วิธีการเปิดใช้งาน Windows 7 ผ่านทางโฮสต์ KMS ตอนที่ 1/2

ขั้นตอนสำคัญหลังจากทำการติดตั้ง Windows 7 เสร็จเรียบร้อย คือ การเปิดใช้งาน (Activation) ซึ่งเป็นการลงทะเบียนยืนยันกับไมโครซอฟท์ว่า Windows 7 ที่ใช้เป็นเวอร์ชันที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง โดยวิธีการเปิดใช้งานนั้นจะขึ้นอยู่กับหมายเลขผลิตภัณฑ์ที่ใช้ติดตั้ง คือ Multiple Activation Keys (MAK) ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแบบเครื่องต่อเครื่องโดยทั่วไปแล้วจะใช้กับผู้ใช้งานทั่วไปและในองค์กรขนาดเล็กที่มีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่มาก และ Key Management Service (KMS) ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานครั้งละหลายเครื่อง (Volume Activation หรือ VA) โดยจะเป็นการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากและเป็นลูกค้าแบบ Volume License (VL) ของไมโครซอฟท์

รู้จัก Key Management Service (KMS)
Key Management Service (KMS) เป็นบริการสำหรับใช้จัดการการเปิดใช้งานแบบ VA ภายในองค์กร โดยโฮสต์ KMS (หรือ Hosts) นั้นเป็นตัวกลางในการเปิดใช้งาน Windows 7 ทั้งนี้เครื่องที่ทำหน้าที่เป็นโฮสต์ KMS จะต้องทำการเปิดใช้งานกับไมโครซอฟท์ก่อนจึงจะสามารถให้บริการเปิดใช้งานแก่เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ภายในองค์กรได้ ซึ่งเครื่องลูกข่ายจะทำการเชื่อมต่อกับโฮสต์ KMS เพื่อเปิดใช้งานโดยที่ผู้ดูแลระบบหรือผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการใดๆ (Activate transparently)

ประโยชน์ของการเปิดใช้งาน Windows 7 โดยใช้หรือโฮสต์ KMS มีดังนี้
1. สามารติดตั้ง Windows 7 Enterprise ได้ง่ายขึ้น
2. สามารถใช้ทำการเปิดใช้งาน Windows 7 Enterprise ได้โดยไม่จำกัดจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์
3. ช่วยลดภาระงานของผู้ดูแลระบบที่ทำหน้าที่ดูแลระบบ (ข้อที่สำคัญที่สุด)

การเปิดใช้งาน Windows 7 Enterprise ผ่านทางโฮสต์ KMS
การเปิดใช้งาน Windows 7 Enterprise Edition ผ่านทางโฮสต์ KMS แบ่งการทำงานออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. Planning for Volume Activation
2. Configuring KMS Hosts
3. Installing KMS Hosts
4. Configuring DNS
5. Configuring KMS Clients

โดยบทความนี้จะเป็นการสาธิตขั้นตอนที่ 1-3 ส่วนขั้นตอนที่ 4-5 นั้นอ่านได้จากหัวข้อ ขั้นตอนถัดไป ด้านล่าง

1. วางแผนการติดตั้งผ่านทางโฮสต์ KMS
KMS สามารถใช้ทำการเปิดใช้งานได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์กายภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machines) แต่การเปิดใช้งานลูกข่ายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ไมโครซอฟท์กำหนดหรือที่เรียกว่า Activation Threshold โดยนับจากจำนวนการร้องขอเพื่อทำการเปิดใช้งานที่โฮสต์ KMS ได้รับจากเครื่องลูกข่าย ซึ่งค่า Activation Threshold จะขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Windows โดยของ Windows server 2008 หรือ Windows Server 2008 R2 เท่ากับ 5 เครื่อง ส่วนค่าของ Windows Vista หรือ Windows 7 เท่ากับ 25 เครื่อง

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงความสามารถในการรองรับการเปิดใช้งานของโฮสต์ KMS แต่ละตัวด้วย โดยโฮสต์ KMS 1 ตัว สามารถรองรับการเปิดใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ไม่เกิน 99 เครื่อง ดังนั้นจำนวนของหรือโฮสต์ KMS จะขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ดังนี้
1. Small (<100 machines): KMS Host = 1
2. Medium (>100 machines): KMS Host >= 1
3. Enterprise: KMS Host > 1

ทั้งนี้ นอกจากต้องวางแผนเกี่ยวกับจำนวนโฮสต์ KMS แล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมอื่นๆ ตามรูปแบบการใช้งานดังนี้
1. เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับสำหรับใช้เป็นโฮสต์ KMS
1.1 ใช้ทำการเปิดใช้งาน Windows server 2008, Windows Server 2008 R2, Windows 7 และ Windows Vista: โฮสต์ KMS ต้องเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเครื่องที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโดเมนและเป็นสมาชิกในโดเมน
1.2 ใช้ทำการเปิดใช้งาน Windows 7 และ Windows Vista: โฮสต์ KMS ต้องเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเครื่องที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโดเมนและเป็นสมาชิกในโดเมน
3. หมายเลขผลิตภัณฑ์แบบ KMS Key ซึ่งดูได้จากระบบ Volume License Service Center (VLSC)
4. ต้องมีบัญชีที่มีสิทธิ์ในการจัดการเชิร์ฟเวอร์ DNS ได้
5. ต้องมีบัญชีที่มีสิทธิ์ในการจัดการแอคทีฟไดเร็กตอรีโดเมน (Active Directory Domain Services) ได้
6. ต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 Enterprise อย่างน้อย 25 เครื่อง
7. เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่จะใช้โฮสต์ KMS ต้องสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้

2. Configuring KMS Hosts
ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการเปิดใช้งาน Software Licensing Service (หรือ Software Protection Service) และทำการคอนฟิก Firewall เพื่อให้อนุญาตให้ทราฟิกขาเข้าของพอร์ท TCP หมายเลข 1688 (ค่าดีฟอลท์) ที่ใช้สำหรับโฮสต์ KMS ดังนี้

2.1 ทำการเปิดใช้งาน Software Licensing Service ทำได้ 2 วิธีคือ ใช้สแนป-อิน Services โดยการคลิก Start แล้วพิมพ์ services.msc ในช่อง Search programs and files เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter จากนั้นในหน้าต่าง Services ให้คลิกขวาที่ Software Protection แล้วเลือก Start หรือทำการรันคำสั่ง net stop sppsvc && net start sppsvc ที่คอมมานด์พรอมท์

ภาพที 1. net stop sppsvc && net start sppsvc

2.2 ทำการยกเว้นทราฟิกขาเข้าของพอร์ท TCP หมายเลข 1688 ซึ่งใช้สำหรับโฮสต์ KMS บน Windows Firewall โดยการพิมพ์ firewall ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิก Windows Firewall with Advanced Security จากนั้นในคอลัมน์ Console Tree ให้คลิกหัวข้อ Inbound Rules แล้วดับเบิลคลิก Key Management Service (TCP-In) Properties ในคอลัมน์ Inbound จะปรากฏหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ดังภาพที 2. โดยบนแท็บ General ให้เลือก Enabled จากนั้นให้คลิกแท็บต่างๆ และทำการคอนฟิกตามความเหมาะสม (สามารถใช้ค่าที่กำหนดมาให้ได้) เสร็จแล้วคลิก OK จะได้หน้าต่างลักษณะดังภาพที 3. จากนั้นให้ปิดหน้าต่าง Windows Firewall with Advanced Security เพื่อจบการทำงาน

ภาพที 2. Windows Firewall with Advanced Security

ภาพที 3. Windows Firewall with Advanced Security

ในกรณีที่ใช้โปรแกรม Firewall ตัวอื่นให้ตรวจสอบวิธีการคอนฟิกจากคู่มือโปรแกรมนั้นๆ

3. Installing KMS Hosts
การคอนฟิกโฮสต์ KMS นั้นจะใช้คำสั่งชื่อ Software License Manager หรือ SL Manager ซึ่งเป็นไฟล์วีบีสคริปต์ (Slmgr.vbs) ในการคอนฟิกและดึงข้อมูล Volume Activation โดย SL Manager สามารถทำงานได้ทั้งแบบโลคอลและแบบรีโมท อย่างไรก็ตามคำสั่ง SL Manager จะต้องทำการรันภายใต้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบจึงจะทำงานได้อย่างถูกต้อง

คำสั่ง Slmgr.vbs สามารถทำงานโดยใช้ Wscript.exe หรือ Cscript.exe แต่ค่าดีฟอลท์จะรันโดยใช้ Wscript.exe สำหรับวิธีการรัน Slmgr.vbs (SL Manager) ภายใต้สิทธิ์ Administrator ทำได้โดยการคลิก Start แล้วพิมพ์ cmd ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิกขวาบน cmd แล้วเลือก Run as Administrator สำหรับวิธีการดูรายละเอียดการใช้คำสั่ง Slmgr.vbs ทำได้โดยการพิมพ์ Slmgr.vbs /parameter

การติดตั้งโฮสต์สำหรับทำหน้าทีเป็น KMS ขั้นตอนแรกจะต้องทำการติดตั้งคีย์ KMS ก่อนจากนั้นจึงทำการเปิดใช้งานโฮสต์ KMS โดยใช้ Activation services ของไมโครซอฟท์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์ โดยเครื่องโฮสต์ KMS นั้นสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 7 หรือ Windows Server 2008 R2 ก็ได้ (ในบทความนี้ใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 R2 ทำหน้าที่เป็นโฮสต์ KMS)

สำหรับ Windows Vista, Windows Server 2003, และ Windows Server 2008 สามารถใช้เป็นโฮสต์ KMS ได้เช่นกันแต่จะสามารถใช้เปิดใช้งาน Windows ได้เฉพาะบางเวอร์ชัน อ่านรายละเอียดได้ที่จากเรื่อง Volume Activation 2.0 Planning Guide (http://technet.microsoft.com/en-us/library/cc303276.aspx)

การติดตั้งคีย์ KMS และเปิดใช้งานโฮสต์ KMS บน Windows Server 2008 R2 มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start แล้วพิมพ์ cmd ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิกขวาบน cmd แล้วเลือก Run as Administrator คลิก Yes ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ User Account Control
2. ที่คอมมานด์พรอมท์ให้รันคำสั่ง slmgr.vbs /ipk KmsKey

หมายเหตุ: KmsKey ดูได้จากระบบ Volume License Service Center (VLSC)

ภาพที 4. slmgr.vbs /ipk KmsKey

ภาพที 5. Windows Script Host

3. ทำการเปิดใช้งานโฮสต์ KMS (ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต) โดยการรันคำสั่ง slmgr.vbs /ato ที่คอมมานด์พรอมท์

ภาพที 6. slmgr.vbs /ato

ภาพที 7. Windows Script Host

หมายเหตุ: การเปิดใช้งานโฮสต์ KMS ทางโทรศัพท์ทำได้โดยการรันคำสั่ง slui.exe 4 ที่คอมมานด์พรอมท์

4. หลังจากทำการการเปิดใช้งานโฮสต์ KMS เสร็จแล้วให้ทำการรีสตาร์ท Software Licensing Service โดยการคลิก Start แล้วพิมพ์ services.msc ในช่อง Search programs and files เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter จากนั้นในหน้าต่าง Services ให้คลิกขวาที่ Software Protection แล้วเลือก Restart หรือทำการรันคำสั่ง net stop sppsvc && net start sppsvc ที่คอมมานด์พรอมท์ ดังภาพที 1.

ข้อควรระวัง:
ไมโครซอฟท์อนุญาตให้ติดตั้งโฮสต์ KMS ได้ไม่เกิน 6 เครื่องเท่านั้น ดังนั้นควรวางแผนให้รอบคอบก่อนทำการติดตั้ง และในกรณีที่ทำการติดตั้งโฮสต์ KMS โดยใช้อินเทอร์เฟชแบบกราฟิก (Graphic User Interface) ระบบจะแสดงหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ดังภาพที 8. เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดูแลระบบทำการติดตั้ง KMS key โดยไม่ตั้งใจ (ระบบจะไม่ทำการแจ้งเตือนถ้าผู้ดูแลระบบทำการติดตั้งโฮสต์ KMS โดยใช้สคริปต์คำสั่ง Slmgr.vbs)

ภาพที 8. Windows Activation

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

ขั้นตอนถัดไป: วิธีการเปิดใช้งาน Windows 7 ผ่านทางโฮสต์ KMS ตอนที่ 2/2

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Planning for Volume Activation
KMS Setup in Windows 7 (Video)

Copyright © 2011 TWA Blog. All Rights Reserved.