คำสั่ง Reg.exe นั้นเป็นคำสั่งสำหรับใช้ในการ เพิ่ม (add), การแก้ไข(change) และแสดงรายละเอียดของ (display) คีย์ย่อย (subkey) และการตั้งค่าของรีจีสทรี ถ้าหากทำการรันคำสั่ง reg โดยไม่ใส่พารามิเตอร์ใดๆ ก็จะแสดงวิธีการใช้งานคำสั่ง ซึ่งคำสั่งที่สามารถใช้งานได้นั้นมี 11 คำสั่ง ดังนี้
reg query
reg add
reg delete
reg copy
reg save
reg restore
reg load
reg unload
reg compare
reg export
reg inport
Syntax
ซินเท็กซ์การใช้งานคำสั่ง Reg.exe มีรายละเอียดดังนี้
1. reg query มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg query KeyName [{/v EntryName/ve}] [/s]
Parameters
คำสั่ง reg query มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
/v EntryName : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อย
/ve : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อยเป็นค่าว่าง
/s separator : กำหนดอักขระที่ใช้ในการคั่นระหว่างค่าของข้อมูลแต่ละตัว ซึ่งจะใช้งานในกรณีที่ประเภทของข้อมูลเป็น REG_MULTI_SZ และมีหลายๆ ตัว โดยค่าดีฟอลท์นั้นเป็น \0
2. reg add มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg add KeyName [/v EntryName/ve] [/t DataType] [/s separator] [/d value] [/f]
Parameters
คำสั่ง reg add มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป็นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
/v EntryName : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อย
/ve : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อยเป็นค่าว่าง
/t DataType : กำหนดประเภทของข้อมูลที่ต้องการเพิ่ม โดยค่าที่ใช้ได้มีดังนี้
REG_SZ
REG_MULTI_SZ
REG_DWORD_BIG_ENDIAN
REG_DWORD
REG_BINARY
REG_DWORD_LITTLE_ENDIAN
REG_LINK
REG_FULL_RESOURCE_DESCRIPTOR
REG_EXPAND_SZ
/s separator : กำหนดอักขระที่ใช้ในการคั่นระหว่างค่าของข้อมูลแต่ละตัว ซึ่งจะใช้งานในกรณีที่ประเภทของข้อมูลเป็น REG_MULTI_SZ และมีหลายๆ ตัว โดยค่าดีฟอลท์นั้นเป็น \0
/d value : กำหนดค่าให้กับ registry entry ตัวใหม่
/f : ทำการเพิ่ม subkey หรือ entry ไดยไม่ต้องถามให้ยืนยัน
/?: แสดงความช่วยเหลือในการใช้งาน
หมายเหตุ
- คำสั่ง reg นั้น ไม่สามารถทำการสร้าง subtree ได้
- การใช้คำสั่ง reg ทำการเพิ่ม subkey นั้น จะไม่ถามให้ยืนยัน
- ค่าที่ได้รับจากการทำคำสั่ง reg add นั้น มี 2 ค่า คือ 0=Success และ 1=Failure
3. reg delete มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg delete KeyName [{/v EntryName/ve/va}] [/f]
Parameters
คำสั่ง reg delete มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
/v EntryName : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อย
/ve : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อยเป็นค่าว่าง
/va : ทำการลบทุกๆ ค่าที่อยู่ภายใต้ subkeyที่กำหนด ทั้งนี้ subkey จะไม่ถูกลบไปด้วย
/f : ทำการลบ subkey หรือ entry ไดยไม่ต้องถามให้ยืนยัน
4. reg copy มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg copy KeyName1 KeyName2 [/s] [/f]
Parameters
คำสั่ง reg copy มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName1, Keyname2 : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
/s : ทำการสำเนา subkey และ ค่าของ subkey ที่อยู่ภายใต้ subkey ที่กำหนด
/f : ทำการสำเนา subkey ไดยไม่ต้องถามให้ยืนยัน
5. พำreg save มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg save KeyName FileName
Parameters
คำสั่ง reg save มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
FileName : กำหนดชื่อและพาธของไฟล์ที่ต้องการบันทึก หากไม่กำหนดพาธ จะใช้พาธที่รันคำสั่ง
6. reg restore มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg restore KeyName FileName
Parameters
คำสั่ง reg restore มีพารามิเตอร์ต่างๆ ในการใช้งานดังนี้
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
FileName : กำหนดชื่อและพาธของไฟล์ที่ต้องการรีสตอร์กลับเข้ารีจีสทรี โดยต้องเป็นไฟล์ .hiv ซึ่งสร้างขึ้นจากจากคำสั่ง reg save
7. reg load มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg load KeyName FileName
Parameters
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
8. reg unload มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg unload KeyName
Parameters
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
9. reg compare มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg compare KeyName1 KeyName2 [/v EntryName /ve] {[/oa][/od][/os][on]} [/s]
Parameters
KeyName1, Keyname2 : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
/v EntryName : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อย
/ve : กำหนดชื่อของคีย์ที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในคีย์ย่อยเป็นค่าว่าง
{[/oa][/od][/os][on]} : กำหนดวิธีการแสดงผลการเปรียบเทียบ ค่าดีฟอลท์เป็น /od
/oa=กำหนดให้แสดงผลการเปรียบเทียบทั้งที่เหมือนกันและต่างกัน
/od=กำหนดให้แสดงผลการเปรียบเทียบเฉพาะที่ต่างกัน (default)
/os=กำหนดให้แสดงผลการเปรียบเทียบเฉพาะที่เหมือนกัน
/on=กำหนดให้ไม่แสดงผลการเปรียบเทียบ
/s Separator : ทำการเปรียบเทียบ subkeys และค่าของ subkey ทั้งหมด
10. reg export มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg export KeyName FileName
Parameters
KeyName : กำหนดพาธเต็มของคีย์ย่อยของรีจีสทรี ถ้าหากเป็นการใช้งานแบบรีโมตนั้น จะต้องใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ \\ComputerName\PathToSubkey ถ้าหากใช้งานโดยไม่ใส่ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป้นการทำงานแบบ Local Computer สำหรับค่าซับทรีที่สามารถใช้งานได้นั้น คือ HKLM, HKCU, HKCR, HKU และ HKCC
FileName : กำหนดชื่อและพาธของไฟล์ที่ต้องการส่งออก โดยไฟลที่ได้จะมีนามสกุล .reg
11. reg import มีซินเท็กซ์การใช้งานดังนี้
reg import FileName
Parameters
FileName : กำหนดชื่อและพาธของไฟล์ที่ต้องการส่งออก โดยไฟลที่ได้จะมีนามสกุล .reg
ตัวอย่าง:
EX1: ทำการปิดบริการ Windows Script Host ทำได้ดังนี้
reg add "HKLM\Software\Microsoft\Windows Script Host\Settings" /v Enabled /t REG_DWORD /d 0x00000000
แหล่งอ้างอิง:
Windows XP REG.EXE ที่เว็บไซต์ Windows XP Pro Product documentation
Keywords: การใช้งาน reg.exe reg add registry add
© 2007 Thai Windows Administrator, All Rights Reserved.
No comments:
Post a Comment
เชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ข้อความ HTML