บทความนี้จะแสดงวิธีการติดตั้งหน้าที่ Windows Server Update Services (WSUS) 3.0 SP2 บนระบบ Windows Server 2008 R2 Enterprise x64 ซึ่งเป็นระบบเวอร์ชวลแมชชีน (Virtual Machine)
ดาวน์โหลด WSUS 3.0 SP2
ใน Windows Server 2008 R2 Enterprise x64 นั้น WSUS 3.0 SP2 จะถูกบิลด์อินเข้าเป็นหน้าที่ (Role) หนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ จึงไม่ต้องทำการดาวน์โหลดตัวติดตั้ง สำหรับใครที่ต้องการติดตั้ง WSUS 3.0 SP2 บน Windows Server 2003 สามารถอ่านรายละเอียดการดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ การดาวน์โหลด WSUS 3.0 SP2
ระบบที่ใช้ในการติดตั้ง
การติดตั้ง WSUS 3.0 SP2 ในบทความนี้ จะติดตั้งบนเวอร์ชวลแมชชีนบน Windows Server 2008 R2 Hyper-V ซึ่งติดตั้งบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ IBM System x3650 ใช้ซีพียู Intel Xeon E5440 2.83GHz, L2 Cache 12MB, FSB 1333MHz โดยเวอร์ชวลแมชชีนมีหน่วยความจำ 2GB สำหรับรายละเอียดความต้องการระบบของ WSUS สามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ รายละเอียดโปรแกรม WSUS 3.0 SP2
การเตรียมระบบก่อนทำการติดตั้ง
ก่อนทำการติดตั้ง WSUS 3.0 SP2 จะต้องทำการติดตั้ง Microsoft Report Viewer 2008 โดยดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Microsoft Report Viewer 2008
ขั้นตอนการติดตั้ง WSUS 3.0 SP2
หลังจากทำการเตรียมระบบต่างๆ พร้อมแล้ว ให้ทำการล็อกออนด้วยแอคเคาท์กลุ่ม Administrator จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Start คลิก Administrative Tools แล้วคลิก Server Manager
2. ในหน้าต่าง Server Manager ให้เลื่อนลงไปยังหัวข้อ Roles Summary จากนั้นคลิก Add Roles
รูปที่ 1 Add Roles
3. ในหน้า Before You Begin ให้คลิก Next
4. ในหน้า Select Server Roles ให้คลิกเลือกเช็คบ็อกซ์หน้า Windows Server Update Services แล้วในหน้า Add Roles Wizard ให้คลิก Add Required Role Services
รูปที่ 2 Add Required Role Services
จากนั้นจะได้หน้า Select Server Roles ซึ่งมีการเลือกเช็คบ็อกซ์ Web Server (IIS) และ Windows Server Update Services ดังรูปด้านล่าง ให้คลิก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
รูปที่ 3 Select Server Roles
5. ในหน้า WEB Server (IIS) ให้คลิก Next
6. ในหน้า Select Role Services ให้คลิก Next
7. ในหน้า Windows Server Update Services ให้คลิก Next
8. ในหน้า Confirm Installation Selection ให้คลิก Install
รูปที่ 4 Confirm Installation Selection
9. ในหน้า Installation Progress ให้รอจนการติดตั้ง WEB Server (IIS) แล้วเสร็จ
10. ในหน้า Welcome to the Windows Server Update Services 3.0 SP2 Setup Wizard ให้คลิก Next
รูปที่ 5 WSUS 3.0 SP2 Setup Wizard
11. ในหน้า License Agreement ให้เลือก I accept the term of the license Agreement เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 6 License Agreement
12. ในหน้า Select Update Source ให้เลือก Store Update Locally และกำหนดโฟลเดอร์เป็น C:\WSUS ดังรูปด้านล่าง เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 7 Select Update Source
13. ในหน้า Database options ให้เลือก Install Windows Internal Database on this computer และกำหนดโฟลเดอร์เป็น D:\WSUS ดังรูปที่ 5 เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 8 Database options
13. ในหน้า Web Site Selection ในที่นี้เลือกเป็น Create a Windows Server Update Services 3.0 SP2 Web site ดังรูปที่ 6 เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 9 Web Site Selection
14. ในหน้า Ready to Install Windows Server Update Services 3.0 SP2 ดังรูปที่ 7 ให้ตรวจสอบการตั้งค่าต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ หากมีข้อผิดพลาดให้กลับไปแก้ไขให้ถูกต้อง เสร็จแล้วคลิก Next
รูปที่ 10 Ready to Install WSUS 3.0 SP2
15. รอจนระบบทำการติดตั้งแล้วเสร็จ จากนั้นในหน้า Completing the Windows Server Update Services 3.0 SP2 Setup Wizard ดังรูปที่ 8 ให้คลิก Finish
รูปที่ 11 Completing WSUS 3.0 SP2 Setup Wizard
16. จากนั้นในหน้า Installation Results ดังรูปที่ 8 ให้คลิก Close แล้วปิดหน้าต่าง Server Manager เพื่อจบการทำงาน
รูปที่ 12 Installation Results
เมื่อดำเนินการมาถึงจุดนี้ แสดงว่าขั้นตอนการติดตั้ง WSUS 3.0 SP2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการคอนฟิก WSUS 3.0 SP2 ซึ่งระบบจะแสดงหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Windows Server Update Services Configuration Wizard สำหรับขั้นตอนการคอนฟิกนั้นสามารถอ่านรายละเอียดได้จากบทความเรื่อง การคอนฟิกระบบ WSUS 3.0 SP1
บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog
© 2009 TWA Blog. All Rights Reserved.
1 comment:
Post a Comment
เชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ข้อความ HTML