้ง Windows XP SP3 ระบบจะทำการเลือกติดตั้ง Windows XP SP3 โดยอัตโนมัติ
12. คลิก Install
13. อ่านและยอมรับเงื่อนไข End User License Agreement (EULA) จากนั้นทำตามคำสั่งจนการติดตั้งแล้วเสร็จ
วิธีการเหล่านี้สามารถใช้ได้กับ
• Microsoft Windows XP Service Pack 3 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows XP Professional และ Microsoft Windows XP Home Edition
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• How to troubleshoot an unsuccessful installation of Windows XP SP3
Troubleshoot Windows XP Service Pack 3 SP3 Installation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การรีมูฟการรองรับอุปกรณ์ Bluetooth ใน Windows XP SP2
การรีมูฟการรองรับอุปกรณ์ Bluetooth ใน Windows XP SP2
สำหรับ Windows XP โดยดีฟอลท์เมื่อทำการติดตั้ง SP2 นั้น ระบบจะทำการติดตั้งวอฟต์แวร์เพื่อรองรับกับอุปกรณ์บลูทูธโดยอัตโนมัติ จากนั้นถ้าหากมีการตรวจพบอุปกรณ์บลูทูธ Device Manager จะทำการติดตั้งไดร์ฟเวอร์สำหรับอุปดรณ์บลูทูธโดยอัตโนมัติ สำหรับยูสเซอรืที่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์เกี่ยวกับบลูทูธสามารถทำการรีมูฟ ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ sysdm.cpl ในช่อง Run จากนั้นคลิก OK
2. คลิกแท็บ Hardware
3. คลิก Device Manager
4. ขยาย Bluetooth Radios
5. คลิกขวาที่รายการอุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้ Bluetooth Radios จากนั้นคลิก Uninstall แล้วคลิก OK
6. ปิดหน้าต่าง Device Manager จากนั้นคลิก OK
7. ในหน้าต่าง Windows Explorer ให้เปิดโฟลเดอร์ C:\Windows\Inf
8. คลิกขวาที่ไฟล์ Bth.inf เลือก Rename พิมพ์ Bth.inf.old เสร็จแล้วกด Enter
9. คลิกขวาที่ไฟล์ Bth.pnf เลือก Rename พิมพ์ Bth.pnf.old เสร็จแล้วกด Enter
10. ทำการรีสตาร์ท Windows XP SP2
วิธีการนี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้วินโดวส์โหลด Microsoft Bluetooth Stack อย่างไรก็ตามวิธีการนี้จะไม่ป้องกันวินโดวส์ไม่ให้โหลดหรือติดตั้ง Bluetooth stacks แบบ 3rd-party
Keywords: Remove Bluetooth wireless device support in Windows XP Service Pack 2 SP2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
สำหรับ Windows XP โดยดีฟอลท์เมื่อทำการติดตั้ง SP2 นั้น ระบบจะทำการติดตั้งวอฟต์แวร์เพื่อรองรับกับอุปกรณ์บลูทูธโดยอัตโนมัติ จากนั้นถ้าหากมีการตรวจพบอุปกรณ์บลูทูธ Device Manager จะทำการติดตั้งไดร์ฟเวอร์สำหรับอุปดรณ์บลูทูธโดยอัตโนมัติ สำหรับยูสเซอรืที่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์เกี่ยวกับบลูทูธสามารถทำการรีมูฟ ตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ sysdm.cpl ในช่อง Run จากนั้นคลิก OK
2. คลิกแท็บ Hardware
3. คลิก Device Manager
4. ขยาย Bluetooth Radios
5. คลิกขวาที่รายการอุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้ Bluetooth Radios จากนั้นคลิก Uninstall แล้วคลิก OK
6. ปิดหน้าต่าง Device Manager จากนั้นคลิก OK
7. ในหน้าต่าง Windows Explorer ให้เปิดโฟลเดอร์ C:\Windows\Inf
8. คลิกขวาที่ไฟล์ Bth.inf เลือก Rename พิมพ์ Bth.inf.old เสร็จแล้วกด Enter
9. คลิกขวาที่ไฟล์ Bth.pnf เลือก Rename พิมพ์ Bth.pnf.old เสร็จแล้วกด Enter
10. ทำการรีสตาร์ท Windows XP SP2
วิธีการนี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้วินโดวส์โหลด Microsoft Bluetooth Stack อย่างไรก็ตามวิธีการนี้จะไม่ป้องกันวินโดวส์ไม่ให้โหลดหรือติดตั้ง Bluetooth stacks แบบ 3rd-party
Keywords: Remove Bluetooth wireless device support in Windows XP Service Pack 2 SP2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ปัญหาการเลิกการติดตั้ง IE8 บน XP SP3
ปัญหาไม่สามารถยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 บน Windows XP SP3
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP ที่ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 เวอร์ชัน Beta 2 ซึ่งติดตั้ง Service Pack 3 หลังการติดตั้ง Internet Explorer 8 เวอร์ชัน Beta 1 จะประสบกับปัญหาไม่สามารถยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ซึ่งผู้ใช้ที่ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ โปรแกรมจะแสดงไดอะล็อกบ็อกซ์แจ้งเตือน ดังนี้
"If you continue, XP SP3 and IE8 Beta 2 will become permanent, you will still be able to upgrade to later IE8 builds as they become available, but you won't be able to uninstall them."
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสถานกาณ์ที่เป็นปัญหานี้ ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ใช้ Windows XP ที่ต้องการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1. ยกเลิกการติดตั้ง Windows XP SP3
2. ยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1
3. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 อีกครั้ง
4. ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Internet Explorer 8
Keywords: Internet Explorer 8 IE8 IE8.0 IE v8 IE v8.0
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP ที่ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 เวอร์ชัน Beta 2 ซึ่งติดตั้ง Service Pack 3 หลังการติดตั้ง Internet Explorer 8 เวอร์ชัน Beta 1 จะประสบกับปัญหาไม่สามารถยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ซึ่งผู้ใช้ที่ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ โปรแกรมจะแสดงไดอะล็อกบ็อกซ์แจ้งเตือน ดังนี้
"If you continue, XP SP3 and IE8 Beta 2 will become permanent, you will still be able to upgrade to later IE8 builds as they become available, but you won't be able to uninstall them."
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสถานกาณ์ที่เป็นปัญหานี้ ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ใช้ Windows XP ที่ต้องการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1. ยกเลิกการติดตั้ง Windows XP SP3
2. ยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1
3. ทำการติดตั้ง Windows XP SP3 อีกครั้ง
4. ทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Internet Explorer 8
Keywords: Internet Explorer 8 IE8 IE8.0 IE v8 IE v8.0
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Upgrade to Internet Explorer 8 Beta 2
การอัพเกรด Internet Explorer 8 Beta 2
การอัพเกรด Internet Explorer 8 Beta 2 นั้นมีความต้องการระบบเหมือนกันกับ Internet Explorer 8 Beta 1 ดังนี้
ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น มีความต้องการระบบดังนี้
• คอมพิวเตอร์/โปรเซสเซอร์
คอมพิวเตอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ความเร็ว 233 MHz หรือสูงกว่า (แนะนำให้ใช้โปรเซสเซอร์ Pentium)
• ระบบปฏิบัติการ
- Windows Vista 32-bit
- Windows Vista 64-bit
- Windows XP 32-bit with Service Pack 2 or higher
- Windows Server 2003 32-bit
- Windows Server 2003 64-bit
- Windows Server 2008 32-bit
- Windows Server 2008 64-bit
• หน่วยความจำ
- Windows Vista - 512MB
- Windows Vista Service Pack (SP1) - 512MB
- Windows XP Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows XP Service Pack 3 (SP3) - 64 MB
- Windows XP Professional x64 Edition - 128 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 ia64 - 128 MB
- Windows Server 2008 – 512MB
• ไดร์ฟ
ไดร์ฟ CD-ROM (สำหรับการติดตั้งด้วย CD-ROM) อย่างไรก็ตาม Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น จะมีเฉพาะเวอร์ชันสำหรับดาวน์โฟลดเท่านั้น
• ดิสเพลย์
มอนิเตอร์ระดับ Super VGA (800 x 600) หรือสูงกว่า สามารถแสดงผลได้อย่างน้อย 256 สี
• อุปกรณ์ประกอบ
โมเด็มหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเม้าส์
Windows XP หรือ Windows Server 2003
สำหรับ Windows XP หรือ Windows Server 2003 ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ต้องดำเนินการดังนี้ก่อน
• ยกเลิกการติดตั้ง IE8 Beta 1
หากมีการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 อยู่บนระบบ Internet Explorer 8 Beta 2 จะทำการยกเลิกการติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้จะมีการรีสตาร์ทระบบ 2 ครั้ง
• ติดตั้งอัพเดทที่จำเป็นสำหรับ IE8 Beta 2
บนระบบคอมพิวเตอร์แบบ multi-core XPSP2 x86 จำเป็นต้องทำการติดตั้งอัพเดทหมายเลข KB932823 หรือ KB946501
เฉพาะระบบ Windows XP Service Pack 3(SP3)
สำหรับยูสเซอร์ที่ใช้ Windows XP Service Pack 3(SP3) ที่ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 ก่อนหน้าติดตั้ง SP3 ให้ทำการยกเลิกการติดตั้ง SP3 และ Internet Explorer 8 Beta 1 แบบแมนนวล ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ตามขั้นตอนดังนี้
1. Uninstall Windows XP SP3
2. Uninstall Internet Explorer 8 Beta 1
3. Re- install Windows XP SP3
4. Install Internet Explorer 8 Beta 2
Windows Vista หรือ Windows Server 2008
สำหรับ Windows Vista หรือ Windows Server 2008 ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ต้องดำเนินการดังนี้ก่อน
• ยกเลิกการติดตั้ง IE8 Beta 1
หากมีการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 อยู่บนระบบ จะต้องทำการยกเลิกการติดตั้งแบบแมนนวลก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Control Panel แล้วคลิก Programs
2. คลิก Programs and Features แล้วคลิก View installed updates
3. รอจนวินโดวส์แสดงรายการอัพเดทที่ติดตั้งบนระบบ จากนั้นเลือก Windows Internet Explorer 8
4. คลิก Uninstall this update
5. ทำการรีสตาร์ทระบบหนี่งครั้ง
• ติดตั้งอัพเดทที่จำเป็นสำหรับ IE8 Beta 2
ทำการติดตั้งอัพเดทจำนวน 3 ตัว ดังนี้
-อัพเดทหมายเลข KB937287
-อัพเดทหมายเลข KB943302
-อัพเดทหมายเลข KB957055
การยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
การยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Control Panel แล้วคลิก Programs
2. คลิก Programs and Features แล้วคลิก View installed updates
3. รอจนวินโดวส์แสดงรายการอัพเดทที่ติดตั้งบนระบบ จากนั้นเลือก Windows Internet Explorer 8
4. คลิก Uninstall this update
5. ทำการรีสตาร์ทระบบหนี่งครั้ง
6. ระบบจะกลับไปเป็น Internet Explorer 7 + อัพเดทของ Internet Explorer 7
หมายเหตุ: เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ทำการอัพเดทความปลอดภัยหลังยกเลิกการติดตั้ง โดยไปที่เว็บไซต์ http://windowsupdate.microsoft.com
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• http://blogs.msdn.com/ie/archive/2008/08/27/upgrading-to-internet-explorer-8-beta-2.aspx
• บทความเกี่ยวกับ Internet Explorer 8
Keywords: Internet Explorer 8 Beta 2 IE8 Beta 2 IE 8 Beta 2 IE 8.0 Beta 2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การอัพเกรด Internet Explorer 8 Beta 2 นั้นมีความต้องการระบบเหมือนกันกับ Internet Explorer 8 Beta 1 ดังนี้
ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น มีความต้องการระบบดังนี้
• คอมพิวเตอร์/โปรเซสเซอร์
คอมพิวเตอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ความเร็ว 233 MHz หรือสูงกว่า (แนะนำให้ใช้โปรเซสเซอร์ Pentium)
• ระบบปฏิบัติการ
- Windows Vista 32-bit
- Windows Vista 64-bit
- Windows XP 32-bit with Service Pack 2 or higher
- Windows Server 2003 32-bit
- Windows Server 2003 64-bit
- Windows Server 2008 32-bit
- Windows Server 2008 64-bit
• หน่วยความจำ
- Windows Vista - 512MB
- Windows Vista Service Pack (SP1) - 512MB
- Windows XP Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows XP Service Pack 3 (SP3) - 64 MB
- Windows XP Professional x64 Edition - 128 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 ia64 - 128 MB
- Windows Server 2008 – 512MB
• ไดร์ฟ
ไดร์ฟ CD-ROM (สำหรับการติดตั้งด้วย CD-ROM) อย่างไรก็ตาม Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น จะมีเฉพาะเวอร์ชันสำหรับดาวน์โฟลดเท่านั้น
• ดิสเพลย์
มอนิเตอร์ระดับ Super VGA (800 x 600) หรือสูงกว่า สามารถแสดงผลได้อย่างน้อย 256 สี
• อุปกรณ์ประกอบ
โมเด็มหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเม้าส์
Windows XP หรือ Windows Server 2003
สำหรับ Windows XP หรือ Windows Server 2003 ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ต้องดำเนินการดังนี้ก่อน
• ยกเลิกการติดตั้ง IE8 Beta 1
หากมีการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 อยู่บนระบบ Internet Explorer 8 Beta 2 จะทำการยกเลิกการติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้จะมีการรีสตาร์ทระบบ 2 ครั้ง
• ติดตั้งอัพเดทที่จำเป็นสำหรับ IE8 Beta 2
บนระบบคอมพิวเตอร์แบบ multi-core XPSP2 x86 จำเป็นต้องทำการติดตั้งอัพเดทหมายเลข KB932823 หรือ KB946501
เฉพาะระบบ Windows XP Service Pack 3(SP3)
สำหรับยูสเซอร์ที่ใช้ Windows XP Service Pack 3(SP3) ที่ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 ก่อนหน้าติดตั้ง SP3 ให้ทำการยกเลิกการติดตั้ง SP3 และ Internet Explorer 8 Beta 1 แบบแมนนวล ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ตามขั้นตอนดังนี้
1. Uninstall Windows XP SP3
2. Uninstall Internet Explorer 8 Beta 1
3. Re- install Windows XP SP3
4. Install Internet Explorer 8 Beta 2
Windows Vista หรือ Windows Server 2008
สำหรับ Windows Vista หรือ Windows Server 2008 ก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ต้องดำเนินการดังนี้ก่อน
• ยกเลิกการติดตั้ง IE8 Beta 1
หากมีการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 อยู่บนระบบ จะต้องทำการยกเลิกการติดตั้งแบบแมนนวลก่อนทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 ตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Control Panel แล้วคลิก Programs
2. คลิก Programs and Features แล้วคลิก View installed updates
3. รอจนวินโดวส์แสดงรายการอัพเดทที่ติดตั้งบนระบบ จากนั้นเลือก Windows Internet Explorer 8
4. คลิก Uninstall this update
5. ทำการรีสตาร์ทระบบหนี่งครั้ง
• ติดตั้งอัพเดทที่จำเป็นสำหรับ IE8 Beta 2
ทำการติดตั้งอัพเดทจำนวน 3 ตัว ดังนี้
-อัพเดทหมายเลข KB937287
-อัพเดทหมายเลข KB943302
-อัพเดทหมายเลข KB957055
การยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
การยกเลิกการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Control Panel แล้วคลิก Programs
2. คลิก Programs and Features แล้วคลิก View installed updates
3. รอจนวินโดวส์แสดงรายการอัพเดทที่ติดตั้งบนระบบ จากนั้นเลือก Windows Internet Explorer 8
4. คลิก Uninstall this update
5. ทำการรีสตาร์ทระบบหนี่งครั้ง
6. ระบบจะกลับไปเป็น Internet Explorer 7 + อัพเดทของ Internet Explorer 7
หมายเหตุ: เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ทำการอัพเดทความปลอดภัยหลังยกเลิกการติดตั้ง โดยไปที่เว็บไซต์ http://windowsupdate.microsoft.com
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• http://blogs.msdn.com/ie/archive/2008/08/27/upgrading-to-internet-explorer-8-beta-2.aspx
• บทความเกี่ยวกับ Internet Explorer 8
Keywords: Internet Explorer 8 Beta 2 IE8 Beta 2 IE 8 Beta 2 IE 8.0 Beta 2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Internet Explorer 8 Beta 2 - Released
ไมโครซอฟท์ออก Internet Explorer 8 Beta 2
ไมโครซอฟท์ออก Internet Explorer 8 Beta 2 ให้ผู้ใช้ทั่วไปทดลองดาวน์โหลดไปใช้งาน โดยจะมีเวอร์ชันในภาษาต่างๆ 4 ภาษา ด้วยกัน คือ English, German, Japanese และ Simplified Chinese ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ดังนี้
• Windows XP
• Windows Vista
• Windows Vista x64
• Windows Server 2003
• Windows Server 2003 x64
• Windows Server 2008
• Windows Server 2008 x64
การดาวน์โหลด
สำหรับผู้ที่สนใจทดลองใช้งาน Internet Explorer 8 Beta 2 สามารถทำการดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Internet Explorer 8: Worldwide sites
หมายเหตุ:
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP แนะนำให้ทำการติดตั้ง Service Pack 3 ก่อนทำการติดตั้งที่จะทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 เพื่อป้องกันปัญหาการถอนการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ความต้องการระบบ
Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น มีความต้องการระบบดังนี้
• คอมพิวเตอร์/โปรเซสเซอร์
คอมพิวเตอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ความเร็ว 233MHz หรือสูงกว่า (แนะนำให้ใช้โปรเซสเซอร์ Pentium)
• ระบบปฏิบัติการ
- Windows Vista 32-bit
- Windows Vista 64-bit
- Windows XP 32-bit with Service Pack 2 or higher
- Windows Server 2003 32-bit
- Windows Server 2003 64-bit
- Windows Server 2008 32-bit
- Windows Server 2008 64-bit
• หน่วยความจำ
- Windows Vista - 512MB
- Windows Vista Service Pack (SP1) - 512MB
- Windows XP Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows XP Service Pack 3 (SP3) - 64 MB
- Windows XP Professional x64 Edition - 128 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 ia64 - 128 MB
- Windows Server 2008 – 512MB
• ไดร์ฟ
ไดร์ฟ CD-ROM (สำหรับการติดตั้งด้วย CD-ROM) อย่างไรก็ตาม Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น จะมีเฉพาะเวอร์ชันสำหรับดาวน์โฟลดเท่านั้น
• ดิสเพลย์
มอนิเตอร์ระดับ Super VGA (800 x 600) หรือสูงกว่า สามารถแสดงผลได้อย่างน้อย 256 สี
• อุปกรณ์ประกอบ
โมเด็มหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเม้าส์
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Internet Explorer 8: Home page
• Internet Explorer 8: Worldwide sites
Keywords: Internet Explorer 8 Beta 2 IE8
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไมโครซอฟท์ออก Internet Explorer 8 Beta 2 ให้ผู้ใช้ทั่วไปทดลองดาวน์โหลดไปใช้งาน โดยจะมีเวอร์ชันในภาษาต่างๆ 4 ภาษา ด้วยกัน คือ English, German, Japanese และ Simplified Chinese ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ดังนี้
• Windows XP
• Windows Vista
• Windows Vista x64
• Windows Server 2003
• Windows Server 2003 x64
• Windows Server 2008
• Windows Server 2008 x64
การดาวน์โหลด
สำหรับผู้ที่สนใจทดลองใช้งาน Internet Explorer 8 Beta 2 สามารถทำการดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Internet Explorer 8: Worldwide sites
หมายเหตุ:
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP แนะนำให้ทำการติดตั้ง Service Pack 3 ก่อนทำการติดตั้งที่จะทำการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2 เพื่อป้องกันปัญหาการถอนการติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 2
ความต้องการระบบ
Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น มีความต้องการระบบดังนี้
• คอมพิวเตอร์/โปรเซสเซอร์
คอมพิวเตอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ความเร็ว 233MHz หรือสูงกว่า (แนะนำให้ใช้โปรเซสเซอร์ Pentium)
• ระบบปฏิบัติการ
- Windows Vista 32-bit
- Windows Vista 64-bit
- Windows XP 32-bit with Service Pack 2 or higher
- Windows Server 2003 32-bit
- Windows Server 2003 64-bit
- Windows Server 2008 32-bit
- Windows Server 2008 64-bit
• หน่วยความจำ
- Windows Vista - 512MB
- Windows Vista Service Pack (SP1) - 512MB
- Windows XP Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows XP Service Pack 3 (SP3) - 64 MB
- Windows XP Professional x64 Edition - 128 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 (SP2) - 64 MB
- Windows Server 2003 Service Pack 2 ia64 - 128 MB
- Windows Server 2008 – 512MB
• ไดร์ฟ
ไดร์ฟ CD-ROM (สำหรับการติดตั้งด้วย CD-ROM) อย่างไรก็ตาม Internet Explorer 8 Beta 2 นั้น จะมีเฉพาะเวอร์ชันสำหรับดาวน์โฟลดเท่านั้น
• ดิสเพลย์
มอนิเตอร์ระดับ Super VGA (800 x 600) หรือสูงกว่า สามารถแสดงผลได้อย่างน้อย 256 สี
• อุปกรณ์ประกอบ
โมเด็มหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเม้าส์
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Internet Explorer 8: Home page
• Internet Explorer 8: Worldwide sites
Keywords: Internet Explorer 8 Beta 2 IE8
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การเปิดใช้งาน DEP ใน Internet Explorer 7
การเปิดใช้งาน DEP ใน Internet Explorer 7
Data Execution Prevention (DEP) นั้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการโจมตีของมัลแวร์ผ่านทางช่องโหว่ของโปรแกรม โดยการป้องกันไม่ให้โปรแกรมทำการรันโค้ดประสงค์ร้าย โดยการเปิดใช้งาน DEP ใน IE7 นั้น มีวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาบนชอร์ตคัท Internet Explorer 7 แล้วเลือก “Run as administrator” (หากไม่ทำการรันด้วยยูสเซอร์ระดับแอดมิน จะไม่สามารถคอนฟิกได้)
2. ใน Internet Explorer 7 ให้คลิกเมนู Tools แล้วเลือก Internet Options
3. บนแท็บ Advanced ให้เลื่อนลงไปจนเห็นอ็อปชัน Enable memory protection to help mitigate online attacks แล้วเลือกเช็คบ็อกซ์ที่อยู่หน้า
4. เสร็จแล้วคลิก Apply คลิก OK จากนั้นทำการรีสตาร์ท Internet Explorer เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
Keywords: Data Execution Prevention DEP
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Data Execution Prevention (DEP) นั้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการโจมตีของมัลแวร์ผ่านทางช่องโหว่ของโปรแกรม โดยการป้องกันไม่ให้โปรแกรมทำการรันโค้ดประสงค์ร้าย โดยการเปิดใช้งาน DEP ใน IE7 นั้น มีวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาบนชอร์ตคัท Internet Explorer 7 แล้วเลือก “Run as administrator” (หากไม่ทำการรันด้วยยูสเซอร์ระดับแอดมิน จะไม่สามารถคอนฟิกได้)
2. ใน Internet Explorer 7 ให้คลิกเมนู Tools แล้วเลือก Internet Options
3. บนแท็บ Advanced ให้เลื่อนลงไปจนเห็นอ็อปชัน Enable memory protection to help mitigate online attacks แล้วเลือกเช็คบ็อกซ์ที่อยู่หน้า
4. เสร็จแล้วคลิก Apply คลิก OK จากนั้นทำการรีสตาร์ท Internet Explorer เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
Keywords: Data Execution Prevention DEP
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ชอร์ตคัทคำสั่ง Shutdown/Restart/Lock Computer
ชอร์ตคัทคำสั่ง Shutdown/Restart/Lock Computer
บนวินโดวส์ XP และ Vista นั้น ยูสเซอร์สามารถทำการสร้างชอร์ตคัทคำสั่ง Shutdown หรือ Restart เพื่อใช้งานเองได้ตามวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาบริเวณพื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อปเลือก New แล้วเลือก Shortcut
2. ในช่องที่ชื่อ Type the location of the item ให้พิมพ์คำสั่งตามด้านล่าง
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการชัตดาวน์เครื่อง ให้พิมพ์ Shutdown.exe -s -t 00
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการรีสตาร์ทเครื่องให้พิมพ์ Shutdown.exe -r -t 00
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการล็อกวินโดวส์ให้พิมพ์ Rundll32.exe User32.dll,LockWorkStation
3. เสร็จแล้วให้คลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป
4. ให้ใส่ชื่อชอร์ตคัทในช่อง Type a name for the shortcut (ตัวอย่าง: Shut Down หรือ Restart หรือ Lock Workstation ตามความเหมาะสม)
5. คลิก Finish เพื่อจบการทำงาน
หมายเหตุ:
หากไม่ชอบรูปไอคอนที่วินโดวส์กำหนดให้ชอร์ตคัทโดยอัตโนมัติ สามารถทำการเปลี่ยนได้โดยการคลิกขวาที่ชอร์ตคัท เลือก Properties เลือก Change Icon จากนั้นเลือกไอคอนที่ต้องการ
Keywords: Shortcut Shutdown Restart Lock Computer
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
บนวินโดวส์ XP และ Vista นั้น ยูสเซอร์สามารถทำการสร้างชอร์ตคัทคำสั่ง Shutdown หรือ Restart เพื่อใช้งานเองได้ตามวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาบริเวณพื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อปเลือก New แล้วเลือก Shortcut
2. ในช่องที่ชื่อ Type the location of the item ให้พิมพ์คำสั่งตามด้านล่าง
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการชัตดาวน์เครื่อง ให้พิมพ์ Shutdown.exe -s -t 00
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการรีสตาร์ทเครื่องให้พิมพ์ Shutdown.exe -r -t 00
• หากต้องการชอร์ตคัทสำหรับการล็อกวินโดวส์ให้พิมพ์ Rundll32.exe User32.dll,LockWorkStation
3. เสร็จแล้วให้คลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป
4. ให้ใส่ชื่อชอร์ตคัทในช่อง Type a name for the shortcut (ตัวอย่าง: Shut Down หรือ Restart หรือ Lock Workstation ตามความเหมาะสม)
5. คลิก Finish เพื่อจบการทำงาน
หมายเหตุ:
หากไม่ชอบรูปไอคอนที่วินโดวส์กำหนดให้ชอร์ตคัทโดยอัตโนมัติ สามารถทำการเปลี่ยนได้โดยการคลิกขวาที่ชอร์ตคัท เลือก Properties เลือก Change Icon จากนั้นเลือกไอคอนที่ต้องการ
Keywords: Shortcut Shutdown Restart Lock Computer
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Thursday, August 28, 2008
CCleaner v2.11.636
CCleaner 2.11.636
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา Piriform Ltd ซึ่งเป็นผู้พัฒนา โปรแกรม CCleaner ได้ออก CCleaner เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ v2.11.636 โดยได้ทำการปรับปรุงและยังแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ดังนี้
มีอะไรใหม่ใน CCleaner 2.11.636
- Optimized startup and closing of application.
- Improved Registry cleaning on 64-bit OS.
- Improved memory usage on Windows Vista.
- Added System Tray icon status.
- Internal refactoring of code for efficiency.
- Improved Uninstall Tool accuracy with MSI installers.
- Fixed bug in Uninstall Tool on 64-bit OS.
- Fixed bug in INI file folder recursion.
- Fixed bug in INI file OS detection.
- Added Live Messenger cleaning for .SQM files.
- Added Vietnamese translation.
- Minor tweaks and improvements.
การติดตั้งโปรแกรม
สำหรับท่านที่สนใจใช้งาน สามารถทำการดาวน์โหลด CCleaner 2.11.636 ได้จากเว็บไซต์ CCleaner หรือจากเว็บไซต์ Filehippo ซึ่งไฟล์จะมีขนาดประมาณ 2.860 KB
สำหรับรายละเอียดวิธีการใช้งานโปรแกรม CCleaner สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน CCleaner Step-by-Step
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• CCleaner ที่เว็บไซต์ http://www.ccleaner.com
Keywords: CCleaner 2.11.636
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา Piriform Ltd ซึ่งเป็นผู้พัฒนา โปรแกรม CCleaner ได้ออก CCleaner เวอร์ชันใหม่ล่าสุด คือ v2.11.636 โดยได้ทำการปรับปรุงและยังแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ดังนี้
มีอะไรใหม่ใน CCleaner 2.11.636
- Optimized startup and closing of application.
- Improved Registry cleaning on 64-bit OS.
- Improved memory usage on Windows Vista.
- Added System Tray icon status.
- Internal refactoring of code for efficiency.
- Improved Uninstall Tool accuracy with MSI installers.
- Fixed bug in Uninstall Tool on 64-bit OS.
- Fixed bug in INI file folder recursion.
- Fixed bug in INI file OS detection.
- Added Live Messenger cleaning for .SQM files.
- Added Vietnamese translation.
- Minor tweaks and improvements.
การติดตั้งโปรแกรม
สำหรับท่านที่สนใจใช้งาน สามารถทำการดาวน์โหลด CCleaner 2.11.636 ได้จากเว็บไซต์ CCleaner หรือจากเว็บไซต์ Filehippo ซึ่งไฟล์จะมีขนาดประมาณ 2.860 KB
สำหรับรายละเอียดวิธีการใช้งานโปรแกรม CCleaner สามารถอ่านได้จาก การใช้งาน CCleaner Step-by-Step
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• CCleaner ที่เว็บไซต์ http://www.ccleaner.com
Keywords: CCleaner 2.11.636
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Wednesday, August 27, 2008
Microsoft กับนโยบายเกี่ยวกับ Virtualization
มีการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญว่า Microsoft จะเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับ Virtualization เพื่อกำจัดข้อจำกัดต่างๆ เนื่องจากในปัจจุบันนั้น การคิดไลเชนส์ซอฟต์แวร์ที่รันบนเวอร์ชวลแมชชีนของไมโครซอฟท์จะคิดอยู่บนพื้นฐานของฟิสิคอลเซิร์ฟเวอร์
ในปัจจุบันนั้น ไมโครซอฟท์จะไม่อนุญาตให้ยูสเซอร์ทำการทรานส์เฟอร์ไลเชนส์มากกว่า 1 ครั้งใน 90 วัน ทำให้การปรับเปลี่ยนในระยะเวลาก่อน 90 วัน ไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดหวังว่าไมโครซอฟท์จะกำจัดข้อจำกัดอันนี้ออกจากนโยบาย เกี่ยวกับ Virtualization ฉบับใหม่ อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ Microsoft to unveil new licensing policies for virtual machines
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• Microsoft to unveil new licensing policies for virtual machines
• Microsoft relaxes virtual-machine rules
Keywords: Virtualization License
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ในปัจจุบันนั้น ไมโครซอฟท์จะไม่อนุญาตให้ยูสเซอร์ทำการทรานส์เฟอร์ไลเชนส์มากกว่า 1 ครั้งใน 90 วัน ทำให้การปรับเปลี่ยนในระยะเวลาก่อน 90 วัน ไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดหวังว่าไมโครซอฟท์จะกำจัดข้อจำกัดอันนี้ออกจากนโยบาย เกี่ยวกับ Virtualization ฉบับใหม่ อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ Microsoft to unveil new licensing policies for virtual machines
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• Microsoft to unveil new licensing policies for virtual machines
• Microsoft relaxes virtual-machine rules
Keywords: Virtualization License
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Windows Small Business Server 2008 available through OEM
ไมโครซอฟท์ส่งมอบ Windows Small Business Server 2008 (SBS2008) ให้กับ OEM
เว็บไซต์ mcpmag.com รายงานว่า ไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบระบบปฏิบัติการ Windows Small Business Server 2008 (SBS2008) ให้กับ Original Equipment Manufacturer (OEM) แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ได้ประกาศบนเว็บไซต์จะวางจำหน่าย Business Server 2008 เต็มรูปแบบในวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
รุ่นของ Windows Small Business Server 2008
Windows Small Business Server 2008 นั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น (Edition) คือ Standard และ Premium โดยมีรายละเอียดดังนี้
• Windows Small Business Server 2008 Standard จะประกอบด้วยคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
- Windows Server 2008 Standard Technologies
- Microsoft Sharepoint Services 3.0
- Microsoft Windows Server Update Services 3.0
- Microsoft Exchange Server 2007 Standard
- Microsoft Forefront Security for Exchange Server
- Microsoft Live OneCare for Server
- Integration with Office Live Small Business
• Windows Small Business Server 2008 Premium
- ในรุ่น Premium นั้น จะรวมเซอร์วิสทั้งหมดจาก Windows Small Business Server 2008 Standard
- Windows Server 2008 Standard Technologies for SBS Premium
- Microsoft SQL Server 2008 Standard for Small Business
ทั้งนี้ Windows Small Business Server 2008 ทั้งสองรุ่นนั้นผู้ใช้สามารถเลือกไลเซนส์แยกเฉพาะแต่ละผลิตภัณฑ์ หรือเลือกไลเซนส์แบบครอบคลุมทุกๆ ผลิตภัณฑ์ก็ได้
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Small Business Server 2008 Hits Metal
Keywords: Windows Small Business Server 2008 SBS2008
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เว็บไซต์ mcpmag.com รายงานว่า ไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบระบบปฏิบัติการ Windows Small Business Server 2008 (SBS2008) ให้กับ Original Equipment Manufacturer (OEM) แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ได้ประกาศบนเว็บไซต์จะวางจำหน่าย Business Server 2008 เต็มรูปแบบในวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
รุ่นของ Windows Small Business Server 2008
Windows Small Business Server 2008 นั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น (Edition) คือ Standard และ Premium โดยมีรายละเอียดดังนี้
• Windows Small Business Server 2008 Standard จะประกอบด้วยคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
- Windows Server 2008 Standard Technologies
- Microsoft Sharepoint Services 3.0
- Microsoft Windows Server Update Services 3.0
- Microsoft Exchange Server 2007 Standard
- Microsoft Forefront Security for Exchange Server
- Microsoft Live OneCare for Server
- Integration with Office Live Small Business
• Windows Small Business Server 2008 Premium
- ในรุ่น Premium นั้น จะรวมเซอร์วิสทั้งหมดจาก Windows Small Business Server 2008 Standard
- Windows Server 2008 Standard Technologies for SBS Premium
- Microsoft SQL Server 2008 Standard for Small Business
ทั้งนี้ Windows Small Business Server 2008 ทั้งสองรุ่นนั้นผู้ใช้สามารถเลือกไลเซนส์แยกเฉพาะแต่ละผลิตภัณฑ์ หรือเลือกไลเซนส์แบบครอบคลุมทุกๆ ผลิตภัณฑ์ก็ได้
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Small Business Server 2008 Hits Metal
Keywords: Windows Small Business Server 2008 SBS2008
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Re-Releases (MS07-050)
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Re-Releases
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-050 ซึ่งเป็นการแพตซ์ช่องโหว่ความปลอดภัย Vector Markup Language (VML) ของ Internet Explorer เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS07-050: Vulnerability in Vector Markup Language Could Allow Remote Code Execution (938127)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-050.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Internet Explorer 7 บน Windows XP Service Pack 3 เข้าเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 สิงหาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 26 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- IE 5.01 SP4 และ IE6 SP1 บน Microsoft Windows 2000 SP4
- IE6 และ IE7 บน Windows XP SP2
- IE6 บน Windows XP Professional x64 Edition
- IE6 บน Windows XP Professional x64 Edition SP2
- IE7 บน Windows XP SP3
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 SP1
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 SP2
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 x64 Edition
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 x64 Edition SP2
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 with SP1 for Itanium-based
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 with SP2 for Itanium-based
- IE7 บน Windows Vista
- IE7 บน Windows Vista x64 Edition
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-050 ซึ่งเป็นการแพตซ์ช่องโหว่ความปลอดภัย Vector Markup Language (VML) ของ Internet Explorer เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS07-050: Vulnerability in Vector Markup Language Could Allow Remote Code Execution (938127)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-050.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Internet Explorer 7 บน Windows XP Service Pack 3 เข้าเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 สิงหาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 26 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- IE 5.01 SP4 และ IE6 SP1 บน Microsoft Windows 2000 SP4
- IE6 และ IE7 บน Windows XP SP2
- IE6 บน Windows XP Professional x64 Edition
- IE6 บน Windows XP Professional x64 Edition SP2
- IE7 บน Windows XP SP3
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 SP1
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 SP2
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 x64 Edition
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 x64 Edition SP2
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 with SP1 for Itanium-based
- IE6 และ IE7 บน Windows Server 2003 with SP2 for Itanium-based
- IE7 บน Windows Vista
- IE7 บน Windows Vista x64 Edition
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การแสดง Folder ให้อยู่บนสุดของ Start menu
การแสดง Folder ให้อยู่บนสุดของ Start menu
ในวินโดวสวิสต้านั้น ยูสเซอร์สามารถกำหนดให้โปรแกรมโปรดหรือโปรแกรมที่ใช้งานบ่อยๆ ให้แสดงอยู่บนสุดของ Start menu เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานได้ ซึ่งนอกจากกำหนดให้โปรแกรมอยู่บนสุดของ Start menu แล้ว ยังสามารถกำหนดให้ Folder ที่ใช้งานบ่อย แสดงอยู่บนสุดของ Start menu ได้อีกด้วย (วิธีการนี้ต้องมีการแก้ไขรีจีสทรี ดังนั้นก่อนทำการแก้ไขให้ทำการสำรองให้เรียบร้อยก่อน)
1. เปิดโปรแกรม Registry editor โดยการคลิก Start พิมพ์ regedit เสร็จแล้วกด Enter
2. ในหน้าต่างโปรแกรมหน้าต่าง Registry editor ให้ท่องไปยังคีย์ HKEY_CLASSES_ROOT\Folder\shellex\ContextMenuHandlers
3. คลิกขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก New จากนั้นคลิก Key
4. ตั้งชื่อ Key ที่สร้างใหม่ในขั้นตอนที่ 3 เป็น {a2a9545d-a0c2-42b4-9708-a0b2badd77c8}
5. ไม่ต้องกำหนดค่าใดๆ ให้กับรีจีสทรีคีย์ที่สร้างขึ้น เสร็จแเล้วปิดโปรแกรม Registry editor
จากนั้นทดลองใช้งานโดยการคลิกขวาที่ folder พร้อมกับกดปุ่ม Shift ค้าง ไว้ จากนั้นเลือกคำสั่ง Pin to Start Menu จาก context menu
หมายเหตุ:
การยกเลิก ทำได้โดยทำการลบรีจีสทรีคีย์ที่สร้าง
Keywords: Windows Vista Start menu
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ในวินโดวสวิสต้านั้น ยูสเซอร์สามารถกำหนดให้โปรแกรมโปรดหรือโปรแกรมที่ใช้งานบ่อยๆ ให้แสดงอยู่บนสุดของ Start menu เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานได้ ซึ่งนอกจากกำหนดให้โปรแกรมอยู่บนสุดของ Start menu แล้ว ยังสามารถกำหนดให้ Folder ที่ใช้งานบ่อย แสดงอยู่บนสุดของ Start menu ได้อีกด้วย (วิธีการนี้ต้องมีการแก้ไขรีจีสทรี ดังนั้นก่อนทำการแก้ไขให้ทำการสำรองให้เรียบร้อยก่อน)
1. เปิดโปรแกรม Registry editor โดยการคลิก Start พิมพ์ regedit เสร็จแล้วกด Enter
2. ในหน้าต่างโปรแกรมหน้าต่าง Registry editor ให้ท่องไปยังคีย์ HKEY_CLASSES_ROOT\Folder\shellex\ContextMenuHandlers
3. คลิกขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก New จากนั้นคลิก Key
4. ตั้งชื่อ Key ที่สร้างใหม่ในขั้นตอนที่ 3 เป็น {a2a9545d-a0c2-42b4-9708-a0b2badd77c8}
5. ไม่ต้องกำหนดค่าใดๆ ให้กับรีจีสทรีคีย์ที่สร้างขึ้น เสร็จแเล้วปิดโปรแกรม Registry editor
จากนั้นทดลองใช้งานโดยการคลิกขวาที่ folder พร้อมกับกดปุ่ม Shift ค้าง ไว้ จากนั้นเลือกคำสั่ง Pin to Start Menu จาก context menu
หมายเหตุ:
การยกเลิก ทำได้โดยทำการลบรีจีสทรีคีย์ที่สร้าง
Keywords: Windows Vista Start menu
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Monday, August 25, 2008
Remote Desktop Client 6.1 MUI สำหรับ Windows XP
Remote Desktop Client 6.1 MUI Language Pack สำหรับ Windows XP
Remote Desktop Connection MUI Language Pack เป็นชุดโปรแกรมสำหรับผู้ใช้ Windows XP SP2 Multilingual User Interface (MUI) Pack เพื่อช่วยลดงบประมาณในด้านการจัดการ desktop ในสภาพแวดล้อมแบบ multilingual computing สำหรับการดาวน์โหลดมาใช้งานนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Remote Desktop Client 6.1 MUI Language Pack for Windows XP ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
โปรแกรม Remote Desktop Client 6.1 MUI Language Pack for Windows XP
ชื่อไฟล์: WindowsXP-KB952230-x86-ENU.exe
เวอร์ชัน: 6.1
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB952230
วันที่ออก: 6/26/2008
ขนาดของไฟล์: 3.4 MB (x86)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 9 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ
ดาวน์โหลดลิงค์: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?familyid=E35296ED-FC0C-43E4-A99D-AEC4505D7793&displaylang=en
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Remote Desktop Connection 6.1 (TWA)
• การใช้งาน Remote Desktop บน Windows XP
• การใช้งาน Windows XP Remote Desktop Web Connection
Remote Desktop Client 6.1 GUI RDC TSC MSTSC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Remote Desktop Connection MUI Language Pack เป็นชุดโปรแกรมสำหรับผู้ใช้ Windows XP SP2 Multilingual User Interface (MUI) Pack เพื่อช่วยลดงบประมาณในด้านการจัดการ desktop ในสภาพแวดล้อมแบบ multilingual computing สำหรับการดาวน์โหลดมาใช้งานนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Remote Desktop Client 6.1 MUI Language Pack for Windows XP ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
โปรแกรม Remote Desktop Client 6.1 MUI Language Pack for Windows XP
ชื่อไฟล์: WindowsXP-KB952230-x86-ENU.exe
เวอร์ชัน: 6.1
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB952230
วันที่ออก: 6/26/2008
ขนาดของไฟล์: 3.4 MB (x86)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 9 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ
ดาวน์โหลดลิงค์: http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?familyid=E35296ED-FC0C-43E4-A99D-AEC4505D7793&displaylang=en
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Remote Desktop Connection 6.1 (TWA)
• การใช้งาน Remote Desktop บน Windows XP
• การใช้งาน Windows XP Remote Desktop Web Connection
Remote Desktop Client 6.1 GUI RDC TSC MSTSC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Remote Desktop Client 6.1 สำหรับ Windows XP SP2
Remote Desktop Client 6.1 สำหรับ Windows XP SP2
Remote Desktop Client นั้นเป็นโปรแกรม ใช้ในการเชื่อมต่อไปยังเครื่อง Remote Desktop Server ซึ่งเวอร์ชันล่าสุด คือ เวอร์ชัน 6.1 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 โดยสามารถใช้ Remote Desktop Client 6.1 for Windows XP นี้เชื่อมต่อกับ Remote Desktop Server ได้ทุกเวอร์ชัน แต่ฟีเจอร์ใหม่นั้น จะมีผลกับการใช้เชื่อมต่อไปยังเครื่อง Remote Desktop Server บน Windows Vista และ Windows Server 2008 เท่านั้น
การดาวน์โหลดมาใช้งานนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Remote Desktop Client 6.1 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
รายละเอียดโปรแกรม Remote Desktop Client 6.1 for Windows XP SP2
ชื่อไฟล์: WindowsXP-KB952155-x86-ENU.exe
เวอร์ชัน: 6.1
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB952155
วันที่ออก: 6/25/2008
ขนาดของไฟล์: 1.6 MB (x86)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 4 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และอีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: Remote Desktop Client 6 1 for Windows XP SP2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• การใช้งาน Remote Desktop บน Windows XP
• การใช้งาน Windows XP Remote Desktop Web Connection
Remote Desktop Client 6.1 RDC TSC MSTSC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Remote Desktop Client นั้นเป็นโปรแกรม ใช้ในการเชื่อมต่อไปยังเครื่อง Remote Desktop Server ซึ่งเวอร์ชันล่าสุด คือ เวอร์ชัน 6.1 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 โดยสามารถใช้ Remote Desktop Client 6.1 for Windows XP นี้เชื่อมต่อกับ Remote Desktop Server ได้ทุกเวอร์ชัน แต่ฟีเจอร์ใหม่นั้น จะมีผลกับการใช้เชื่อมต่อไปยังเครื่อง Remote Desktop Server บน Windows Vista และ Windows Server 2008 เท่านั้น
การดาวน์โหลดมาใช้งานนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Remote Desktop Client 6.1 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
รายละเอียดโปรแกรม Remote Desktop Client 6.1 for Windows XP SP2
ชื่อไฟล์: WindowsXP-KB952155-x86-ENU.exe
เวอร์ชัน: 6.1
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB952155
วันที่ออก: 6/25/2008
ขนาดของไฟล์: 1.6 MB (x86)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 4 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และอีก 23 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: Remote Desktop Client 6 1 for Windows XP SP2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• การใช้งาน Remote Desktop บน Windows XP
• การใช้งาน Windows XP Remote Desktop Web Connection
Remote Desktop Client 6.1 RDC TSC MSTSC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Assessment Tool 3.5
ประเมินความปลอดภัยด้าน IT ด้วย Microsoft Security Assessment Tool v3.5
Microsoft Security Assessment Tool (MSAT) เป็นเครื่องฟรีสำหรับองค์กรหรือผู้ใช้ในการประเมินสภาพแวดล้อมของ IT security เพื่อหาจุดอ่อนหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งลำดับความสำคัญของประเด็นปัญหา รวมถึงเป็นแนวทางในการลดความเสี่ยง
สำหรับในด้านการใช้งาน MSAT นั้น สามารถใช้ได้ง่าย และเป็นช่องทางในกรเพิ่มความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมของ IT security ที่มีประสิทธิภาพต่อราคาสูง โดยจะเริ่มจากการประเมินสถานะด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน จากนั้น MSAT จะทำการมอนิเตอร์ความสามารถในการตอบสนองต่อภัยคุกคามของโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับผู้ที่สนใจนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool v3.5 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Security Assessment Tool v3.5
ชื่อไฟล์: MsatSetup.msi
เวอร์ชัน: 3.5
วันที่ออก: 6/3/2008
ขนาดของไฟล์: 12.5 MB
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 31 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และอีก 13 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: Microsoft Security Assessment Tool v3.5
Keywords: Microsoft Security Assessment Tool MSAT v3.5
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Assessment Tool (MSAT) เป็นเครื่องฟรีสำหรับองค์กรหรือผู้ใช้ในการประเมินสภาพแวดล้อมของ IT security เพื่อหาจุดอ่อนหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งลำดับความสำคัญของประเด็นปัญหา รวมถึงเป็นแนวทางในการลดความเสี่ยง
สำหรับในด้านการใช้งาน MSAT นั้น สามารถใช้ได้ง่าย และเป็นช่องทางในกรเพิ่มความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมของ IT security ที่มีประสิทธิภาพต่อราคาสูง โดยจะเริ่มจากการประเมินสถานะด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน จากนั้น MSAT จะทำการมอนิเตอร์ความสามารถในการตอบสนองต่อภัยคุกคามของโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับผู้ที่สนใจนั้น สามารถทำการดาวน์โหลด Microsoft Security Assessment Tool v3.5 ได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft ตามรายละเอียดด้านล่าง
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Security Assessment Tool v3.5
ชื่อไฟล์: MsatSetup.msi
เวอร์ชัน: 3.5
วันที่ออก: 6/3/2008
ขนาดของไฟล์: 12.5 MB
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 31 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ และอีก 13 ภาษา
ดาวน์โหลดลิงค์: Microsoft Security Assessment Tool v3.5
Keywords: Microsoft Security Assessment Tool MSAT v3.5
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Urlscan Filter v3.0
ดาวน์โหลด Microsoft Urlscan Filter v3.0
Microsoft UrlScan เป็นเครื่องมือด้านความปลอดภัยสำหรับ IIS (Internet Information Services) โดยมันจะช่วยในการจำกัดประเภทของ HTTP request ที่ IIS จะทำการโพรเซส ทำให้แอดมินสามารถทำการกำหนดประเภทของ HTTP request ที่จะให้ IIS ตอบสนองได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ IIS ทำการโพรเซส request ที่ประสงค์ร้ายหรือที่ป็นอันตรายต่อระบบได้
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Urlscan Filter v3.0
ชื่อไฟล์: UrlScan_v30_x86.msi, UrlScan_v30_x64.msi
เวอร์ชัน: 3.0
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB954462
วันที่ออก: 8/20/2008
ขนาดของไฟล์: 334 KB (x86), 394 KB (x64)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 1 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ
ดาวน์โหลดลิงค์:
• เวอร์ชัน x86: Download Microsoft Urlscan Filter v3.0 (x86)
• เวอร์ชัน x64: Download Microsoft Urlscan Filter v3.0 (x64)
ความต้องการระบบ
Microsoft Urlscan Filter v3.0 รองรับ Internet Information Services (IIS) 5.1, 6.0 หรือ 7.0 ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003, Windows Server 2008, Windows Vista และ Windows XP
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Rise in SQL injection attacks exploiting unverified user data input (KB954462)
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft UrlScan เป็นเครื่องมือด้านความปลอดภัยสำหรับ IIS (Internet Information Services) โดยมันจะช่วยในการจำกัดประเภทของ HTTP request ที่ IIS จะทำการโพรเซส ทำให้แอดมินสามารถทำการกำหนดประเภทของ HTTP request ที่จะให้ IIS ตอบสนองได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ IIS ทำการโพรเซส request ที่ประสงค์ร้ายหรือที่ป็นอันตรายต่อระบบได้
รายละเอียดโปรแกรม Microsoft Urlscan Filter v3.0
ชื่อไฟล์: UrlScan_v30_x86.msi, UrlScan_v30_x64.msi
เวอร์ชัน: 3.0
หมายเลข Knowledge Base (KB): KB954462
วันที่ออก: 8/20/2008
ขนาดของไฟล์: 334 KB (x86), 394 KB (x64)
เวลาดาวน์โหลดโดยประมาณ: 1 นาที (Dial-up 56K)
ภาษา: อังกฤษ
ดาวน์โหลดลิงค์:
• เวอร์ชัน x86: Download Microsoft Urlscan Filter v3.0 (x86)
• เวอร์ชัน x64: Download Microsoft Urlscan Filter v3.0 (x64)
ความต้องการระบบ
Microsoft Urlscan Filter v3.0 รองรับ Internet Information Services (IIS) 5.1, 6.0 หรือ 7.0 ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003, Windows Server 2008, Windows Vista และ Windows XP
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Rise in SQL injection attacks exploiting unverified user data input (KB954462)
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Sunday, August 24, 2008
VMware Server 2.0 RC2 Build 110949
VMware Server 2.0 Release Candidate 2 Build 110949
VMware (www.vmware.com) ได้เปิดให้ยูสเซอร์ทำการดาวน์โหลด VMware Server เวอร์ชัน 2.0 RC2 Build 110949 ไปทดลองใช้งาน โดยทาง Vmware กล่าวว่า ใน VMware Server 2.0 นั้น จะเป็นการรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเวอร์ชัน 1.x.x เข้ากับฟีเจอร์ใหม่หลายๆ ตัว และที่สำคัญคือ Vmware จะยังคงให้ยูสเซอร์สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกับในเวอร์ชัน 1.x.x เช่นเดิม
VMware Server 2.0 RC2 New features
ใน VMware Server 2.0 RC2 นั้นจะมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
• Volume Shadow Copy Service (VSS):
Properly backup the state of the Windows virtual machines when using the snapshot feature to maintain data integrity of the applications running inside the virtual machine.
• Virtual Machine Communication Interface (VMCI):
Support for fast and efficient communication between a virtual machine and the host operating system and between two or more virtual machines on the same host.
• Support for SCSI pass-through (generic) devices:
Allows for SCSI devices such as tape backup devices to be connected to virtual machines.
• Expand disk capacity on the fly:
Allows for adding new SCSI hard disks and controllers to a running virtual machine.
• Supportes Firefox 3:
Supportes Firefox 3 as a supported browser for the management interface.
• Remote Client Devices: Access devices such as CD-ROMs that are not physically connected to the host via VMware Remote Console
ดาวน์โหลด
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดมาทดลองใช้งานจากเว็บไซต์ VMware Server 2.0 RC2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง Mware Server 2.0 RC2
• VMWare เว็บไซต์ http://www.vmware.com/
• VMware Server 2.0 Release Notes
• ติดตั้งและใช้งาน VMWare Server>
VMware Server 2.0 Release Candidate Build 110949 RC2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
VMware (www.vmware.com) ได้เปิดให้ยูสเซอร์ทำการดาวน์โหลด VMware Server เวอร์ชัน 2.0 RC2 Build 110949 ไปทดลองใช้งาน โดยทาง Vmware กล่าวว่า ใน VMware Server 2.0 นั้น จะเป็นการรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเวอร์ชัน 1.x.x เข้ากับฟีเจอร์ใหม่หลายๆ ตัว และที่สำคัญคือ Vmware จะยังคงให้ยูสเซอร์สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกับในเวอร์ชัน 1.x.x เช่นเดิม
VMware Server 2.0 RC2 New features
ใน VMware Server 2.0 RC2 นั้นจะมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
• Volume Shadow Copy Service (VSS):
Properly backup the state of the Windows virtual machines when using the snapshot feature to maintain data integrity of the applications running inside the virtual machine.
• Virtual Machine Communication Interface (VMCI):
Support for fast and efficient communication between a virtual machine and the host operating system and between two or more virtual machines on the same host.
• Support for SCSI pass-through (generic) devices:
Allows for SCSI devices such as tape backup devices to be connected to virtual machines.
• Expand disk capacity on the fly:
Allows for adding new SCSI hard disks and controllers to a running virtual machine.
• Supportes Firefox 3:
Supportes Firefox 3 as a supported browser for the management interface.
• Remote Client Devices: Access devices such as CD-ROMs that are not physically connected to the host via VMware Remote Console
ดาวน์โหลด
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถทำการดาวน์โหลดมาทดลองใช้งานจากเว็บไซต์ VMware Server 2.0 RC2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง Mware Server 2.0 RC2
• VMWare เว็บไซต์ http://www.vmware.com/
• VMware Server 2.0 Release Notes
• ติดตั้งและใช้งาน VMWare Server>
VMware Server 2.0 Release Candidate Build 110949 RC2
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Windows XP สำหรับโครงการ OLPC
Windows XP สำหรับโครงการ OLPC
มีข้อมูลจากบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OX-1 ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในโครงการ One Laptop Per Child (OLPC) ว่าไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบ Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OLPC ให้กับโรงงานผู้ผลิต (RTM) แล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการ One Laptop Per Child (OLPC) นั้น เป็นโครงการเครื่องแล็ปท็อปราคาถูกสำหรับเด็กๆ ทั่วโลก โดยราคาต่อเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ $188 ต่อเครื่อง อย่างไรก็ตาม Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OLPC จะทำให้ราคาของ OLPC เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ $200 ต่อเครื่อง
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Windows XP Gets a New Release, for the OLPC
• One Laptop Per Child Foundation
• Olpc.com
• One Laptop Per Child
• One Laptop Per Child From Wikipedia
• OLPC XO-1
Keywords: One Laptop Per Child OLPC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
มีข้อมูลจากบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OX-1 ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในโครงการ One Laptop Per Child (OLPC) ว่าไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบ Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OLPC ให้กับโรงงานผู้ผลิต (RTM) แล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการ One Laptop Per Child (OLPC) นั้น เป็นโครงการเครื่องแล็ปท็อปราคาถูกสำหรับเด็กๆ ทั่วโลก โดยราคาต่อเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ $188 ต่อเครื่อง อย่างไรก็ตาม Windows XP เวอร์ชัน สำหรับ OLPC จะทำให้ราคาของ OLPC เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ $200 ต่อเครื่อง
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Windows XP Gets a New Release, for the OLPC
• One Laptop Per Child Foundation
• Olpc.com
• One Laptop Per Child
• One Laptop Per Child From Wikipedia
• OLPC XO-1
Keywords: One Laptop Per Child OLPC
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไฟล์ Desktop.ini บน Windows XP คืออะไร?
ไฟล์ Desktop.ini บน Windows XP คืออะไร?
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP คงจะเคยเห็นไฟล์ Desktop.ini อยู่ในโฟลเดอร์ต่างๆ หลายคนคงสงสัยว่าเป็นไฟล์อะไร มีอันตรายหรือไม่ ลบได้หรือเปล่า หรือบางคนคิดไปไกลถึงว่าคงโดนไวรัสเล่นงานเข้าให้แล้ว บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์ Desktop.ini
ไฟล์ Desktop.ini
ไฟล์ Desktop.ini จะเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการปรับแต่งโฟลเดอร์ที่มันอยู่ เช่น การปรับแต่งไอคอนของโฟลเดอร์ รูปแบบการแสดงเนื้อหาที่อยูภายในโฟลเดอร์ ฯลฯ โดยโฟลเดอร์จะใช้ข้อมูลในไฟล์ Desktop.ini ในการแสดงผลของโฟลเดอร์ หรือกล่าวได้อีกอย่างว่าไฟล์ Desktop.ini จะเก็บคอนฟิกการแสดงผลของโฟลเดอร์นั้นเอง
ถึงแม้ว่าไฟล์ Desktop.ini จะเก็บคอนฟิกการแสดงผลของโฟลเดอร์ แต่การลบไฟล์ Desktop.ini ก็ไม่ส่งผลให้การทำงานของระบบเกิดปัญหาหรือทำให้ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในโฟลเดอร์นั้นๆ สูญหายแต่อย่างใด โดยปกตินั้น วินโดวส์จะไม่แสดงไฟล์ Desktop.ini แต่ถ้าวินโดวส์แสดงไฟล์ Desktop.ini นั้นหมายความว่า ไม่ได้เลือกอ็อปชัน "Do not show hidden files and folders" และ "Hide protected operating system files (recommended)" ใน Folder Options ดังนั้นถ้าหากไม่ต้องการให้วินโดวส์แสดงไฟล์ Desktop.ini ก็ให้เลือกอ็อปชัน 2 ตัวดังกล่าว
ตัวอย่างเนื้อหาของไฟล์ Desktop.ini
[.ShellClassInfo]
IconFile=%SystemRoot%\system32\SHELL32.dll
IconIndex=13
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows XP
Desktop.ini
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows XP คงจะเคยเห็นไฟล์ Desktop.ini อยู่ในโฟลเดอร์ต่างๆ หลายคนคงสงสัยว่าเป็นไฟล์อะไร มีอันตรายหรือไม่ ลบได้หรือเปล่า หรือบางคนคิดไปไกลถึงว่าคงโดนไวรัสเล่นงานเข้าให้แล้ว บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์ Desktop.ini
ไฟล์ Desktop.ini
ไฟล์ Desktop.ini จะเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการปรับแต่งโฟลเดอร์ที่มันอยู่ เช่น การปรับแต่งไอคอนของโฟลเดอร์ รูปแบบการแสดงเนื้อหาที่อยูภายในโฟลเดอร์ ฯลฯ โดยโฟลเดอร์จะใช้ข้อมูลในไฟล์ Desktop.ini ในการแสดงผลของโฟลเดอร์ หรือกล่าวได้อีกอย่างว่าไฟล์ Desktop.ini จะเก็บคอนฟิกการแสดงผลของโฟลเดอร์นั้นเอง
ถึงแม้ว่าไฟล์ Desktop.ini จะเก็บคอนฟิกการแสดงผลของโฟลเดอร์ แต่การลบไฟล์ Desktop.ini ก็ไม่ส่งผลให้การทำงานของระบบเกิดปัญหาหรือทำให้ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในโฟลเดอร์นั้นๆ สูญหายแต่อย่างใด โดยปกตินั้น วินโดวส์จะไม่แสดงไฟล์ Desktop.ini แต่ถ้าวินโดวส์แสดงไฟล์ Desktop.ini นั้นหมายความว่า ไม่ได้เลือกอ็อปชัน "Do not show hidden files and folders" และ "Hide protected operating system files (recommended)" ใน Folder Options ดังนั้นถ้าหากไม่ต้องการให้วินโดวส์แสดงไฟล์ Desktop.ini ก็ให้เลือกอ็อปชัน 2 ตัวดังกล่าว
ตัวอย่างเนื้อหาของไฟล์ Desktop.ini
[.ShellClassInfo]
IconFile=%SystemRoot%\system32\SHELL32.dll
IconIndex=13
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows XP
Desktop.ini
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Minor Revisions
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Minor Revisions
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 3 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-068 MS08-043 และ MS08-045 เป็น Revision 2.2 1.2 และ 1.1 ตามลำดับ มีรายละเอียดดังนี้
MS07-068: Vulnerability in Windows Media File Format Could Allow Remote Code Execution (941569 and 944275)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-068.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
แก้ไขซีเคียวริตี้อัพเดท โดยการเปลี่ยน Windows Media Format Runtime 9 ไปเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบบนระบบ Windows XP Service Pack 3
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 11 ธันวาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.2
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Media Format Runtime 7.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 x64 Edition บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 x64 Edition บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2(KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows Vista (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows Vista x64 Edition (KB941569)
- Windows Media Services 9.1 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2 (KB944275)
- Windows Media Services 9.1 x64 Edition บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB944275)
MS08-043: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (954066)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-043.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่มข้อสังเกตุสำหรับซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ เพิ่ม FAQ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.2
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Excel 2000 Service Pack 3
- Excel 2002 Service Pack 3
- Excel 2003 Service Pack 2
- Excel 2003 Service Pack 3
- Excel 2007
- Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
- Microsoft Office 2008 for Mac
MS08-045: Cumulative Security Update for Internet Explorer (953838)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-045.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
แก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับรีจีสทรีคีย์บนระบบ Windows XP ให้ถูกต้อง และเพิ่มรายละเอียดที่เกี่ยวกับ CVE-2008-2256
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 on Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 in Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 in Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
• สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for September 2008 เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-Sep.mspx)
• Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS07-068 MS08-043 MS08-045 KB941569 KB944275 KB954066 KB953838
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 3 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-068 MS08-043 และ MS08-045 เป็น Revision 2.2 1.2 และ 1.1 ตามลำดับ มีรายละเอียดดังนี้
MS07-068: Vulnerability in Windows Media File Format Could Allow Remote Code Execution (941569 and 944275)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-068.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
แก้ไขซีเคียวริตี้อัพเดท โดยการเปลี่ยน Windows Media Format Runtime 9 ไปเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบบนระบบ Windows XP Service Pack 3
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 11 ธันวาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.2
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Media Format Runtime 7.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 x64 Edition บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 9.5 x64 Edition บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows XP Service Pack 2 (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2(KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows Vista (KB941569)
- Windows Media Format Runtime 11 บน Windows Vista x64 Edition (KB941569)
- Windows Media Services 9.1 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2 (KB944275)
- Windows Media Services 9.1 x64 Edition บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2 (KB944275)
MS08-043: Vulnerabilities in Microsoft Excel Could Allow Remote Code Execution (954066)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-043.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่มข้อสังเกตุสำหรับซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ เพิ่ม FAQ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.2
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Excel 2000 Service Pack 3
- Excel 2002 Service Pack 3
- Excel 2003 Service Pack 2
- Excel 2003 Service Pack 3
- Excel 2007
- Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
- Microsoft Office 2008 for Mac
MS08-045: Cumulative Security Update for Internet Explorer (953838)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-045.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
แก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับรีจีสทรีคีย์บนระบบ Windows XP ให้ถูกต้อง และเพิ่มรายละเอียดที่เกี่ยวกับ CVE-2008-2256
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Internet Explorer 5.01 Service Pack 4 on Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 6 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Internet Explorer 7 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Internet Explorer 7 in Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Internet Explorer 7 in Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Internet Explorer 7 ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
• สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Microsoft Security Bulletin Summary for September 2008 เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-Sep.mspx)
• Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
• Microsoft Security Center เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
Keywords: MS07-068 MS08-043 MS08-045 KB941569 KB944275 KB954066 KB953838
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Re-Releases (MS08-051)
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Re-Releases
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-051 ซึ่งเป็นการแพตช์ช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft PowerPoint เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS08-051: Vulnerabilities in Microsoft PowerPoint Could Allow Remote Code Execution (949785)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-051.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 949785 ทำการลบข้อมูลความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Office 2008 for Mac
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office PowerPoint 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2007
- Microsoft Office PowerPoint 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office PowerPoint Viewer 2003
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
© 2008 Thai Windows Administrator Blog, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-051 ซึ่งเป็นการแพตช์ช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft PowerPoint เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS08-051: Vulnerabilities in Microsoft PowerPoint Could Allow Remote Code Execution (949785)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-051.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 949785 ทำการลบข้อมูลความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Office 2008 for Mac
วันที่ออกอัพเดท: 20 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office PowerPoint 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2007
- Microsoft Office PowerPoint 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office PowerPoint Viewer 2003
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
- สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- Microsoft Security Bulletin Advance Notification for August 2008 เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-Aug.mspx)
- Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
- Microsoft Security Center เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/security/default.mspx)
© 2008 Thai Windows Administrator Blog, All Rights Reserved.
Microsoft new OS code named "Mojave"
Microsoft new OS code named "Mojave"
ไมโครซอฟท์พยายามสร้างความประทับใจให้กับแฟนพันธ์แท้ของ Windows XP ที่มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับ Windows Vista ให้เปลี่ยนไปใช้ Windows Vista โดยการออกระบบปฏิบัติการตัวใหม่โค้ดเนม "Mojave" แล้วให้ผู้ใช้เหล่านั้นทดลองใช้งาน อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ Microsoft new OS code named "Mojave"
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• Microsoft new OS code named "Mojave"
Keywords: OS code named Mojave
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไมโครซอฟท์พยายามสร้างความประทับใจให้กับแฟนพันธ์แท้ของ Windows XP ที่มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับ Windows Vista ให้เปลี่ยนไปใช้ Windows Vista โดยการออกระบบปฏิบัติการตัวใหม่โค้ดเนม "Mojave" แล้วให้ผู้ใช้เหล่านั้นทดลองใช้งาน อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ Microsoft new OS code named "Mojave"
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• Microsoft new OS code named "Mojave"
Keywords: OS code named Mojave
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การลบตัวเลือกใน Boot Menu ของ Windows XP
การลบตัวเลือกใน Boot Menu ของ Windows XP
สำหรับผู้ใช้ที่มีการติดตั้งวินโดวส์แบบมัลติบูต เช่น ติดตั้งวินโดวส์เอ็กซ์พีร่วมกับวินโดวส์ 98 หรือติดตั้งวินโดวส์เอ็กซ์พีร่วมกับวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 เป็นต้น และได้ทำการลบวินโดวส์ตัวใดตัวหนึ่งออกไปแล้ว แต่ปรากฏว่าระบบยังแสดงรายชื่อวินโดวส์ดังกล่าวในตัวเลือกใน Boot Menu การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการลบตัวเลือกดังกล่าวในไฟล์ boot.ini ด้วยตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ไม่อยากแก้ไขไฟล์ boot.ini โดยตรง ยังสามารถทำการลบตัวเลือกที่ไม่มีอยู่ใน Boot menu ตามขั้นตอนดังนี้
วิธีการลบตัวเลือกใน Boot menu
1. คลิก Start คลิก Run
2. พิมพ์ msconfig เสร็จแล้วคลิก OK
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ System Configuration tool คลิกแท็บ BOOT.INI
4. คลิกปุ่ม Check All Boot Paths
5. รอจนวินโดวส์ทำการตรวจสอบระบบแล้วเสร็จ ถ้าหากมีตัวเลือกใน Boot menu ที่ไม่มีระบบติดตั้งอยู่จริง วินโดวส์แจ้งให้ทราบ ให้ทำการลบตัวเลือกที่มีปัญหาออก (วินโดวส์จะให้ยืนยันการลบ) จากนั้นคลิก Apply แล้วคลิก OK
ซึ่งหลังจากทำการรีสตาร์ทระบบแล้ว วินโดวส์จะไม่แสดงตัวเลือกดังกล่าวอีก
Boot Menu Option
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
สำหรับผู้ใช้ที่มีการติดตั้งวินโดวส์แบบมัลติบูต เช่น ติดตั้งวินโดวส์เอ็กซ์พีร่วมกับวินโดวส์ 98 หรือติดตั้งวินโดวส์เอ็กซ์พีร่วมกับวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 เป็นต้น และได้ทำการลบวินโดวส์ตัวใดตัวหนึ่งออกไปแล้ว แต่ปรากฏว่าระบบยังแสดงรายชื่อวินโดวส์ดังกล่าวในตัวเลือกใน Boot Menu การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการลบตัวเลือกดังกล่าวในไฟล์ boot.ini ด้วยตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ไม่อยากแก้ไขไฟล์ boot.ini โดยตรง ยังสามารถทำการลบตัวเลือกที่ไม่มีอยู่ใน Boot menu ตามขั้นตอนดังนี้
วิธีการลบตัวเลือกใน Boot menu
1. คลิก Start คลิก Run
2. พิมพ์ msconfig เสร็จแล้วคลิก OK
3. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ System Configuration tool คลิกแท็บ BOOT.INI
4. คลิกปุ่ม Check All Boot Paths
5. รอจนวินโดวส์ทำการตรวจสอบระบบแล้วเสร็จ ถ้าหากมีตัวเลือกใน Boot menu ที่ไม่มีระบบติดตั้งอยู่จริง วินโดวส์แจ้งให้ทราบ ให้ทำการลบตัวเลือกที่มีปัญหาออก (วินโดวส์จะให้ยืนยันการลบ) จากนั้นคลิก Apply แล้วคลิก OK
ซึ่งหลังจากทำการรีสตาร์ทระบบแล้ว วินโดวส์จะไม่แสดงตัวเลือกดังกล่าวอีก
Boot Menu Option
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Saturday, August 23, 2008
พบช่องโหว่ความปลอดของ QuickTime
พบช่องโหว่ความปลอดของ QuickTime
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Windows Vista ที่ติดตั้งโปรแกรม Apple QuickTime จะมีความเสี่ยงต่อการถูกแฮกเกอร์โจมตีผ่านทางช่องโหว่ความปลอดถัยโดยใช้ไฟล์มัลติมีเดียที่ฝังโค้ดประสงค์ร้าย ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถทำการควบคุมระบบที่ถูกโจมตีได้ ทั้งนี้ทาง Apple ได้ออกแพตช์เพื่อปิดช่องโหว่นี้แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Apple QuickTime Player
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Researcher finds new flaw in QuickTime for Windows
• Apple QuickTime Player
Keywords: QuickTime vulnerability QuickTime Player
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Windows Vista ที่ติดตั้งโปรแกรม Apple QuickTime จะมีความเสี่ยงต่อการถูกแฮกเกอร์โจมตีผ่านทางช่องโหว่ความปลอดถัยโดยใช้ไฟล์มัลติมีเดียที่ฝังโค้ดประสงค์ร้าย ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถทำการควบคุมระบบที่ถูกโจมตีได้ ทั้งนี้ทาง Apple ได้ออกแพตช์เพื่อปิดช่องโหว่นี้แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Apple QuickTime Player
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Researcher finds new flaw in QuickTime for Windows
• Apple QuickTime Player
Keywords: QuickTime vulnerability QuickTime Player
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Free Anti Virus Download
ดาวน์โหลด Free Anti Virus
รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์ทั้งที่เป็นโปรแกรมแบบ Freeware ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและโปรแกรมทดลองใช้ซึ่งจำกัดระยะเวลาการใช้งาน (ในกรณีทดลองใช้แล้วมีคสามพอใจสามารถสั่งซื้อไลเซนส์ได้) มาฝากครับ
[อัปเดท 20 พ.ย. 53: เพิ่มโปรแกรม Microsoft Security Essential และลบโปรแกรม Windows Live OneCare]
Microsoft Security Essentials
Microsoft Security Essentials ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ดาวน์โหลดจาก Microsoft
AVG Free Edition
AVG Anti-Virus & Anti-Spyware Free Edition 8.0.138 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ดาวน์โหลดจาก AVG Server (www.grisoft.cz)
• ดาวน์โหลดจาก Download.com
Avast Home Edition
Avast Home Edition 4.8.1229.80723 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Avast Download list
• Avast Home Edition 4.8.1229.80723 (English)
• Download.com
Avira AntiVir PersonalEdition Classic
Avira AntiVir PE v8.1.0.331 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Avira AntiVir PE v8.1.0.331
• Download from Download.com
• Download from Softpedia.com (ดาวน์โหลด Avira AntiVir PE v8.1.0.331 จาก Softpedia)
Comodo AntiVirus
Comodo AntiVirus 2.0.17.58 Beta ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Comodo AntiVirus 2.0.17.58 Beta
BitDefender Free Edition
BitDefender Free Edition 10 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• BitDefender Free Edition 10
ClamWin Free Antivirus
ClamWin Free Antivirus 0.93.1 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ClamWin Free Antivirus 0.93.1
PC Tools AntiVirus Free Edition
PC Tools AntiVirus Free Edition 5.0.0.16 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• PC Tools AntiVirus Free Edition 5.0.0.16
Evaluation Anti-Virus Software
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลด Evaluation เวอร์ชันของ Anti-Virus ยี่ห้อต่างๆ มาทดลองใช้งานได้จากเว็บไซต์ด้านล่าง
Antigen (Sybari Software) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Antigen
Dr. Web ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Dr. Web
eSafe ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• eSafe
ESET(NOD32) Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ESET.com eSet Free Trial Download
• ESET Thailand Download from eSet Thailand
eTrust Antivirus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• eTrust Antivirus
F-Prot Antivirus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• F-Prot Antivirus
F-Secure Anti-Virus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• F-Secure Anti-Virus
Kaspersky Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Kaspersky Antivirus
McAfee Security Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• McAfee Antivirus
MicroWorld eScan ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• MicroWorld eScan
Protector Plus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Protector Plus
Norman Antivirus Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Norman Antivirus
Norton from Symantec Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Norton Antivirus
Panda Security Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Panda Antivirus/
Sophos Products (Small Business) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Sophos Antivirus
Symantec ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Symatec
Trend Micro, Inc. ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Trend Micro
ViRobot Expert ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ViRobot Expert
Free Anti-Virus Anti Virus Download
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์ทั้งที่เป็นโปรแกรมแบบ Freeware ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและโปรแกรมทดลองใช้ซึ่งจำกัดระยะเวลาการใช้งาน (ในกรณีทดลองใช้แล้วมีคสามพอใจสามารถสั่งซื้อไลเซนส์ได้) มาฝากครับ
[อัปเดท 20 พ.ย. 53: เพิ่มโปรแกรม Microsoft Security Essential และลบโปรแกรม Windows Live OneCare]
Microsoft Security Essentials
Microsoft Security Essentials ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ดาวน์โหลดจาก Microsoft
AVG Free Edition
AVG Anti-Virus & Anti-Spyware Free Edition 8.0.138 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ดาวน์โหลดจาก AVG Server (www.grisoft.cz)
• ดาวน์โหลดจาก Download.com
Avast Home Edition
Avast Home Edition 4.8.1229.80723 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Avast Download list
• Avast Home Edition 4.8.1229.80723 (English)
• Download.com
Avira AntiVir PersonalEdition Classic
Avira AntiVir PE v8.1.0.331 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Avira AntiVir PE v8.1.0.331
• Download from Download.com
• Download from Softpedia.com (ดาวน์โหลด Avira AntiVir PE v8.1.0.331 จาก Softpedia)
Comodo AntiVirus
Comodo AntiVirus 2.0.17.58 Beta ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Comodo AntiVirus 2.0.17.58 Beta
BitDefender Free Edition
BitDefender Free Edition 10 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• BitDefender Free Edition 10
ClamWin Free Antivirus
ClamWin Free Antivirus 0.93.1 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ClamWin Free Antivirus 0.93.1
PC Tools AntiVirus Free Edition
PC Tools AntiVirus Free Edition 5.0.0.16 ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• PC Tools AntiVirus Free Edition 5.0.0.16
Evaluation Anti-Virus Software
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลด Evaluation เวอร์ชันของ Anti-Virus ยี่ห้อต่างๆ มาทดลองใช้งานได้จากเว็บไซต์ด้านล่าง
Antigen (Sybari Software) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Antigen
Dr. Web ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Dr. Web
eSafe ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• eSafe
ESET(NOD32) Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ESET.com eSet Free Trial Download
• ESET Thailand Download from eSet Thailand
eTrust Antivirus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• eTrust Antivirus
F-Prot Antivirus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• F-Prot Antivirus
F-Secure Anti-Virus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• F-Secure Anti-Virus
Kaspersky Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Kaspersky Antivirus
McAfee Security Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• McAfee Antivirus
MicroWorld eScan ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• MicroWorld eScan
Protector Plus ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Protector Plus
Norman Antivirus Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Norman Antivirus
Norton from Symantec Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Norton Antivirus
Panda Security Products ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Panda Antivirus/
Sophos Products (Small Business) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Sophos Antivirus
Symantec ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Symatec
Trend Micro, Inc. ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• Trend Micro
ViRobot Expert ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์
• ViRobot Expert
บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog
Free Anti-Virus Anti Virus Download
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
การย้ายโฟลเดอร์ Public
การย้ายโฟลเดอร์ Public
ใน Windows Vista จะมีโฟลเดอร์ชื่อ Public ซึ่งใช้ในการแชร์ไฟล์กับเครื่องอื่นๆ บนเครื่อข่าย หรือกับยูสเซอรืคนอื่นที่ล็อกออนบนเครื่องเดียวกันแต่คนละแอคเคาต์ ซึ่งโฟลเดอร์ Public นี้โดยดีฟอลท์จะอยู่บนไดร์ฟ C: (พาธเต็มคือ C:\Public) แต่สามารถที่จะทำการย้ายพาธของโฟลเดอร์ Public ไปยังไดร์ฟอื่น เช่น D:\ (พาธเต็มเปลี่ยนเป็นคือ C:\Public)ได้ตามความต้องการ โดยมีวิธีการดังนี้
(เนื่องจากมีการแก้ไขรีจีสทรี ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยให้ทำการสำรองรีจีสทรีเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อนลงมือทำ)
1. ขั้นตอนแรกให้ทำการแบ็คอัพไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ Public ด้วยการก็อปปี้ไปเก็บไว้ยังตำแหน่งอื่นๆ (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกไฟล์ที่มีการ Hidden อยู่ด้วย วิธีการแสดงไฟล์ที่ถูก Hidden ไว้ทำได้โดยในหน้าต่าง Explorer คลิก Tools คลิก Folder Options คลิก View แล้วเลือก Show Hidden Files and Folders)
2. เปิดโปรแกรม Registry Editor โดยคลิก Start พิมพ์ Regedit ในช่อง Search เสร็จแล้วกด Enter
3. ในหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor ให้ไปยังคีย์ HKEY_ LOCAL_MACHINE \ SOFTWARE \ Microsoft \ WindowsNT \ CurrentVersion \ ProfileList
4. ในแพนด้านขวาให้ดับเบิลคลิกที่รีจีสทรีคีย์ชื่อ Public
5. ทำการเปลี่ยนค่าเป็นไดร์ฟที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น D:\Public เสร็จแล้วปิดโปรแกรม Registry Editor
6. ทำการรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้การแก้ไขมีผล
7. หลังจากระบบบูตเสร็จแล้ว ให้ทำการล็อกออนเข้าเครื่องแล้วทำการก็อปปี้ไฟล์ที่แบ็คอัพในขั้นตอนที่ 1 ลงในโฟลเดอร์ Public
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows Vista
Keywords: move Public folder
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ใน Windows Vista จะมีโฟลเดอร์ชื่อ Public ซึ่งใช้ในการแชร์ไฟล์กับเครื่องอื่นๆ บนเครื่อข่าย หรือกับยูสเซอรืคนอื่นที่ล็อกออนบนเครื่องเดียวกันแต่คนละแอคเคาต์ ซึ่งโฟลเดอร์ Public นี้โดยดีฟอลท์จะอยู่บนไดร์ฟ C: (พาธเต็มคือ C:\Public) แต่สามารถที่จะทำการย้ายพาธของโฟลเดอร์ Public ไปยังไดร์ฟอื่น เช่น D:\ (พาธเต็มเปลี่ยนเป็นคือ C:\Public)ได้ตามความต้องการ โดยมีวิธีการดังนี้
(เนื่องจากมีการแก้ไขรีจีสทรี ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยให้ทำการสำรองรีจีสทรีเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อนลงมือทำ)
1. ขั้นตอนแรกให้ทำการแบ็คอัพไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ Public ด้วยการก็อปปี้ไปเก็บไว้ยังตำแหน่งอื่นๆ (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกไฟล์ที่มีการ Hidden อยู่ด้วย วิธีการแสดงไฟล์ที่ถูก Hidden ไว้ทำได้โดยในหน้าต่าง Explorer คลิก Tools คลิก Folder Options คลิก View แล้วเลือก Show Hidden Files and Folders)
2. เปิดโปรแกรม Registry Editor โดยคลิก Start พิมพ์ Regedit ในช่อง Search เสร็จแล้วกด Enter
3. ในหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor ให้ไปยังคีย์ HKEY_ LOCAL_MACHINE \ SOFTWARE \ Microsoft \ WindowsNT \ CurrentVersion \ ProfileList
4. ในแพนด้านขวาให้ดับเบิลคลิกที่รีจีสทรีคีย์ชื่อ Public
5. ทำการเปลี่ยนค่าเป็นไดร์ฟที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น D:\Public เสร็จแล้วปิดโปรแกรม Registry Editor
6. ทำการรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้การแก้ไขมีผล
7. หลังจากระบบบูตเสร็จแล้ว ให้ทำการล็อกออนเข้าเครื่องแล้วทำการก็อปปี้ไฟล์ที่แบ็คอัพในขั้นตอนที่ 1 ลงในโฟลเดอร์ Public
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• บทความเกี่ยวกับ Windows Vista
Keywords: move Public folder
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Schedule a weekly defragmentation on Windows XP
ตั้งเวลาให้ Windows XP ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ทุกๆ สัปดาห์
บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog
แฟคเตอร์หนึ่งที่มีผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของวินโดวส์ช้าลงคือ เฟรกเมนเตชัน (fragmentation) ซึ่งเกิดจากการที่ไฟล์บนฮาร์ดดิสก์ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ กระจัดกระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ของฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นถ้าหากไฟล์แต่ละไฟล์มีการกระจัดกระจายมาก การทำงานของระบบเกี่ยวกับไฟล์คือ เปิดไฟล์ บันทึกไฟล์ และปิดไฟล์ ก็จะช้าลง
การดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ คือการจัดระเบียบไฟล์ที่กระจัดกระจายอยู่คนละตำแหน่งให้มาอยู่ด้วยกัน และควรทำการการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้ระบบทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งใน Windows XP นั้น จะมีเครื่องมือทำหรับใช้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ให้มาด้วยแล้วคือ Disk Defragmenter
การตั้งเวลาให้ Windows XP ทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์
การตั้งเวลาให้ Windows XP ทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ทุกๆ สัปดาห์ มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start จากนั้นคลิก Control Panel
2. คลิก Performance and Maintenance (มุมมองแบบ Category View)
3. ภายใต้ or pick a Control Panel icon คลิก Scheduled Tasks
4. ในหน้าต่าง Scheduled Tasks ดับเบิลคลิก Add Scheduled Task
5. ในหน้า Scheduled Task Wizard คลิก Next
6. คลิก Browse
7. ในกล่อง File name ให้พิมพ์ %systemroot%\system32\defrag.exe เสร็จแล้วคลิก Open
8. ในกล่องใต้ Type a name for this task ให้พิมพ์ชื่อที่ต้องการ เช่น Defrag จากนั้นภายใต้ Perform this task ให้คลิก Weekly จากนั้นคลิก Next
9. ในกล่อง Start time และภายใต้ Select the day(s) of the week below ให้กำหนดเวลาและเลือกวันที่ต้องการให้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ แนะนำให้เลือกเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดและไม่มีการใช้งาน เพื่อให้ได้ผลการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ดีที่สุด เสร็จแล้วคลิก Next
10. พิมพ์รหัสผ่านในกล่อง Enter the password และ Confirm password boxes เสร็จแล้วคลิก Next
11. เลือกเช็คบ็อกซ์ Open advanced properties for this task when I click Finish แล้วคลิก Finish
12. ในกล่อง Run เพิ่ม C: ต่อจากค่าที่ทีอยู่ก่อนโดยให้เว้นช่องว่าง (space) ก่อนหน้า “C:” ด้วย เสร็จแล้วคลิก OK
13. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ Set Account Information พิมพ์รหัสผ่านในกล่อง Password และ Confirm password เสร็จแล้วคลิก OK
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด Windows XP ก็จะทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ ในระหว่างการดีแฟรกฮาร์ดดิสก์จะมีการเปิดหน้าต่างสีดำ โดยยูสเซอร์สามารถที่จะทำงานหรือใช้งานวินโดวส์ได้ตามปกติ สำหรับหน้าต่างสีดำก็จะปิดไปเองเมื่อการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ตั้งเวลาให้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์เมื่อไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์จะดีที่สุด
หมายเหตุ: การดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมีพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์มากพอสมควร
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• http://www.microsoft.com/windowsxp/using/setup/tips/defrag.mspx
Schedule a weekly defragmentation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog
แฟคเตอร์หนึ่งที่มีผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของวินโดวส์ช้าลงคือ เฟรกเมนเตชัน (fragmentation) ซึ่งเกิดจากการที่ไฟล์บนฮาร์ดดิสก์ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ กระจัดกระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ของฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นถ้าหากไฟล์แต่ละไฟล์มีการกระจัดกระจายมาก การทำงานของระบบเกี่ยวกับไฟล์คือ เปิดไฟล์ บันทึกไฟล์ และปิดไฟล์ ก็จะช้าลง
การดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ คือการจัดระเบียบไฟล์ที่กระจัดกระจายอยู่คนละตำแหน่งให้มาอยู่ด้วยกัน และควรทำการการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้ระบบทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งใน Windows XP นั้น จะมีเครื่องมือทำหรับใช้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ให้มาด้วยแล้วคือ Disk Defragmenter
การตั้งเวลาให้ Windows XP ทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์
การตั้งเวลาให้ Windows XP ทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ทุกๆ สัปดาห์ มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start จากนั้นคลิก Control Panel
2. คลิก Performance and Maintenance (มุมมองแบบ Category View)
3. ภายใต้ or pick a Control Panel icon คลิก Scheduled Tasks
4. ในหน้าต่าง Scheduled Tasks ดับเบิลคลิก Add Scheduled Task
5. ในหน้า Scheduled Task Wizard คลิก Next
6. คลิก Browse
7. ในกล่อง File name ให้พิมพ์ %systemroot%\system32\defrag.exe เสร็จแล้วคลิก Open
8. ในกล่องใต้ Type a name for this task ให้พิมพ์ชื่อที่ต้องการ เช่น Defrag จากนั้นภายใต้ Perform this task ให้คลิก Weekly จากนั้นคลิก Next
9. ในกล่อง Start time และภายใต้ Select the day(s) of the week below ให้กำหนดเวลาและเลือกวันที่ต้องการให้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ แนะนำให้เลือกเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดและไม่มีการใช้งาน เพื่อให้ได้ผลการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์ดีที่สุด เสร็จแล้วคลิก Next
10. พิมพ์รหัสผ่านในกล่อง Enter the password และ Confirm password boxes เสร็จแล้วคลิก Next
11. เลือกเช็คบ็อกซ์ Open advanced properties for this task when I click Finish แล้วคลิก Finish
12. ในกล่อง Run เพิ่ม C: ต่อจากค่าที่ทีอยู่ก่อนโดยให้เว้นช่องว่าง (space) ก่อนหน้า “C:” ด้วย เสร็จแล้วคลิก OK
13. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ Set Account Information พิมพ์รหัสผ่านในกล่อง Password และ Confirm password เสร็จแล้วคลิก OK
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด Windows XP ก็จะทำการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ ในระหว่างการดีแฟรกฮาร์ดดิสก์จะมีการเปิดหน้าต่างสีดำ โดยยูสเซอร์สามารถที่จะทำงานหรือใช้งานวินโดวส์ได้ตามปกติ สำหรับหน้าต่างสีดำก็จะปิดไปเองเมื่อการดีเฟรกฮาร์ดดิสก์แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ตั้งเวลาให้ทำการดีเฟรกเมนต์ฮาร์ดดิสก์เมื่อไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์จะดีที่สุด
หมายเหตุ: การดีเฟรกฮาร์ดดิสก์ จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมีพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์มากพอสมควร
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• http://www.microsoft.com/windowsxp/using/setup/tips/defrag.mspx
Schedule a weekly defragmentation
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ไวรัส PE_LOOKED.BF
ชื่อไวรัส: PE_LOOKED.BF
ชื่ออื่นๆ : Worm.Win32.Viking.y (Kaspersky), W32/HLLP.Philis.at (McAfee), W32.Looked.O (Symantec), W32/Looked-M (Sophos), Virus:Win32/Viking.IT (Microsoft)
วันที่เริ่มระบาด: สิงหาคม 2549
ลักษณะของไวรัส PE_LOOKED.BF
ลักษณะไวรัส PE_LOOKED.BF นั้นมีลักษณะดังต่อไปนี้
File type: PE (Portable Execute)
File size: 32,127 Bytes (compressed)
รายละเอียด
PE_LOOKED.BF เป็นไวรัสประเภท PE (Portable Execute) แพร่ระบาดผ่านทางการดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตหรือผ่านทางไฟล์ที่แนบมากับอีเมล เมื่อไฟล์ไวรัสถูกรัน มันจะทำการรันไฟล์ RUNDL132.EXE และดร็อปไฟล์ดังกล่าวนี้ลงในโฟลเดอร์ Windows และดร็อปไฟล์ .dll (ไฟลฺ .dll นี้จะตรวจพบในชื่อโทรจัน TROJ_LOOKED.BF) ลงในโฟลเดอร์ที่รันไฟล์ไวรัส ซึ่งโทรจันนี้จะทำหน้าที่แพร่กระจายไวรัส ผ่านทางการ inject เข้าในโปรเซสของ Internet Explorer
จากนั้นจะทำการสร้าง registry key ดังนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Soft\DownloadWWW
Auto = "1"
จากนั้นจะทำการค้นหาไฟล์ .exe ทั้งหมดในที่อยู่ในไดร์ฟ C-Z เสร็จแล้วจะทำการสร้างโค้ดเพื่อทำการติดไฟล์ต่างๆ ดังนี้
• ACDSee4.exe
• ACDSee5.exe
• ACDSee6.exe
• AgzNew.exe
• Archlord.exe
• AutoUpdate.exe
• autoupdate.exe
• BNUpdate.exe
• Datang.exe
• editplus.exe
• EXCEL.EXE
• flashget.exe
• foxmail.exe
• FSOnline.exe
• GameClient.exe
• install.exe
• jxonline_t.exe
• launcher.exe
• lineage.exe
• LineageII.exe
• MHAutoPatch.exe
• Mir.exe
• msimn.exe
• msnmsgr.exe
• Mu.exe
• my.exe
• NATEON.exe
• NSStarter.exe
• Patcher.exe
• patchupdate.exe
• QQ.exe
• Ragnarok.exe
• realplay.exe
• run.exe
• setup.exe
• Silkroad.exe
• Thunder.exe
• ThunderShell.exe
• TTPlayer.exe
• Uedit32.exe
• Winrar.exe
• WINWORD.EXE
• woool.exe
• zfs.exe
การแพร่ระบาดผ่านระบบเครือข่าย
ไวรัส PE_LOOKED.BF แพร่ระบาดผ่านระบบเครือข่าย โดยการเปิดแชร์โฟลเดอร์ชื่อ ADMIN$ และ IPC$ ด้วยยูสเซอร์ administrator หรือ guest หากสามารถเปิดได้มันจะทำการสำเนาตัวมันเองไปยังแชร์โฟลเดอร์ดังที่กล่าวมา
นอกจากนี้ ไวรัส PE_LOOKED.BF ยังทำการปิดโปรเซส MCSHIELD.EXE, REGSVC.EXE ที่รันอยู่บนระบบ
ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบ
ไวรัส PE_LOOKED.BF นั้นจะระบาดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 95, 98, ME, NT, 2000, XP, Server 2003
วิธีการแก้ไขเมื่อติดไวรัส PE_LOOKED.BF
ในกรณีที่ได้รับข้อความว่ามีการตรวจพบไวรัส PE_LOOKED.BF ให้ทำการสแกนเครื่องด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัส และทำการลบไฟล์ไวรัสออกจากเครื่อง
วิธีการป้องกัน
วิธีการป้องกันไวรัสโดยทั่วไปนั้น ทำได้โดยการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ไม่ควรรันหรือทำการติดตั้งโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ สำหรับวิธีการอื่นๆ ซึ่งจะช่อวยเพิ่มระดับการป้องกันไวรัสนั้น มีดังนี้
1. การป้องกันไวรัสด้วยโปรแกรม Trust No Exe อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/11/kb-112007-17.html
2. ปิดการใช้งาน Autoplay อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/turnoff-autoplay-on-all-drives-in.html
3. วิธีการป้องกันไวรัสจาก Flash drive อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/protect-computer-from-flash-drives.html
4. ป้องกันไม่ให้วินโดวส์รันโปรแกรมที่กำหนด อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/10/kb-102007-22.html
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัส PE_LOOKED.BF ได้ที่เว็บไซต์ Trend Micro
http://www.trendmicro.com/vinfo/virusencyclo/default5.asp?VName=PE_LOOKED.BF&VSect=P
• Trend Micro Virus Map
PE_LOOKED.BF
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ชื่ออื่นๆ : Worm.Win32.Viking.y (Kaspersky), W32/HLLP.Philis.at (McAfee), W32.Looked.O (Symantec), W32/Looked-M (Sophos), Virus:Win32/Viking.IT (Microsoft)
วันที่เริ่มระบาด: สิงหาคม 2549
ลักษณะของไวรัส PE_LOOKED.BF
ลักษณะไวรัส PE_LOOKED.BF นั้นมีลักษณะดังต่อไปนี้
File type: PE (Portable Execute)
File size: 32,127 Bytes (compressed)
รายละเอียด
PE_LOOKED.BF เป็นไวรัสประเภท PE (Portable Execute) แพร่ระบาดผ่านทางการดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตหรือผ่านทางไฟล์ที่แนบมากับอีเมล เมื่อไฟล์ไวรัสถูกรัน มันจะทำการรันไฟล์ RUNDL132.EXE และดร็อปไฟล์ดังกล่าวนี้ลงในโฟลเดอร์ Windows และดร็อปไฟล์ .dll (ไฟลฺ .dll นี้จะตรวจพบในชื่อโทรจัน TROJ_LOOKED.BF) ลงในโฟลเดอร์ที่รันไฟล์ไวรัส ซึ่งโทรจันนี้จะทำหน้าที่แพร่กระจายไวรัส ผ่านทางการ inject เข้าในโปรเซสของ Internet Explorer
จากนั้นจะทำการสร้าง registry key ดังนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Soft\DownloadWWW
Auto = "1"
จากนั้นจะทำการค้นหาไฟล์ .exe ทั้งหมดในที่อยู่ในไดร์ฟ C-Z เสร็จแล้วจะทำการสร้างโค้ดเพื่อทำการติดไฟล์ต่างๆ ดังนี้
• ACDSee4.exe
• ACDSee5.exe
• ACDSee6.exe
• AgzNew.exe
• Archlord.exe
• AutoUpdate.exe
• autoupdate.exe
• BNUpdate.exe
• Datang.exe
• editplus.exe
• EXCEL.EXE
• flashget.exe
• foxmail.exe
• FSOnline.exe
• GameClient.exe
• install.exe
• jxonline_t.exe
• launcher.exe
• lineage.exe
• LineageII.exe
• MHAutoPatch.exe
• Mir.exe
• msimn.exe
• msnmsgr.exe
• Mu.exe
• my.exe
• NATEON.exe
• NSStarter.exe
• Patcher.exe
• patchupdate.exe
• QQ.exe
• Ragnarok.exe
• realplay.exe
• run.exe
• setup.exe
• Silkroad.exe
• Thunder.exe
• ThunderShell.exe
• TTPlayer.exe
• Uedit32.exe
• Winrar.exe
• WINWORD.EXE
• woool.exe
• zfs.exe
การแพร่ระบาดผ่านระบบเครือข่าย
ไวรัส PE_LOOKED.BF แพร่ระบาดผ่านระบบเครือข่าย โดยการเปิดแชร์โฟลเดอร์ชื่อ ADMIN$ และ IPC$ ด้วยยูสเซอร์ administrator หรือ guest หากสามารถเปิดได้มันจะทำการสำเนาตัวมันเองไปยังแชร์โฟลเดอร์ดังที่กล่าวมา
นอกจากนี้ ไวรัส PE_LOOKED.BF ยังทำการปิดโปรเซส MCSHIELD.EXE, REGSVC.EXE ที่รันอยู่บนระบบ
ระบบปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบ
ไวรัส PE_LOOKED.BF นั้นจะระบาดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 95, 98, ME, NT, 2000, XP, Server 2003
วิธีการแก้ไขเมื่อติดไวรัส PE_LOOKED.BF
ในกรณีที่ได้รับข้อความว่ามีการตรวจพบไวรัส PE_LOOKED.BF ให้ทำการสแกนเครื่องด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัส และทำการลบไฟล์ไวรัสออกจากเครื่อง
วิธีการป้องกัน
วิธีการป้องกันไวรัสโดยทั่วไปนั้น ทำได้โดยการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ไม่ควรรันหรือทำการติดตั้งโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ สำหรับวิธีการอื่นๆ ซึ่งจะช่อวยเพิ่มระดับการป้องกันไวรัสนั้น มีดังนี้
1. การป้องกันไวรัสด้วยโปรแกรม Trust No Exe อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/11/kb-112007-17.html
2. ปิดการใช้งาน Autoplay อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/turnoff-autoplay-on-all-drives-in.html
3. วิธีการป้องกันไวรัสจาก Flash drive อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/07/protect-computer-from-flash-drives.html
4. ป้องกันไม่ให้วินโดวส์รันโปรแกรมที่กำหนด อ่านรายละเอียดที่ http://thaiwinadmin.blogspot.com/2007/10/kb-102007-22.html
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัส PE_LOOKED.BF ได้ที่เว็บไซต์ Trend Micro
http://www.trendmicro.com/vinfo/virusencyclo/default5.asp?VName=PE_LOOKED.BF&VSect=P
• Trend Micro Virus Map
PE_LOOKED.BF
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
Thursday, August 21, 2008
ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายละเอียด Windows 7 ในงาน PDC
ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Windows 7 ในงาน PDC
มีความเคลื่อนไหวของ Windows 7 โดยจากข้อมูลบนอินเทอร์เนตนั้น มีการคาดการณ์ว่า ไมโครซอฟท์จะทำการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้อย่างเป็นทางการในงาน Professional Developer's Conference ซึ่งจะจัดขั้นในเดือนตุลาคม 2008 และในงาน WinHEC (the Windows Hardware Engineering Conference) ซึ่งจะจัดขั้นในเดือนพฤศจิกายน 2008
อย่างไรก็ตามสำหรับสาวกไมโครซอฟท์ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ของ Windows 7 ได้จากบล็อก Engineering of Microsoft Windows 7
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Engineering of Microsoft Windows 7
Windows 7
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
มีความเคลื่อนไหวของ Windows 7 โดยจากข้อมูลบนอินเทอร์เนตนั้น มีการคาดการณ์ว่า ไมโครซอฟท์จะทำการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้อย่างเป็นทางการในงาน Professional Developer's Conference ซึ่งจะจัดขั้นในเดือนตุลาคม 2008 และในงาน WinHEC (the Windows Hardware Engineering Conference) ซึ่งจะจัดขั้นในเดือนพฤศจิกายน 2008
อย่างไรก็ตามสำหรับสาวกไมโครซอฟท์ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ของ Windows 7 ได้จากบล็อก Engineering of Microsoft Windows 7
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
• Engineering of Microsoft Windows 7
Windows 7
© 2008 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
ดาวน์โหลด Sysinternals Suite Build 20080821
ชุดโปรแกรมเครื่องมือ Sysinternals Suite นั้น เป็นการรวบรวมเครื่องมือต่างๆ ที่พัฒนาโดย Sysinternals นำมารวมเป็นชุดเดียวเพื่อให้ง่ายในการดาวน์โหลดไปใช้งาน โดยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ทาง Sysinternals ก็ได้ออกอัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของชุดเครื่องมือ Sysinternals Suite Build 20080821 ซึ่งในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มีโปรแกรมเครื่องมือใหม่จำนวน 1 ตัว คือ Desktops 1.0 และมีโปรแกรมเครื่องมือที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่ จำนวน 1 ตัว คือ Autoruns 9.33
Tuesday, August 19, 2008
Microsoft Security Bulletin Minor Revisions
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Minor Revisions
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 5 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-043, MS08-044, MS08-047, MS08-048, MS08-051 เป็น Revision 1.1 ตามรายละเอียดด้านล่าง
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-043.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 954066 และอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการแทนที่สำหรับ Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats และ Microsoft OfficeCompatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Excel 2000 Service Pack 3
- Excel 2002 Service Pack 3
- Excel 2003 Service Pack 2
- Excel 2003 Service Pack 3
- Excel 2007
- Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
- Microsoft Office 2008 for Mac
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS08-044: Vulnerabilities in Microsoft Office Filters Could Allow Remote Code Execution (924090)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-044.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัพเดทสำหรับ Microsoft Office Project 2002 Service Pack 1 จะเป็นอัพเดทตัวเดียวกันกับอัพเดทสำหรับ Microsoft Office XP Service Pack 3
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Works 8- Microsoft Office 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office XP Service Pack 3
- Microsoft Office 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Project 2002 Service Pack 1
- Microsoft Office Converter Pack
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS08-047: Vulnerability in IPsec Policy Processing Could Allow Information Disclosure (953733)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-047.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 เข้าเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบ
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Information Disclosure
MS08-048: Security Update for Outlook Express and Windows Mail (951066)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-048.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
ทำการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับ filelocation, removal information และ registry key verification ในตารางข้อมูลอ้างอิง และเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับการจัดระดับผลกระทบที่แตกต่างกันบน Windows XP และ Windows Vista (Important) และ บน Windows Server 2003 และ Windows Server2008 (Low)
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Outlook Express 5.5 Service Pack 2 on Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Microsoft Outlook Express 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Windows Mail ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Mail ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Information Disclosure
MS08-051: Vulnerabilities in Microsoft PowerPoint Could Allow Remote Code Execution (949785)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-051.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 949785 ทำการลบข้อมูลความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Office 2008 for Mac
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office PowerPoint 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2007
- Microsoft Office PowerPoint 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office PowerPoint Viewer 2003
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำการปรับปรุงซีเคียวริตี้อัพเดทจำนวน 5 ตัว คือ ซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-043, MS08-044, MS08-047, MS08-048, MS08-051 เป็น Revision 1.1 ตามรายละเอียดด้านล่าง
- MS08-043 - Critical - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Excel
- MS08-044 - Critical - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Office
- MS08-047 - Important - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Windows
- MS08-048 - Important - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft Outlook Express และ Windows Mail
- MS08-051 - Critical - เกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft PowerPoint
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-043.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 954066 และอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการแทนที่สำหรับ Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007 File Formats และ Microsoft OfficeCompatibility Pack สำหรับ Word, Excel และ PowerPoint 2007
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Excel 2000 Service Pack 3
- Excel 2002 Service Pack 3
- Excel 2003 Service Pack 2
- Excel 2003 Service Pack 3
- Excel 2007
- Excel 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office Excel Viewer 2003
- Microsoft Office Excel Viewer 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office Excel Viewer
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition
- Microsoft Office SharePoint Server 2007 x64 Edition Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
- Microsoft Office 2008 for Mac
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS08-044: Vulnerabilities in Microsoft Office Filters Could Allow Remote Code Execution (924090)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-044.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัพเดทสำหรับ Microsoft Office Project 2002 Service Pack 1 จะเป็นอัพเดทตัวเดียวกันกับอัพเดทสำหรับ Microsoft Office XP Service Pack 3
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Works 8- Microsoft Office 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office XP Service Pack 3
- Microsoft Office 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office Project 2002 Service Pack 1
- Microsoft Office Converter Pack
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS08-047: Vulnerability in IPsec Policy Processing Could Allow Information Disclosure (953733)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-047.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2 เข้าเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบ
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation affected)
- Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Information Disclosure
MS08-048: Security Update for Outlook Express and Windows Mail (951066)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-048.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
ทำการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับ filelocation, removal information และ registry key verification ในตารางข้อมูลอ้างอิง และเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับการจัดระดับผลกระทบที่แตกต่างกันบน Windows XP และ Windows Vista (Important) และ บน Windows Server 2003 และ Windows Server2008 (Low)
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Outlook Express 5.5 Service Pack 2 on Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Microsoft Outlook Express 6 Service Pack 1 เมื่อติดตั้งบน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows XP Service Pack 2 และ Windows XP Service Pack 3
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows Server 2003 x64 Edition Service Pack 2
- Microsoft Outlook Express 6 สำหรับ Windows Server 2003 พร้อม SP1 สำหรับ Itanium-based Systems และ Windows Server 2003 พร้อม SP2 สำหรับ Itanium-based Systems
- Windows Mail ใน Windows Vista และ Windows Vista Service Pack 1
- Windows Mail ใน Windows Vista x64 Edition และ Windows Vista x64 Edition Service Pack 1
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ 32-bit Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ x64-based Systems (Windows Server 2008 Server Core installation ไม่มีผลกระทบ)
- Windows Mail ใน Windows Server 2008 สำหรับ Itanium-based Systems
ผลกระทบ: Information Disclosure
MS08-051: Vulnerabilities in Microsoft PowerPoint Could Allow Remote Code Execution (949785)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-051.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Frequently Asked Questions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Knowledge Base Article 949785 ทำการลบข้อมูลความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Office 2008 for Mac
วันที่ออกอัพเดท: 13 สิงหาคม 2551
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 1.1
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Microsoft Office PowerPoint 2000 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2002 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 2
- Microsoft Office PowerPoint 2003 Service Pack 3
- Microsoft Office PowerPoint 2007
- Microsoft Office PowerPoint 2007 Service Pack 1
- Microsoft Office PowerPoint Viewer 2003
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats
- Microsoft Office Compatibility Pack สำหรับ Word, Excel, and PowerPoint 2007 File Formats Service Pack 1
- Microsoft Office 2004 for Mac
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ที่มา/แหล่งอ้างอิง/รายละเอียดเพิ่มเติม
- สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Microsoft Technet Security เว็บไซต์ (http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx)
- Microsoft Security Bulletin Summary for August 2008: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-Aug.mspx
- Microsoft Technet Security: http://www.microsoft.com/technet/security/default.mspx
- Microsoft Security Center: http://www.microsoft.com/security/default.mspx
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.
Microsoft Security Bulletin Re-Releases (MS08-022)
ไมโครซอฟท์ซีเคียวริตี้อัพเดท Re-Releases
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-022 ซึ่งเป็นการแพตซ์ช่องโหว่ความปลอดภัยของ BScript and JScript Scripting Engines เวอร์ชัน 2.0 และออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-047 เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS08-022: Vulnerability in VBScript and JScript Scripting Engines Could Allow Remote Code Execution (944338)
อัพเดทลิงก์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-022.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่มลิงค์ที่เกี่ยวข้อง และเพิ่ม Frequently AskedQuestions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับซีเคียวริตี้อัพเดท
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 8 เมษายน 2551
วันที่ออกอัพเดท: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- VBScript 5.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- VBScript 5.6 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- VBScript 5.6 บน Windows XP Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 สำหรับ Itanium-based และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium-based
- JScript 5.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- JScript 5.6 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- JScript 5.6 บน Windows XP Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 สำหรับ Itanium-based และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium-based
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS07-047: Vulnerability in Windows Media Player Could Allow Remote Code Execution (936782)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-047.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Windows XP Service Pack 3 เข้าในระบบที่ได้รับผลกระทบ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 สิงหาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Media Player 7.1 on Microsoft Windows 2000 SP4
- Windows Media Player 9 when installed on Microsoft Windows 2000 SP4
- Windows Media Player 9 on Windows XP SP2
- Windows Media Player 10 when installed on Windows XP SP2
- Windows Media Player 10 on Windows XP Professional x64 Edition and Windows XP Professional x64 Edition SP2
- Windows Media Player 10 on Windows Server 2003 SP 1 and Windows Server 2003 SP2
- Windows Media Player 10 on Windows Server 2003 x64 Edition and Windows Server 2003 x64 Edition SP 2
- Windows Media Player 11 when installed on Windows XP SP 2
- Windows Media Player 11 on Windows XP Professional x64 Edition and Windows XP Professional x64 Edition SP2
- Windows Media Player 11 in Windows Vista
- Windows Media Player 11 in Windows Vista x64 Edition
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
• MS08-022: Vulnerability in VBScript and JScript Scripting Engines Could Allow Remote Code Execution (944338)
• MS07-047: Vulnerabilities in Windows Media Player Could Allow Remote Code Execution (936782)
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS08-022 ซึ่งเป็นการแพตซ์ช่องโหว่ความปลอดภัยของ BScript and JScript Scripting Engines เวอร์ชัน 2.0 และออกซีเคียวริตี้อัพเดทหมายเลข MS07-047 เวอร์ชัน 2.0 ตามรายละเอียดด้านล่าง
MS08-022: Vulnerability in VBScript and JScript Scripting Engines Could Allow Remote Code Execution (944338)
อัพเดทลิงก์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms08-022.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่มลิงค์ที่เกี่ยวข้อง และเพิ่ม Frequently AskedQuestions (FAQ) ที่เกี่ยวข้องกับซีเคียวริตี้อัพเดท
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 8 เมษายน 2551
วันที่ออกอัพเดท: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ระดับวิกฤต (Critical)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- VBScript 5.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- VBScript 5.6 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- VBScript 5.6 บน Windows XP Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- VBScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 สำหรับ Itanium-based และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium-based
- JScript 5.1 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- JScript 5.6 บน Microsoft Windows 2000 Service Pack 4
- JScript 5.6 บน Windows XP Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows XP Professional x64 Edition และ Windows XP Professional x64 Edition Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 และ Windows Server 2003 Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 x64 Edition และ Windows 2003 Server x64 Edition Service Pack 2
- JScript 5.6 บน Windows Server 2003 Service Pack 1 สำหรับ Itanium-based และ Windows Server 2003 with SP2 สำหรับ Itanium-based
ผลกระทบ: Remote Code Execution
MS07-047: Vulnerability in Windows Media Player Could Allow Remote Code Execution (936782)
อัพเดทลิงค์: http://www.microsoft.com/technet/security/bulletin/ms07-047.mspx
เหตุผลในการปรับปรุง:
เพิ่ม Windows XP Service Pack 3 เข้าในระบบที่ได้รับผลกระทบ
การอัพเดทตัวนี้จะแทนการอัพเดทตัวเดิมที่ออกเมื่อ: 14 สิงหาคม 2550
วันที่ออกอัพเดท: 12 สิงหาคม 2551
ระดับความร้านแรง: ความร้ายแรงระดับสูง (Important)
เวอร์ชัน: 2.0
ซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบ:
- Windows Media Player 7.1 on Microsoft Windows 2000 SP4
- Windows Media Player 9 when installed on Microsoft Windows 2000 SP4
- Windows Media Player 9 on Windows XP SP2
- Windows Media Player 10 when installed on Windows XP SP2
- Windows Media Player 10 on Windows XP Professional x64 Edition and Windows XP Professional x64 Edition SP2
- Windows Media Player 10 on Windows Server 2003 SP 1 and Windows Server 2003 SP2
- Windows Media Player 10 on Windows Server 2003 x64 Edition and Windows Server 2003 x64 Edition SP 2
- Windows Media Player 11 when installed on Windows XP SP 2
- Windows Media Player 11 on Windows XP Professional x64 Edition and Windows XP Professional x64 Edition SP2
- Windows Media Player 11 in Windows Vista
- Windows Media Player 11 in Windows Vista x64 Edition
ผลกระทบ: Remote Code Execution
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
• MS08-022: Vulnerability in VBScript and JScript Scripting Engines Could Allow Remote Code Execution (944338)
• MS07-047: Vulnerabilities in Windows Media Player Could Allow Remote Code Execution (936782)
© 2008 TWA Blog, All Rights Reserved.