แอปเปิลเปิดตัว iPad รุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 7 มีนาคม 2555 (ตามเวลาในประเทศไทย) โดยแอปเปิลใช้ชื่อว่า new iPad แทนชื่อที่จะใช้ชื่อว่า iPad 3, iPad 2S, iPad HD ตามที่มีผู้คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดย New iPad ใช้โปรเซสเซอร์ dual-core Apple A5X SoC มาพร้อมจอภาพ Retina display ขนาด 9.7 นิ้ว สามารถรองรับความละเอียดสูงสุด 2,048 x 1,536 พิกเซล และมีกล้องด้านหลัง iSight camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอ 1080p HD
iPad รุ่นที่ 3 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก คือ New iPad Wi-Fi และ New iPad Wi-Fi + 4G และมี 6 รุ่นย่อยใน 3 ขนาดความจุได้แก่ 16GB, 32GB, หรือ 64GB โดยมีราคาระหว่าง $499 - $829 US (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,300 - 25,420 บาท) ซึ่งเท่ากับราคา iPad และ iPad 2 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและอีก 11 ประเทศ ในวันศุกร์ที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้
iPad รุ่นที่ 3 ใช้โปรเซสเซอร์ dual-core Apple A5X SoC ที่มีระบบกราฟิกแบบ 6 แกน (quad-core graphics) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 5.1 และมีจอภาพไวด์สกรีน Retina display ขนาด 9.7 นิ้ว LED-backlit glossy Multi-Touch สามารถรองรับการแสดงผลที่ความละเอียดสูงสุด 2,048 x 1,536 พิกเซล ที่ 624 ppi ตัวเครื่องมีความหนา 9.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 652 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi (662 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi + 4G ) มีกล้อง 2 ตัว โดยกล้องด้านหน้าเป็นแบบ VGA สำหรับทำ FaceTime ส่วนกล้อง iSight camera ด้านหลังมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p HD ในด้านการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายนั้น iPad รุ่นที่ 3 สนับสนุนการใช้งานระบบเครือข่ายแบบ 4G LTE ทั้งของ AT&T และ Verizon โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน) และจะมี 2 สีให้เลือก คือ สีดำ และ สีขาว เหมือนเดิม
สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 5.1 นั้นมีคุณสมบัติใหม่หลายอย่าง ได้แก่ Camera app ที่ได้รับการออกแบบใหม่พร้อมกับเทคโนโลยี video stabilization, สามารถทำการลบรูปจาก Photo Stream ได้ สนับสนุนคำสั่งในภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, และ ญี่ปุ่น, สนับสนุนการทำ Personal Hotspot นอกจากนี้ iOS 5.1 ยังทำงานร่วมกับ iCloud ได้อย่างดี ทำให้สามารถใช้บริการคลาวด์ซึ่งรวมถึง iTunes in the Cloud, Photo Stream and Documents in the Cloud, เพื่อซิงค์ข้อมูลระหว่าง iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้แบบอัตโนมัติในแบบไร้สาย
นอกจากนี้ แอปเปิลยังเปิดตัวแอพ iPhoto, iMovie และ GarageBand ซึ่งเป็นชุดแอพ iLife สำหรับ iOS โดยทั้งแอพ iLife และ iWork, Pages, Keynote และ Numbers ได้รับการอัปเดทเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากจอภาพแบบ Retina ของ iPad ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ราคาและการวางจำหน่าย iPad รุ่นที่ 3
แอปเปิลจะวางขาย iPad รุ่นที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สวิสเซอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร และ ยูเอสเวอร์จินไอซ์แลนด์ ผ่านทาง Apple Store ร้านค้าปลีกของแอปเปิล และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยแอปเปิลเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว Pre-Order New iPad สำหรับรายละเอียดรุ่นและราคามีดังนี้
New iPad Wi-Fi
- 16GB Wi-Fi ราคา $499 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,300 บาท
- 32GB Wi-Fi ราคา $599 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 18,370 บาท
- 64GB Wi-Fi ราคา $699 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 21,400 บาท
New iPad Wi-Fi + 4G
- 16GB Wi-Fi + 4G ราคา $629 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 19,290 บาท
- 32GB Wi-Fi + 4G ราคา $729 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 22,360 บาท
- 64GB Wi-Fi + 4G ราคา $829 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25,420 บาท
New iPad (3rd generation) Front view - Credit: Apple
New iPad (3rd generation) Front view - Credit: Apple
ทั้งนี้ iPad เป็นอุปกรณ์ที่ถูกจัดให้อยู่ในระหว่างแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทโฟน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว iPad เมื่อ 27 มกราคม 2553 ถึงปัจจุบัน iPad ทั้ง 2 รุ่นขายได้รวมกันแล้วมากกว่า 55.28* ล้านเครื่อง และคาดว่า New iPasd หรือ iPad รุ่นที่ 3 คงจะประสบความสำเร็จทั้งการยอมรับจากผู้ใช้และการตลาดเช่นเดียวกับ iPad และ iPad 2
หมายเหตุ: *อ้างอิงข้อมูลจาก Wikipedia
บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Copyright © 2012 TWA Blog. All Rights Reserved.
No comments:
Post a Comment
เชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ข้อความ HTML